วันเสาร์ที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2567

“ TLUXE ”มั่นใจสภาพคล่องแข็งแกร่ง – เล็งปรับโครงสร้างบริษัทฯ

On March 5, 2018

นายสุวิทย์ วรรณะศิริสุข ผู้อำนวยการสายบัญชีและการเงิน บริษัท ไทยลักซ์ เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TLUXE  เปิดเผยว่า บริษัทฯ ยังคงได้รับความไว้วางใจจากสถาบันการเงินชั้นนำในการสนับสนุนด้านการลงทุนโครงการต่างๆ ของบริษัทฯ อย่างต่อเนื่อง เพราะโครงการที่ลงทุนนั้น ล้วนแต่เป็นธุรกิจที่สร้างผลการดำเนินงานที่ยั่งยืนให้กับบริษัทฯ ในระยะยาว

โดยในช่วงปี 2560 ที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้รับการสนับสนุนทางการเงินจากสถาบันการเงินต่างๆ  ได้แก่ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) สนับสนุนวงเงินสินเชื่อจำนวน  2,205 ล้านเยน หรือ 640  ล้านบาท   เพื่อใช้ในการลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนใต้พิภพ (Geothermal Energy) จำนวน 8 โครงการ และ ธนาคารไทยพาณิชย์ สนับสนุนวงเงินสินเชื่อ จำนวน 450 ล้านบาท เพื่อใช้ในการลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนใต้พิภพ (Geothermal Energy) เช่นเดียวกัน

นายสุวิทย์ กล่าวเพิ่มอีกว่า สำหรับผลการดำเนินงานในงวดปี 2560 ที่ปรับตัวลดลงนั้น ส่วนใหญ่เป็นการปรับปรุงตามมาตรฐานการบัญชี โดยใช้การประมาณการเป็นหลัก ซึ่งยังไม่สะท้อนการดำเนินงานที่แท้จริง รวมทั้งการตั้งสำรองค่าเผื่อการด้อยค่าของเครื่องจักร ที่ไม่ได้ใช้งานกว่า 5 ปี

ขณะที่ศักยภาพการทำงาน และมูลค่าของเครื่องจักรไม่ได้ลดลง เพียงแต่ไลน์การผลิตไม่ตรงกับความต้องการของตลาดในปัจจุบัน และบริษัทฯ อยู่ระหว่างการลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนใต้พิภพ (Geothermal Energy) และโครงการพลังงานลมในประเทศญี่ปุ่น ส่งผลให้มีต้นทุนการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้น

ผู้อำนวยการสายบัญชีและการเงิน บริษัท ไทยลักซ์ เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TLUXE  กล่าวอีกว่า นอกจากนี้บริษัทฯ อยู่ระหว่างศึกษาแผนการปรับโครงสร้างบริษัทฯ ใหม่ ทั้งนี้ เพื่อให้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ ที่พร้อมมุ่งสร้างอนาคตด้วยธุรกิจใหม่  สู่การเติบโตอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน ซึ่งเป็นไปตามทิศทาง และ  กลยุทธ์การขยายโอกาสทางธุรกิจ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

พร้อมยังมีแผนการศึกษาช่องทางการเพิ่มสภาพคล่องทางการเงินด้านการลงทุนในโครงการพลังงานความร้อนใต้พิภพ (Geothermal Energy) และโครงการพลังงานลมในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งคาดว่าจะเป็นลักษณะการออก Infrastructure Fund ในประเทศญี่ปุ่น โดยจะสามารถสรุปได้ในเร็วๆ นี้ และเชื่อว่าจะทำให้บริษัทฯ  มีศักยภาพ    การลงทุนเพิ่มมากขึ้น

สำหรับโอกาสการขยายการลงทุนในญี่ปุ่นนั้น จะดำเนินควบคู่ไปกับแผนลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนใต้พิภพ ที่บริษัทฯ มีแผนจะดำเนินการเปิดอีก 32 โครงการภายในปีนี้ ส่งผลให้บริษัทฯ มีโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนใต้พิภพ รวมทั้งสิ้น 56 โครงการ ตั้งเป้าขึ้นแท่นเป็นผู้นำธุรกิจพลังงานความร้อนใต้พิภพ รายใหญ่ที่สุด ในเมืองเบปปุ จ.โออิตะ ประเทศญี่ปุ่น ส่วนแผนการลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม ที่เมือง      อาโอโมริ (Aomori) ประเทศญี่ปุ่น เพิ่มอีกจำนวน 20 ยูนิต  จากปัจจุบันมีการลงทุนแล้ว 7 ยูนิต ส่งผลให้บริษัทฯ    มีโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมทั้งสิ้น 27 ยูนิต

ขณะที่ธุรกิจผลิตและจำหน่ายอาหารสัตว์น้ำ เพิ่มไลน์การผลิตที่โรงงานจังหวัดสงขลา เพื่อกระจายสินค้าเพิ่มขึ้น ให้ทันต่อความต้องการของลูกค้า ทำให้กำลังการผลิตแตะที่ระดับ 80% ของกำลังผลิตรวม ทั้งนี้เพื่อรองรับการเติบโตของตลาดอาหารสัตว์น้ำในพื้นที่ภาคใต้  ที่มีความต้องการสินค้าเพิ่มสูงขึ้น โดยให้ความสำคัญกับคุณภาพของสินค้าเป็นหลัก


You must be logged in to post a comment Login