วันพฤหัสที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2567

น้ำเน่าเดิมๆ!!??

On April 5, 2018

คอลัมน์:จับกระแสการเมือง “น้ำเน่าเดิมๆ!!??”

โดย ทีมข่าวการเมือง(โลกวันนี้วันสุข 6-13 เมษายน 2561)

“พูดอะไรมาก็ระมัดระวังไว้ด้วย การพูดจาต่างๆต้องระมัดระวัง และอยู่ที่ประชาชนเขาจะเชื่อถือได้แค่ไหน อย่างไร ผมไม่ได้หมายความว่าทุกคนจะต้องมาสนับสนุน แต่กรุณาพูดจาให้มันดีๆ ใครจะสนับสนุนหรือไม่สนับสนุนผมก็แล้วแต่เขา ไอ้การพูดอย่างนี้มันฟังดูดีหรือเปล่า ให้เกียรติซึ่งกันและกันหรือเปล่า ถ้าบางเวลาผมมีอารมณ์ขึ้นมาแล้วผมพูดไปมันก็เสียหายด้วยกันทั้งหมด ผมไม่อยากจะมีอารมณ์ตรงนี้ ประชาชนก็ไปใคร่ครวญเอาเอง และดูด้วยว่าวันหน้าเขาจะทำตัวกันอย่างไร ที่ออกมาพูดกันวันนี้ ลองคอยดูวันหน้าก็แล้วกัน เลือกตั้งแล้วจะเกิดอะไรขึ้น แล้วเขาจะเปลี่ยนท่าทีอะไรกันอย่างไร ไปคอยดูตรงโน้นแล้วกัน แล้วค่อยไปถามเขาอีกที”

คำพูดของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่ให้สัมภาษณ์ว่าหากใครสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรีคนนอกไม่ต้องมาที่พรรคประชาธิปัตย์ ให้ไปที่อื่นแทน สะท้อนนัยหลายอย่างทางการเมือง ไม่ว่าจะเป็นในอดีต ปัจจุบัน และอนาคต

4785 Black

แม้นายอภิสิทธิ์จะตอบผ่านเฟซบุ๊คว่า พล.อ.ประยุทธ์คงไม่ได้ดูหรือฟังคำสัมภาษณ์ของตนเมื่อวันที่ 1 เมษายนที่ผ่านมา เพราะไม่มีตรงไหนที่ไปพาดพิงถึงใครในทางเสียหายหรือไม่ให้เกียรติใคร อีกทั้งเป็นการให้ความเห็นว่าผู้ใดจะตัดสินใจสังกัดพรรคใดก็ควรจะยึดมั่นแนวทางที่พรรคนั้นประกาศต่อประชาชน ซึ่งเป็นไปตามหลักการสากลและเป็นการให้เกียรติประชาชน ซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด

ท่าทีทางการเมืองของนายอภิสิทธิ์ที่ระยะหลังดูเหมือนจะพยายามแสดงให้เห็นว่าเป็นผู้นำที่เข้มแข็งเด็ดขาด  รวมถึงจุดยืนของพรรคประชาธิปัตย์ที่ยืนยันไม่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ หรือ “นายกฯคนนอก” นั้น  หลายฝ่ายก็ยังไม่เชื่อว่าพรรคประชาธิปัตย์จะไม่เปลี่ยนไป  อย่างที่ พล.อ.ประยุทธ์ พูดสบประมาทให้ดูพรรคประชาธิปัตย์หลังการเลือกตั้งจะเปลี่ยนไปหรือไม่

ในภาวะการเมืองที่ยังอึทครึม นายอภิสิทธิ์เองก็ไม่มีทางเลือกมากนัก  หากไม่แสดงจุดยืนอยู่ข้างประชาชนอย่างชัดเจน  โดยเฉพาะอดีตแกนนำกลุ่ม กปปส. ที่เกือบทั้งหมดกลับมาเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์  แม้จะไม่ไปร่วมกับพรรคใหม่ที่นายธานี เทือกสุบรรณ น้องชายนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประกาศจะจัดตั้งเพื่อสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรีต่อไป  แต่ก็ทำให้พรรคประชาธิปัตย์ถูกมองว่ากำลัง “เหยียบเรือสองแคม”

ภาพของพรรคประชาธิปัตย์ละกลุ่มต่างๆที่ประกาศสนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์  จึงสะท้อนให้เห็นการเมืองไทยในอนาคตว่า ไม่ว่านักการเมืองและกลุ่มผู้มีอำนาจจะพูดอะไรขณะนี้ก็ต้องฟังหูไว้หู  เพราะหากมีการเลือกตั้งตามกติกาที่เขียนไว้ขณะนี้  จะไม่มีพรรคใดจะได้เสียงแบบถล่มทลายเหมือนที่ผ่านมา  การจัดตั้งรัฐบาลก็หนีไม่พ้น “รัฐบาลผสม” ที่จะมีการต่อรองกันอย่างเข้มข้น

แม้ พล.อ.ประยุทธ์จะมีโอกาสสูงที่เข้ามาในฐานะ “นายกฯคนนอก” หรืออยู่ในบัญชีรายชื่อของพรรคการเมืองใดพรคหนึ่ง  แต่สถานการณ์ก็จะเปลี่ยนไป  ไม่สามารถ “ชี้นกเป็นไม้ ชี้ไม้เป็นนก” ได้ตามอำเภอใจ แม้แต่ท่าทีของกองทัพก็ต้องเปลี่ยนไป

อย่างที่ “บิ๊กเจี๊ยบ” พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) บอกว่า กองทัพสนับสนุนทุกรัฐบาล  ซึ่งก็ต้องดูว่า “จิตสำนึก” ของผู้นำเหล่าทัพว่า จะยึดผลประโยชน์ของประเทศและประชาชนเป็นหลัก หรือยึดตัวบุคคลเป็นหลัก

ยิ่งโลกกำลังก้าวสู่ยุค 5.0 แล้ว  ไม่ใช่แค่ยุค 4.0  ทุกอย่างในโลกก็ยิ่งเปลี่ยนไป ไม่ว่าจะเป็นเศรษฐกิจ การเมือง และสังคม

การทำรัฐประหารซ้ำซากก็จะยิ่งถูกประณามและสร้างความหายนะให้กับประเทศและประชาชน  ประชาคมโลกต่างก็รังเกียจ

การเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยก็ต้องเกิดขึ้น  ไม่ว่าจะเร็วหรือช้า  ไม่ว่ากฎกติกาจะเขียนหมกเม็ดอย่างไร สุดท้ายก็อยู่ที่ประชาชน  ซึ่งต้องการรัฐบาลที่เป็นของประชาชน และต้องการกองทัพของประชาชน ไม่ใช่อ้างความสงบเป็นความชอบธรรมในการทำรัฐประหาร !

วันนี้ประชาชนและพรรคการเมืองส่วนใหญ่จึงประสานเสียงไม่เอา “นายกฯคนนอก” และไม่ต้องการให้ “สืบทอดอำนาจ (เผด็จการ)”

เมื่อโลกเปลี่ยน แต่การเมืองไทยไม่เปลี่ยน ไม่ว่าจะกลุ่มอำนาจใด องค์กรใด สถาบันใด  หากยังจมปลักอยู่กับ “วงจรอุบาท์” และ “การเมืองน้ำเน่าเดิมๆ”

บ้านเมทืองก็มีแต่หายนะเท่านั้น !

 


You must be logged in to post a comment Login