ข้อคิดวันมาฆบูชา / โดย พระพยอม กัลยาโณ

• Tweet
• 

คอลัมน์ : สำนักข่าวพระพยอม

ผู้เขียน : พระพยอม กัลยาโณ

มาฆบูชาเป็นวันสำคัญที่สุดของพุทธศาสนา เพราะพระพุทธเจ้าให้โอวาทปาติโมกข์ที่ถือเป็น “หัวใจพระพุทธศาสนา” 3 ข้อคือ การไม่ทำบาปทั้งปวง การทำกุศลให้ถึงพร้อม และการทำจิตใจให้บริสุทธิ์

การพยายามปัดบาปออกจากตัว ปัดชั่วออกจากใจ บาปข้อแรกที่เห็นชัดคือ  “ปาณาติบาต” ทารุณสัตว์ ฆ่าสัตว์ เดี๋ยวนี้ทุบแมว ทุบหมา สังคมก็ประณาม ยิ่งเศรษฐีไปทำปาณาติบาตกับเสือดำ ชาวบ้านก็ก่นด่าทั้งบ้านทั้งเมือง ถ้ายังไม่หยุด โง่ลุยบาปต่อ ฆ่าสัตว์ตัดชีวิตต่อ ก็จะจมอยู่ในทุกข์

ก่อนหน้านี้ทำบาปอาจเงียบๆเหงาๆ แต่เดี๋ยวนี้บาปมันคึกคัก เป็นข่าวก็แพร่กระจายไปทั่ว เห็นฤทธิ์เห็นเดชกันหรือยัง อย่างโกงคนยากคนจน ลักขโมยกล้วย ทุเรียน เขาก็เอาเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ไปติดที่กล้วย  สามารถตามพิกัดได้ว่าไปทางไหน ก็จับ โดยเฉพาะน้องนักศึกษาที่ไม่ยอมร่วมมือกับผู้ใหญ่ทำชั่ว ก็ต้องรับบาปที่ทำไป ถ้าไม่ปัดออกจากตัว ไม่ปัดออกจากใจ ยังต่ำตมจมไปหามัน มันก็ดูดมัดรัดยิ่งกว่างูเหลือมรัดเสียอีก

ส่วนพวกที่เล่นชู้ มีกิ๊ก บ้าตัณหา จิตใจหลงใหลใฝ่ต่ำ ฆ่าผัว ฆ่าเมีย  ผิดประเวณี ผิดศีลธรรม  บาปกรรมข้อนี้ก็ทำให้อยู่ไม่เป็นสุข ความสุขทางเนื้อหนังมันลากให้ต่ำตมจมลงไป ผู้หญิงที่ปล่อยใจก็ต้องหาผู้ชายมานั่งบำบัด ต้องจ่ายเงินจ่ายทอง แต่งงานกันไม่กี่วันก็หาปืนหารถให้ไปฆ่าอีกฝ่าย ตัวเองจะได้สวมเขาต่อ

เหมือนพูดจาไม่อยู่กับร่องกับรอยก็เป็นบาป บอกว่าวันนั้นวันนี้จะเลือกตั้ง ตอนนี้ต้องตาตั้งเพราะพูดแล้วไม่รักษาคำพูด ถูกล้อเลียนเสียดสี เสียเครดิต ความน่าเชื่อถือ สุดท้ายบาปก็ตามมา ไม่น่าเชื่อว่าเจ้าหน้าที่ระดับใหญ่ ระดับเสนาบดีจะทำบาปกันมากมาย ทหาร ตำรวจที่เข้าไปเกี่ยวข้องก็กำลังจะเห็นฤทธิ์บาป จนคุกล้นคุกแน่น

ดีที่กฎหมายยังดีกับคนชั่วเกินไปหน่อย ถ้ากฎหมายเอาจริงเด็ดขาดเหมือนประเทศอื่นๆเขา เราคงไม่มียาบ้า ของมึนเมาเกลื่อนบ้านเมือง กินแล้วก็เกิดเรื่องเกิดราวห้ำหั่นกัน พระพุทธเจ้าจึงให้ช่วยไปเผยแพร่ ให้เขาปัดบาปจากตัว ปัดชั่วออกจากใจ พอปัดบาปแล้วก็มาเติมบุญ พระพุทธเจ้าบอกให้ละบาปก่อนแล้วค่อยมาทำบุญ

ที่จริงคนที่จมอยู่ในบาปก็ไม่ทำบุญอยู่แล้ว บางคนติดคุก ผูกคอตาย ฆ่าตัวตาย  ทำบุญดีกว่าทำบาปแน่นอน พระพุทธเจ้าเห็นว่าจิตใจเป็นเรื่องสำคัญ ถ้าใจใส ใจสะอาด ใจบริสุทธิ์ ก็จะโปร่งโล่ง จิตก็จะเบิกบาน สะอาด สว่าง สงบ ไม่เป็นโรคซึมเศร้า ไม่โดดตึกตายให้ลูกหลานเสียใจ การไม่รักษาจิต ไม่ฝึกจิตให้ดีตั้งแต่ต้นจึงมักเป็นคนซึมเศร้า ว้าเหว่ แม้จะเป็นถึงนายพลเป็นใหญ่เป็นโต จิตยังขุ่นมัวเศร้าหมอง จิตที่เต็มไปด้วยความอึดอัดขัดข้องหมองใจ เลยทำลายตัวเอง

เขาบอกใจเป็นนาย กายเป็นบ่าว ใจต้องเป็นใหญ่ เป็นหัวหน้า เป็นประธาน เรื่องจิตใจจึงต้องทำให้มันสะอาด บริสุทธิ์ อย่าปล่อยให้มันขุ่นมัวเศร้าหมอง อย่าปล่อยให้จิตตรอมตรมขมขื่น ไม่ชื่นมื่น จิตต้องเบิกบาน สว่างและสงบ  ก็จะทำให้น่าอยู่ดูโลกต่อไป ก็หวังใจว่าวันมาฆบูชาเราชาวพุทธจะให้ความสำคัญกับโอวาท 3 ข้อที่พระพุทธเจ้าให้กับพระสาวกพันกว่ารูปให้แจ่มแจ้ง เจิดจ้า เบิกบาน แจ่มใสกันถ้วนหน้าในวันมาฆบูชาปีนี้

เจริญพร

You must be logged in to post a comment Login