ธูปเทียนไม่เป็นพิษ / โดย พระพยอม กัลยาโณ

• Tweet
• 

คอลัมน์ : สำนักข่าวพระพยอม

ผู้เขียน : พระพยอม กัลยาโณ

มีข่าวว่าศาลสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ ที่มีผู้คนให้ความเชื่อ ความศรัทธา และความงมงายต่างๆนั้น เป็นหนึ่งในปัญหาที่ก่อให้เกิดมลพิษทางอากาศที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพของมนุษย์ เพราะสภาพแวดล้อมศาลสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เช่น ศาลพระพรหมเอราวัณที่มีผู้คนไปกราบไหว้บูชากันมากมายนั้น ทำให้มีควันและกลิ่นธูปเทียนฟุ้งกระจาย จนทำให้เกิดปัญหาต่อระบบทางเดินหายใจ ทำให้สุขภาพของผู้ที่สูดดมเข้าไปย่ำแย่

ทางศาลพระพรหมเอราวัณก็ตระหนักถึงปัญหานี้ จึงได้ติดป้ายประกาศให้คนที่มากราบไหว้ ไม่ว่าจะเป็นคนไทยหรือชาวต่างชาติงดจุดธูปเทียน ซึ่งเป็นเรื่องที่ดี ถือเป็นศาลสิ่งศักดิ์สิทธิ์แห่งแรกที่นำร่องทำเรื่องนี้ ซึ่งศาลสิ่งศักดิ์สิทธิ์ตามสถานที่ต่างๆในประเทศมีมากมาย หากยังให้จุดธูปเทียนกันตามอำเภอใจก็มีแต่สร้างปัญหาควันที่ฟุ้งกระจาย กลายเป็นศรัทธาที่สร้างทุกข์ให้คนอื่น

ลองคิดดูว่าความเชื่อ ความศรัทธาที่งมงายแล้วไปสร้างความเดือดร้อนให้ผู้อื่นเจ็บป่วย จะได้บุญหรือได้บาป ยิ่งเป็นสถานที่มีผู้คนไปจุดธูปเทียนหามรุ่งหามค่ำทั้งวันทั้งคืน ผู้คนที่อยู่บริเวณนั้นจะมีสภาพอย่างไร ซึ่งเรื่องนี้หลายวัดก็มีการแก้ปัญหา อย่างวัดชลประทานราษฎร์รังสฤษดิ์ไม่สนับสนุนให้มีการจุดธูปเทียน แต่ใช้ธูปเทียนไฟฟ้า หรือจะเรียกว่าธูปเทียนอัตโนมัติก็ได้ ใช้สวิตช์กดแป็บเดียวทั้งธูปและเทียนก็ติดสว่าง ถือเป็นการสักการะบูชาพระรัตนตรัยได้เช่นกัน

วิวัฒนาการของโลกทำให้มีเรื่องดีๆ ซึ่งสามารถนำมาใช้กับวัดกหรืศาลสิ่งศักดิ์สิทธิ์ตามสถานที่ต่างๆ ได้อย่างดี ไม่สร้างปัญหาให้กับสิ่งแวดล้อมและชาวบ้านที่อาศัยอยู่บริเวณใกล้เคียง ไม่ใช่สร้างความเดือดร้อนรำคาญจนมีคนร้องเรียน

อาตมาเคยบอกไปแล้วว่า ขนาดพระพรหมมี 4 หน้า 8 ลูกตา เขาเอาระเบิดมาวางก็ยังไม่เห็นเลย จนคางบิ่น โดนตีด้วยค้อน รถก็ชน คนเราก็น่าจะคิดได้ว่าถ้าศาลพระพรหมมีความศักดิ์สิทธิ์จริงศักดิ์สิทธิ์แท้ ก็คงจะทำให้ควันจากธูปเทียนที่จุดไม่กระจายไปจนสร้างความเดือดร้อนอย่างนี้  พระพรหมเองต้องไม่สร้างความทุกข์ ความเดือดร้อนให้กับผู้คน ไม่ปล่อยให้คนที่เคารพนับถือสร้างความเดือดร้อนกับผู้อื่นและสิ่งแวดล้อม

โดยเฉพาะชาวพุทธแท้ต้องมีศรัทธาที่เป็นศรัทธาเลื่อนระดับ ไม่ใช่ศรัทธาเลื่อนเปื้อน ศรัทธาเลื่อนลอย เพราะศรัทธาที่ไม่เลื่อนระดับมีแต่สร้างความเดือดร้อน สร้างความเสียหายต่อสังคม ความเชื่อถือไม่ใช่จมปลักอยู่กับความไร้สาระ แม้จะมีบางคนอ้างว่าไปบนบานแล้วได้ผล แต่มีกี่ราย เรื่องแบบนี้ถ้ามีสติ มีปัญหา ใช้วิจารณญาณพิจารณาก็รู้แล้วว่าเป็นเรื่องไร้สาระหรือไม่

