ผู้เฒ่าเหล่าเมธา / โดย พระพยอม กัลยาโณ

• Tweet
• 

คอลัมน์ : สำนักข่าวพระพยอม

ผู้เขียน : พระพยอม กัลยาโณ

มีคำกล่าวเปรียบเทียบระหว่าง “ผู้เฒ่าเหล่าเมธา” กับ “ผู้เฒ่าเต่าปูปลา” โดยผู้เฒ่าเต่าปูปลาจะไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเหมือนเต่า เหมือนปู เหมือนปลา ไม่ค่อยมีความรู้ความเข้าใจ ไม่สังเกตอะไร จึงเป็นเหมือนเต่า ปู ปลา แต่ผู้เฒ่าเหล่าเมธาเป็นนักปราชญ์ เป็นผู้สังเกตว่าอะไรขึ้นอะไรลง รู้ว่าอะไรใกล้จะหมด ควรเพิ่มอะไร

ผู้เฒ่าเหล่าเมธาขณะนี้อาจจะเปรียบได้กับ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ที่เตือนรัฐบาลคสช.ว่า “กองหนุนใกล้จะหมดแล้ว” หรือเบี่ยงเลนไปอีกข้างหนึ่ง คือนอกจากไม่หนุนแล้วยังจะมาขับไล่เอาด้วย โดยเตือนรัฐบาลคสช.ต้องรีบเร่งสร้างศรัทธา สร้างผลงาน ทำงานให้เข้าหูเข้าตาประชาชน

แสดงว่า พล.อ.เปรม ติดตามและเป็นห่วงเป็นใยรัฐบาลคสช.ที่เป็นนายทหารรุ่นน้อง รุ่นลูก รุ่นหลานที่มาเป็นรัฐบาลขณะนี้ จึงเตือนเรื่องกองหนุนหรือฝ่ายที่สนับสนุนรัฐบาลคสช.ยังเหมือนเดิมหรือเพิ่มขึ้น ความนิยมเป็นอย่างไร ดีขึ้นหรือแย่กว่าเดิม ที่น่าวิตกคือกองหนุนน้อยแล้วยังอยู่ตรงข้ามอีกเพราะอะไร รัฐบาลคสช.จึงต้องเร่งทำงาน เร่งสร้างผลงาน เพื่อให้ศรัทธากลับมาเหมือนเดิม

หากปล่อยให้กองทุน กองเสริม หรือกองกำลังที่สนับสนุนลดน้อยลงก็ต้องเร่งสร้างเร่งเสริม ถ้าไม่มีแรงสนับสนุนก็อยู่ลำบาก ไม่ว่ารัฐบาลไหนทุกยุคทุกสมัยก็จะมีแต่สาละวันเตี้ยลงๆ ไม่ใช่ยิ่งอยู่ยิ่งบารมีสูง ไม่เหมือนเกาเหลีเหนือที่เป็นประเทศเผด็จการเต็มรูปแบบ ผู้นำเกาหลีเหนือเขาอยู่ไปจนกว่าจะตายเลย

อย่างสิงคโปร์ ฮ่องกงและมาเลเซีย ทำไมผู้นำประเทศเขายิ่งอยู่คนยิ่งศรัทธา ทั้งที่ดูแล้วไม่น่าศรัทธา ตรงข้ามกับประเทศไทยจะอยู่ได้ไม่นาน มีใครบ้างที่ประชาชนศรัทธาและอยู่ได้นาน 10-20 ปี ส่วนใหญ่อยู่ในลักษณะที่ผู้คนเขาสะอิดสะเอียน จึงมีการแย่งชิงอำนาจกันต่างๆนานา หาช่องทางช่องว่างจะเล่นงานกันตลอดเวลา

ก็หวังว่าคำพูดของท่านผู้เฒ่าเหล่าเมธาได้เตือนรัฐบาลคสช.ให้เร่งสร้างผลงาน เร่งกู้ศรัทธา กองหนุนจะได้สนับสนุนต่อไป ไม่กลายเป็นฝ่ายตรงข้าม เปลี่ยนจากมิตรเป็นศัตรู การจะบริหารบ้านเมืองจึงต้องรู้จักตรวจสอบและรู้ว่าอะไรเป็นจุดอ่อนจุดแข็งทั้งของตัวเองและฝ่ายตรงข้าม ถ้าไม่รู้จักปรับปรุงแก้ไขจุดอ่อนตัวเองและพวกก็อยู่ยาก อยู่ลำบาก ประชาชนก็จะไม่สนับสนุนซึ่งถือเป็นเป็นปัจจัยหลักปัจจัยสำคัญของรัฐบาล

เรื่องของปัจจัยที่สนับสนุนต่างๆถือเป็นเรื่องสำคัญ ถ้าไม่มีผลงานหรือทำอะไรไม่ดีก็จะอยู่ลำบาก รัฐบาลก็จะเกิดแรงกระเพื่อมเลื่อนลั่น ดังนั้นรัฐบาลต้องขับเคลื่อนประเทศให้ได้ เพื่อความมั่นคงและเสถียรภาพต่อไป

เจริญพร

You must be logged in to post a comment Login