วันอังคารที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2567

กลิ่นปาก / โดย ทพญ.ฉัตรแก้ว บริบูรณ์หิรัญสาร

On January 29, 2018

คอลัมน์ : พบหมอศิริราช

ผู้เขียน : ทพญ.ฉัตรแก้ว บริบูรณ์หิรัญสาร

กลิ่นปากเป็นปัญหาสำคัญที่ทำลายความมั่นใจของใครหลายคน และส่งผลกระทบต่อผู้คนรอบข้าง กลิ่นเหม็นจากปากเกิดจากแบคทีเรีย เมื่อมีการย่อยสลายเศษอาหารที่ตกค้างอยู่ตามส่วนต่างๆของช่องปากทำให้เกิดการเน่าเสียของเศษอาหาร ส่งผลให้เกิดกลิ่นเหม็นขึ้น แบคทีเรียที่เป็นต้นเหตุนี้จะมีอยู่ตามปรกติในช่องปาก ดังนั้น ในบริเวณใดที่มีเศษอาหารตกค้าง แบคทีเรียก็จะทำให้เกิดการบูดเน่าและเกิดกลิ่นเหม็นขึ้นได้

บริเวณที่พบการหมักหมมของเศษอาหารบ่อยๆคือ ลิ้น ร่องเหงือก ใต้ขอบเหงือก ส่วนอื่นที่สามารถพบได้อีกคือ บริเวณที่อุดฟัน ครอบฟันไม่พอดี การเป็นโรคปริทันต์ เหงือกอักเสบ มีฟันผุรูกว้าง ฟันปลอมชนิดถอดได้ ทำให้เศษอาหารตกค้างในบริเวณดังกล่าว จึงเป็นต้นเหตุที่สำคัญที่ทำให้เกิดกลิ่นปาก โดยเฉพาะผู้ที่ใส่ฟันปลอมในขณะนอน นอกจากนี้ปริมาณการหลั่งของน้ำลายมาก/น้อยก็ส่งผลต่อการเกิดกลิ่นปากได้

สาเหตุของกลิ่นปากเกิดทั้งจากภายในและภายนอกช่องปาก

1.จากภายในช่องปาก ได้แก่ มีแผลในช่องปาก เช่น ซิฟิลิส เนื้องอก แผลร้อนใน แผลที่เกิดขึ้นภายหลังการถอนฟัน หรือแผลที่เกิดจากการผ่าตัดในช่องปาก, ฟันผุ ที่มีเศษอาหารตกค้างสะสมอยู่ในรูร่องฟัน ทะลุโพรงประสาทฟัน และมีหนองเกิดขึ้นที่ปลายรากฟัน, เป็นโรคปริทันต์หรือเหงือกอักเสบ ทำให้มีคราบจุลินทรีย์และหินน้ำลายสะสมมาก, ผู้ที่ใส่ฟันปลอมหรือเครื่องมือต่างๆในช่องปาก เช่น ใส่เครื่องมือจัดฟัน หรือใส่เครื่องมือกันฟันล้ม แต่รักษาความสะอาดไม่ดีพอ, น้ำลาย โดยปรกติน้ำลายจะช่วยชะล้างสิ่งสกปรก ถ้าในช่องปากมีน้ำลายหลั่งออกมา ช่องปากก็จะสะอาดมากกว่าน้ำลายที่หลั่งออกมาน้อย และน้ำลายจะช่วยลดการบูดเน่าของอาหารที่ทำให้เกิดกลิ่นได้, ลิ้น (บริเวณโคนลิ้นด้านในสุด) เนื่องจากบริเวณนี้มีน้ำเมือกในช่องจมูกไหลลงสู่คอ ซึ่งภาวะเช่นนี้ไม่จำเป็นต้องเกิดจากการเจ็บป่วยด้วยโรค แต่มักจะมีสาเหตุมาจากอาการภูมิแพ้ (อาการดังกล่าวจะไม่ทำให้เกิดกลิ่นปากในระยะแรกๆ แต่เมื่อทิ้งไว้สัก 2-3 วัน แบคทีเรียในช่องปากจะย่อยน้ำเมือกทำให้เกิดกลิ่นได้)

2.จากภายนอกช่องปาก ได้แก่ การสูบบุหรี่ นอกจากจะเป็นอันตรายต่อสุขภาพของผู้สูบและคนรอบข้างแล้ว ยังเป็นปัจจัยที่ทำให้ผู้สูบเป็นโรคปริทันต์รุนแรงมากขึ้นด้วย และกลิ่นของบุหรี่ที่ตกค้างอยู่ในช่องปากผสมกับกลิ่นอื่นๆ ทำให้เกิดกลิ่นเหม็นเฉพาะตัวขึ้นได้, การรับประทานอาหาร เช่น หัวหอม หัวกระเทียม เครื่องเทศ สะตอ และแอลกอฮอล์ จะทำให้มีกลิ่นปากได้ แต่โดยธรรมชาติอาหารพวกนี้เมื่อถูกย่อยดูดซึมและขับถ่ายออกแล้วกลิ่นจะหายไปได้เอง

สำหรับในบางกรณีระบบต่างๆของร่างกายสามารถทำให้เกิดกลิ่นปากได้ เช่น โรคในระบบทางเดินหายใจส่วนบน เช่น ไซนัสอักเสบ โรคทอนซิลอักเสบ โรคมะเร็งที่โพรงกระดูก, โรคในระบบทางเดินหายใจส่วนล่าง เช่น โรคเกี่ยวกับระบบย่อยอาหาร โรคปอดเรื้อรัง วัณโรคปอดหรือมะเร็งปอด โรคของระบบขับถ่าย

เมื่อรู้ว่ามีกลิ่นปากต้องหาสาเหตุให้ได้ก่อนว่าเกิดจากอะไร เพื่อนำไปสู่การแก้ไขได้ถูกต้อง ควรไปพบทันตแพทย์เพื่อรับการตรวจสุขภาพช่องปากเพื่อนำไปสู่การรักษาอย่างถูกต้อง นอกจากนี้สามารถดูแลรักษาไม่ให้เกิดกลิ่นในช่องปากได้ง่ายๆด้วยการดูแลอนามัยของช่องปากให้สะอาดอยู่เสมอ ที่สำคัญต้องดื่มน้ำให้เพียงพอเพื่อป้องกันอาการปากแห้ง

การแก้ปัญหากลิ่นปากด้วยการใช้น้ำยาบ้วนปาก สเปรย์ หรือลูกอมรสมินต์ เป็นการแก้ไขที่ไม่ถูกต้อง เพราะโดยทั่วไปน้ำยาบ้วนปากจะมีส่วนผสมหลักคือ สารแต่งรส แอลกอฮอล์ และสารต่อต้านเชื้อจุลินทรีย์ น้ำยาบ้วนปากจะช่วยลดกลิ่นปากได้ชั่วคราวเท่านั้น เพราะไม่ได้กำจัดสาเหตุที่แท้จริงออกไป ทำให้อาการของโรคถูกปิดบังจนอาจเกิดอาการรุนแรงได้โดยไม่รู้ตัว

เพราะฉะนั้นวิธีที่ดีที่สุดของการรักษากลิ่นปากคือ การค้นหาและกำจัดโรคที่เกิดขึ้น นอกจากนี้ต้องไม่ละเลยต่อการแปรงฟันอย่างสม่ำเสมอและถูกวิธีเพื่อให้สุขภาพแข็งแรงและรักษาความสะอาดนั่นเอง


You must be logged in to post a comment Login