เจริญพร

คอลัมน์ : สำนักข่าวพระพยอม

ผู้เขียน : พระพยอม กัลยาโณ

มีข่าวว่าศาลสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ ที่มีผู้คนให้ความเชื่อ ความศรัทธา และความงมงายต่างๆนั้น เป็นหนึ่งในปัญหาที่ก่อให้เกิดมลพิษทางอากาศที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพของมนุษย์ เพราะสภาพแวดล้อมศาลสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เช่น ศาลพระพรหมเอราวัณที่มีผู้คนไปกราบไหว้บูชากันมากมายนั้น ทำให้มีควันและกลิ่นธูปเทียนฟุ้งกระจาย จนทำให้เกิดปัญหาต่อระบบทางเดินหายใจ ทำให้สุขภาพของผู้ที่สูดดมเข้าไปย่ำแย่

ทางศาลพระพรหมเอราวัณก็ตระหนักถึงปัญหานี้ จึงได้ติดป้ายประกาศให้คนที่มากราบไหว้ ไม่ว่าจะเป็นคนไทยหรือชาวต่างชาติงดจุดธูปเทียน ซึ่งเป็นเรื่องที่ดี ถือเป็นศาลสิ่งศักดิ์สิทธิ์แห่งแรกที่นำร่องทำเรื่องนี้ ซึ่งศาลสิ่งศักดิ์สิทธิ์ตามสถานที่ต่างๆในประเทศมีมากมาย หากยังให้จุดธูปเทียนกันตามอำเภอใจก็มีแต่สร้างปัญหาควันที่ฟุ้งกระจาย กลายเป็นศรัทธาที่สร้างทุกข์ให้คนอื่น

ลองคิดดูว่าความเชื่อ ความศรัทธาที่งมงายแล้วไปสร้างความเดือดร้อนให้ผู้อื่นเจ็บป่วย จะได้บุญหรือได้บาป ยิ่งเป็นสถานที่มีผู้คนไปจุดธูปเทียนหามรุ่งหามค่ำทั้งวันทั้งคืน ผู้คนที่อยู่บริเวณนั้นจะมีสภาพอย่างไร ซึ่งเรื่องนี้หลายวัดก็มีการแก้ปัญหา อย่างวัดชลประทานราษฎร์รังสฤษดิ์ไม่สนับสนุนให้มีการจุดธูปเทียน แต่ใช้ธูปเทียนไฟฟ้า หรือจะเรียกว่าธูปเทียนอัตโนมัติก็ได้ ใช้สวิตช์กดแป็บเดียวทั้งธูปและเทียนก็ติดสว่าง ถือเป็นการสักการะบูชาพระรัตนตรัยได้เช่นกัน

วิวัฒนาการของโลกทำให้มีเรื่องดีๆ ซึ่งสามารถนำมาใช้กับวัดกหรืศาลสิ่งศักดิ์สิทธิ์ตามสถานที่ต่างๆ ได้อย่างดี ไม่สร้างปัญหาให้กับสิ่งแวดล้อมและชาวบ้านที่อาศัยอยู่บริเวณใกล้เคียง ไม่ใช่สร้างความเดือดร้อนรำคาญจนมีคนร้องเรียน

อาตมาเคยบอกไปแล้วว่า ขนาดพระพรหมมี 4 หน้า 8 ลูกตา เขาเอาระเบิดมาวางก็ยังไม่เห็นเลย จนคางบิ่น โดนตีด้วยค้อน รถก็ชน คนเราก็น่าจะคิดได้ว่าถ้าศาลพระพรหมมีความศักดิ์สิทธิ์จริงศักดิ์สิทธิ์แท้ ก็คงจะทำให้ควันจากธูปเทียนที่จุดไม่กระจายไปจนสร้างความเดือดร้อนอย่างนี้  พระพรหมเองต้องไม่สร้างความทุกข์ ความเดือดร้อนให้กับผู้คน ไม่ปล่อยให้คนที่เคารพนับถือสร้างความเดือดร้อนกับผู้อื่นและสิ่งแวดล้อม

โดยเฉพาะชาวพุทธแท้ต้องมีศรัทธาที่เป็นศรัทธาเลื่อนระดับ ไม่ใช่ศรัทธาเลื่อนเปื้อน ศรัทธาเลื่อนลอย เพราะศรัทธาที่ไม่เลื่อนระดับมีแต่สร้างความเดือดร้อน สร้างความเสียหายต่อสังคม ความเชื่อถือไม่ใช่จมปลักอยู่กับความไร้สาระ แม้จะมีบางคนอ้างว่าไปบนบานแล้วได้ผล แต่มีกี่ราย เรื่องแบบนี้ถ้ามีสติ มีปัญหา ใช้วิจารณญาณพิจารณาก็รู้แล้วว่าเป็นเรื่องไร้สาระหรือไม่

เจริญพร

You must be logged in to post a comment Login