วันอังคารที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2567

ไม่พบนำเงินเดือนผลิตอาวุธ

On December 29, 2017

คณะผู้เชี่ยวชาญเกาหลีใต้เผยว่า ไม่พบหลักฐานว่าเกาหลีเหนือนำเงินเดือนของคนงานที่ทำงานในนิคมอุตสาหกรรมแคซองของเกาหลีใต้ไปใช้ดำเนินโครงการผลิตอาวุธ

คณะผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับการแต่งตั้งจากกระทรวงรวมชาติแถลงวันนี้ว่า ประธานาธิบดีคนก่อนสั่งปิดนิคมแคซอง หนึ่งวันหลังจากเกาหลีเหนือทดสอบยิงขีปนาวุธเมื่อปีก่อนโดยไม่หารือกับคณะรัฐมนตรี เป็นการตัดสินใจตามอำเภอใจและไม่มีคำสั่งอย่างเป็นลายลักษณ์อักษร ทำเนียบประธานาธิบดีชุดก่อนอ้างเรื่องเกาหลีเหนือนำเงินเดือนคนงานที่ทำงานในนิคมนี้ใช้ไปใช้ดำเนินโครงการนิวเคลียร์และขีปนาวุธเป็นข้ออ้างหลักปิดนิคม ทั้งที่ไม่มีข้อมูลที่เป็นรูปธรรม ไม่มีหลักฐานอย่างเพียงพอ และไม่ได้หารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยอ้างแต่คำให้การของผู้แปรพักตร์ที่ไร้ความน่าเชื่อถือ การตัดสินใจดังกล่าวจึงไม่ชอบธรรม จำกัดโอกาสในการเปิดนิคมอีกครั้ง และขัดขวางไม่ให้บริษัทเกาหลีใต้เข้าไปปกป้องทรัพย์สินเพราะต้องถอนตัวจากนิคมอย่างรีบเร่ง

ประธานาธิบดีมุน แจอิน ที่เข้ารับตำแหน่งเมื่อเดือนพฤษภาคม รับปากจะเปิดนิคมอุตสาหกรรมแคซองอีกครั้ง หากเกาหลีเหนือมีความคืบหน้าเรื่องปลดนิวเคลียร์ นิคมนี้เป็นผลจากการประชุมผู้นำสองเกาหลีครั้งแรกในปี 2543 ตั้งขึ้นในเมืองแคซองของเกาหลีเหนือ มีบริษัทเกาหลีใต้เข้าไปลงทุนราว 120 แห่ง จ้างแรงงานเกาหลีเหนือ 55,000 คน ด้วยเงินเดือนสองเท่าของค่าแรงขั้นต่ำในเกาหลีเหนือที่ตกเดือนละ 70 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 2,285 บาท)

ขณะที่สหรัฐประกาศมาตรการคว่ำบาตร นักวิทยาศาสตร์เกาหลีเหนือ 2 คน ที่มีส่วนสำคัญในการพัฒนาขีปนาวุธข้ามทวีป ให้เกาหลีเหนือ ที่อาจยิงถล่มได้ไกลถึงสหรัฐ

บทลงโทษล่าสุด ถือเป็นความพยายามของสหรัฐในการบีบคั้นเกาหลีเหนือ ให้ยุติการพัฒนาขีปนาวุธข้ามทวีป ที่อาจติดหัวรบนิวเคลียร์ยิงถล่มสหรัฐได้ กระทรวงการคลังสหรัฐประกาศชื่อนักวิทยาศาสตร์เกาหลีเหนือ 2 คน ที่จะถูกคว่ำบาตร ได้แก่ นายคิม จองซิก และนาย รี พยอง ซอล โดยนายคิม เป็นบุคคลากรคนสำคัญ ที่ช่วยปรับปรุงจรวดเกาหลีเหนือ จากการใช้เชื้อเพลิงเหลวมาเป็นเชื้อเพลิงแข็ง

ส่วนนายรี มีบทบาทด้านการพัฒนาขีปนาวุธ ข้ามทวีป ICBM อย่างไรก็ตามบทลงโทษนี้น่าจะให้ผลในเชิงสัญลักษณ์

มากกว่า จะทำให้ทรัพย์สิน หรือผลประโยชน์ที่บุคคลทั้งสอง อาจมีอยู่ในสหรัฐถูกอายัด นอกจากนี้ยังห้ามพลเมืองอเมริกันทำธุรกรรมกับชาวเกาหลีเหนือทั้งคู่นี้ด้วย ก่อนหน้านั้นสหประชาชาติได้ลงมติคว่ำบาตรเกาหลีเหนืออีกครั้ง เพื่อตอบโต้การที่เกาหลีเหนือทดสอบขีปนาวุธ ฮวาซอง 15 ที่เกาหลีเหนืออ้างว่าโจมตีได้ไกลถึงสหรัฐ การคว่ำบาตรล่าสุดนี้จะทำให้เกาหลีเหนือเข้าถึงผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมและน้ำมันดิบได้น้อยลง และยังปิดกั้นเงินทุนที่เกาหลีเหนือ เคยได้รับจากการส่งพลเมืองไปทำงาน ยังต่างประเทศด้วย เกาหลีเหนือประนามยูเอ็นว่าไม่ผิดอะไร กับการประกาศสงคราม กับเกาหลีเหนือ และ ปิดกั้นเศรษฐกิจของเกาหลีเหนืออย่างสิ้นเชิง


You must be logged in to post a comment Login