วันอาทิตย์ที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2567

โรคสุกใส / โดย ผศ.พญ.จรัสศรี ฬียาพรรณ

On January 1, 2018

คอลัมน์ : พบหมอศิริราช

ผู้เขียน : ผศ.พญ.จรัสศรี ฬียาพรรณ

โรคสุกใสเกิดจากการติดเชื้อไวรัสที่มีชื่อว่าวาริเซลลา ติดต่อโดยการหายใจเอาเชื้อไวรัสที่แพร่กระจายอยู่ในอากาศ มีระยะฟักตัว 10-20 วัน

โรคนี้เมื่อเป็นแล้วมักมีภูมิคุ้มกันตลอดชีวิต ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะไม่เป็นซ้ำอีก แต่เชื้ออาจหลบซ่อนอยู่ในปมประสาทและมีโอกาสเป็นงูสวัดได้ในภายหลัง

อาการในเด็กจะมีไข้ต่ำๆ อ่อนเพลีย และเบื่ออาหาร ในผู้ใหญ่มักมีไข้สูงและปวดเมื่อยตามตัว จะเริ่มมีผื่นขึ้นพร้อมกันกับไข้หรือ 1 วันหลังจากมีไข้ เริ่มแรกจะเป็นตุ่มแดงก่อน ต่อมากลายเป็นตุ่มน้ำและมีอาการคัน ผื่นจะเริ่มขึ้นที่หน้ากระจายไปที่ลำตัวและแขนขา ต่อมาจะกลายเป็นหนอง หลังจากนั้น 2-4 วันจะตกสะเก็ด บางรายมีตุ่มขึ้นในช่องปาก ทำให้ปากเปื่อย ลิ้นเปื่อย เจ็บคอ

อาการแทรกซ้อนของโรคนี้พบได้น้อยในเด็ก แต่ผู้ใหญ่อาจมีภาวะแทรกซ้อนได้คือ การติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อน ทำให้ตุ่มน้ำกลายเป็นหนองและอาจเป็นแผลเป็นได้ ภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงแต่พบได้น้อยคือ ปอดอักเสบและสมองอักเสบ

ถ้ามีการติดเชื้อในหญิงตั้งครรภ์ระยะ 3 เดือนแรก อาจทำให้ทารกในครรภ์พิการได้ หญิงตั้งครรภ์ที่เป็นสุกใสในระยะก่อนคลอด 5 วัน หรือหลังคลอด 2 วัน ทารกที่เกิดมาอาจเป็นสุกใสชนิดรุนแรงได้

ปัจจุบันมีวัคซีนฉีดป้องกันโรคสุกใส แนะนำให้ฉีด 2 ครั้งคือ ครั้งแรกในเด็กอายุ 12-15 เดือน และครั้งที่ 2 ในเด็กอายุ 4-6 ปี

โรคส่วนใหญ่อาการไม่รุนแรงและหายเองได้ แพทย์อาจให้ยาต้านไวรัสในผู้ป่วยเด็กที่มีโรคเรื้อรังและผู้ป่วยที่เป็นผู้ใหญ่ เนื่องจากมีแนวโน้มจะเกิดอาการและภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรง ผู้ป่วยควรพักผ่อนและดื่มน้ำมากๆ ถ้ามีอาการคันให้กินยาแก้แพ้และทายาคาลาไมน์ ไม่แกะเกา และอาบน้ำฟอกสบู่ให้สะอาด เพื่อป้องกันมิให้ตุ่มกลายเป็นหนองและแผลเป็น


You must be logged in to post a comment Login