วันศุกร์ที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2567

ธรรมะครองเมือง / โดย พระพยอม กัลยาโณ

On December 4, 2017

คอลัมน์ : สำนักข่าวพระพยอม

ผู้เขียน : พระพยอม กัลยาโณ

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ออกมาขออภัยและรู้สึกเสียใจที่ตวาดชาวประมงที่มาร้องเรียน แต่สื่อก็เล่นเรื่องนี้แรง เช่นมีตัววิ่งหน้าจอโทรทัศน์ว่าเสียภาพพจน์ผู้นำประเทศ เมื่อมีการเผยแพร่ไปทั่วทั้งทางทีวี.และสื่อออนไลน์ ก็ยิ่งทำให้ภาพลักษณ์ของนายกฯ เสียหาย เพราะรู้กันไปทั้งประเทศ

อาตมาคิดว่าอารมณ์ของปุถุชนคนธรรมดา เมื่องานมากงานหนักก็ต้องเครียดเป็นธรรมดา อารมณ์หงุดหงิดจึงอาจหลุดไปบ้าง ก็ไม่ควรถือโทษโกรธเคืองอะไรมากนัก แต่ภาพที่เผยแพร่ออกมาอย่างนี้ก็ต้องระมัดระวังคำพูดคำจา แม้จะยึดอำนาจก็ต้องยึดใจประชานให้ได้ด้วย ให้ประชาชนประทับใจ พอใจ แต่ถ้าตวาดประชาชนแล้วถูกนำมาออกสื่ออย่างนี้ มันก็เสียภาพลักษณ์ผู้นำประเทศแน่นอน

โบราณบอกว่าพระศุกร์เข้า พระเสาร์แทรก ผีซ้ำกรรมซัด คนเราเวลาขาลงก็จะมีเรื่องนั้นเรื่องนี้มาเขย่ามาเป่าอารมณ์ไม่หยุดหย่อน เพราะฉะนั้นเวลาขาขึ้น อะไรก็ดีไปหมด เขาจึงบอกว่าอย่าให้อารมณ์บูดตอนเช้า อารมณ์เน่าตอนเพล อารมณ์เหม็นตอนค่ำ ต้องควบคุมอารมณ์อย่าให้บูดให้เน่า ไม่อย่างนั้นก็จะเสียคะแนน เสียความนิยม

อาตมาพูดมาไม่รู้กี่ครั้งกี่หนแล้วว่า เวลามีตำแหน่งมีอำนาจอะไรก็อย่าเป็นนานเกินไป เพราะยิ่งนานเรื่องมันก็เยอะ อารมณ์ก็มักเสียกับเรื่องโน้นเรื่องนี้ เรื่องการยึดอำนาจบ้านเราก็คงมีให้เห็นไปเรื่อยๆไม่หมดยุคหมดสมัยหรอก แต่ที่จะต้องระวังคือ เมื่อมีอำนาจแล้วก็ให้มีมีธรรมะ เพื่อข่มอารมณ์ ข่มจิตใจให้หนักแน่นเยือกเย็นด้วย ไม่หุนหันพลันแล่น แม้จะเป็นฆราวาส ไม่ว่าจะครองบ้านครองเมืองหรือครองเรือนก็ต้องมีธรรมะ 4 ข้อคือ

1.สัจจะ-เป็นคนจริงใจ 2.ทมะ-ข่มจิตข่มใจ หนักแน่นเยือกเย็น ไม่หุนหันพลันแล่น ไม่อารมณ์บูด อารมณ์เสียใส่ใครง่ายๆ 3.ขันตี-อดทนอดกลั้นกับเรื่องต่างๆที่มากระทบ อย่างโฆษณาสีชนิดหนึ่งว่าสีทนได้ ยิ่งเป็นนายกรัฐมนตรี เป็นคนของประชาชนก็ยิงต้องอดทนอดกลั้นและทนได้ ข้อสุดท้ายคือ จาคะ สละอารมณ์ไม่พอใจต่างๆออกไป ที่เรียกว่าอนิฏฐารมณ์คืออารมณ์ที่ไม่พออกพอใจ ไม่ชอบใจ ไม่สบายใจ

หากมีธรรมะ 4 ข้อนี้ก็จะครองบ้านครองเมือง ครองเรือนอย่างสงบร่มเย็นเป็นสุข ตัวเองและประเทศชาติก็จะเจริญด้วย  แต่ถ้าขาด 4 ข้อหรือข้อใดข้อหนึ่ง สลัดความโกรธไม่ได้ ข่มใจไม่อยู่ซะแล้ว ทนไม่ได้ซะแล้ว ก็จะรู้สึกอึดอัดทรมาน จาคะจึงให้สลัดมันออกไป สลัดอารมณ์ขัดข้องหมองใจ ใครมาร้องเรียนร้องทุกข์อะไรก็ตาม อาตมามาก็จะนั่งนึกถึงคำสอนของพระพุทธเจ้าว่า…นี่โอโห้วิเศษเลย บางทีเราไปแนะนำคนงานที่เป็นลูกน้องเราแท้ๆเขาก็เถียงอย่างโน้นอย่างนี้ ทำให้อารมณ์จะเสีย แต่พอนึกถึงธรรมะ 4 ข้อนี้ ก็ยับยั้งได้บ้าง ไม่ได้บ้างก็แล้วแต่ ก็ขอให้มันได้บ้างดีกว่าไม่ได้เลย

คำว่า “ได้บ้าง” นี่แหละคือเอาให้มันอยู่ได้บ้าง ไม่ใช่อะไรก็เอาไม่อยู่ ต้องปล่อยอารมณ์สุดกู่สุดฤทธิ์สุดเดช มันไม่ได้  แต่ข่มจิตข่มใจให้อยู่  ฝึกใจให้หนักแน่นเยือกเย็นหลายๆเที่ยวหลายๆที เดี๋ยวนี้ก็ดี ไม่ไปทะเลาะกับเด็กบ่อยเกินไป ไม่อย่างนั้นเราก็เหนื่อย

ดังนั้นจึงต้องมีธรรมะครองบ้านครองเรือน มีสัจจะ ความจริงใจ มีทมะ ข่มใจ มีขันตี อดทนอดกลั้น และสุดท้ายจาคะ สลัดสิ่งที่มันอึดอัดทรมานข้างในออกไปบ้าง ตวาดให้ทุกข์ออกไปโว้ยสักคำ ให้มันหลุดกระเด็นออกไปบ้าง มันก็จะสบายใจและบริหารประเทศชาติได้ต่อไป

เจริญพร

 


You must be logged in to post a comment Login