วันอังคารที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2567

จอมโจรโคบาลบ๊อบ / โดย ศิลป์ อิศเรศ

On November 13, 2017

คอลัมน์ : ร้ายสาระ

ผู้เขียน : ศิลป์ อิศเรศ

ชายร่างสันทัดวัยกลางคน ใส่เสื้อแจ๊กเกตหนัง สวมหมวกโคบาล บุกเดี่ยวเข้าปล้นเงียบธนาคารหลายแห่งโดยไม่ทิ้งร่องรอย การสืบสวนเป็นไปอย่างยากลำบาก คนร้ายเกือบจะหนีรอดไปได้ถ้าไม่เป็นเพราะความสะเพร่าเล็กๆน้อยๆในการปล้นครั้งสุดท้าย

ช่วงระหว่างเดือนพฤษภาคม 1991-กันยายน 1992 ชายร่างสันทัด สูง 5 ฟุต 10 นิ้ว ผมสีเทา ไว้หนวดเครา ออกตระเวนปล้นธนาคาร 5 แห่ง ในเมืองดัลลัส รัฐเทกซัส การสวมแว่นตากันแดดและหมวกโคบาลปีกใหญ่ปิดบังใบหน้าทำให้ยากต่อการระบุลักษณะใบหน้า FBI ตั้งสมญานามจอมโจรรายนี้ว่า “โคบาลบ๊อบ”

โคบาลบ๊อบเดินไปที่เคาน์เตอร์แคชเชียร์เหมือนลูกค้าธนาคารทั่วไป ไม่มีอาการวอกแวก ยื่นกระดาษโน้ตบอกพนักงานธนาคารว่าเป็นการปล้น ให้นำเงินใส่ในถุงที่ยื่นให้โดยไม่พูดอะไรสักคำ ทำการตรวจสอบธนบัตรว่าไม่มีธนบัตรทำตำหนิและไม่มีระเบิดสีซุกซ่อน ซึ่งมันจะทำงานเมื่อผ่านเซ็นเซอร์ที่หน้าประตูธนาคาร โดยระเบิดหมึกสีออกมาเปื้อนธนบัตรทำให้ธนบัตรไม่สามารถนำไปใช้ได้และสร้างควันเพื่อให้ตำรวจติดตามตัว

คนร้ายหลบหนีโดยรถยนต์ Pontiac Grand Prix ซึ่งสวมแผ่นป้ายทะเบียนที่ขโมยมา แต่ในการปล้นครั้งที่ 6 คนร้ายชะล่าใจใช้ทะเบียนจริง ทำให้ในที่สุด FBI ก็สามารถสืบพบว่าเจ้าของรถยนต์ชื่อ พีท ทัลลาส ทำงานที่โรงงานประกอบรถยนต์ฟอร์ด

พีทยอมรับว่าเคยเป็นเจ้าของรถคันดังกล่าว แต่เขาโอนให้น้องสาวชื่อ เพ็กกี้ โจ เมื่อปีที่แล้วเพราะเธอไม่มีรถใช้ FBI สันนิษฐานว่าคนร้ายน่าจะเป็นแฟนของเพ็กกี้จึงตามไปที่บ้านของเธอ แต่พบว่าที่บ้านมีเพียงเพ็กกี้กับแม่วัยชราที่ป่วยนอนติดเตียง และเธอยืนยันว่าไม่มีแฟน

หลังจากทำการค้นบ้านก็พบธนบัตรปึกใหญ่ซุกซ่อนอยู่ใต้เตียง พบหนวดเคราปลอมซ่อนอยู่ในตู้เสื้อผ้า และสังเกตเห็นว่าเส้นผมของเพ็กกี้มีร่องรอยการย้อมเป็นสีเทา แท้ที่จริงแล้วจอมโจรโคบาลบ๊อบไม่ใช่ผู้ชาย แต่เป็นผู้หญิง

ร้อนเงิน

ทุกเช้าเพ็กกี้วัย 46 ปี จะพยุงแม่มาที่โต๊ะอาหาร ทำซีเรียลให้ทานและป้อนยา ทั้งคู่จะสนทนากันตามประสาแม่ลูกก่อนที่เธอจะพยุงแม่กลับไปนอนเตียง หลังจากนั้นเธอจะกลับไปที่ห้องเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้า แต่วันนี้เธอแต่งกายผิดแผกไปจากเดิม

เช้าวันหนึ่งในเดือนพฤษภาคม 1991 เพ็กกี้ย้อมผมเป็นสีเทา ติดหนวดเคราปลอมบนใบหน้า สวมกางเกงขายาวสีกากี สวมเสื้อเชิ้ตตัวใหญ่ ยัดผ้าขนหนูไว้ใต้เสื้อเพื่อให้ดูร่างใหญ่ก่อนจะสวมแจ๊กเกตหนังสีน้ำตาลทับอีกที สวมแว่นกันแดดและหมวกโคบาลใบใหญ่เดินออกจากบ้านไปขึ้นรถ Pontiac Grand Prix รุ่นปี 1975 ขับมุ่งหน้าไปยังธนาคาร American Federal Bank

เพ็กกี้เดินก้มหน้าเข้าธนาคารเพื่อหลบกล้องวงจรปิดตรงไปที่เคาน์เตอร์แคชเชียร์ ยื่นกระดาษโน้ตมีใจความว่า “นี่คือการปล้น ส่งเงินมา ไม่เอาธนบัตรมีตำหนิและห้ามซุกซ่อนระเบิดสี” เมื่อแคชเชียร์ยื่นปึกธนบัตรส่งให้ เพ็กกี้ก็นำใส่ถุงที่เตรียมมาก่อนจะเดินออกไปช้าๆเพื่อไม่ให้เป็นที่ผิดสังเกต

เงินที่ได้ถูกนำไปใช้จ่ายประจำวันและเป็นค่ายารักษาแม่ เธอไม่ได้ปล้นธนาคารเพื่อไปใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่ายเหมือนที่โจรคนอื่นๆทำ FBI เชื่อว่าโจรรายนี้เป็นมืออาชีพ เพราะดูจากพฤติกรรมที่ไม่สะทกสะท้าน ไม่วอกแวกจนเป็นที่ผิดสังเกต

ขโมยป้ายทะเบียน

เดือนธันวาคม 1991 เพ็กกี้ปล้นธนาคาร Savings of America ได้เงินไป 1,258 ดอลลาร์ คราวนี้มีพยานเห็นป้ายทะเบียนรถ FBI ติดตามไปพบเจ้าของป้ายทะเบียนรถอาศัยอยู่ไม่ห่างจากธนาคารเท่าไรนัก แต่กลับกลายเป็นว่าเป็นทะเบียนของรถ Chevrolet ซึ่งถูกขโมยแผ่นป้ายทะเบียนไปตอนไหนไม่รู้

เดือนมกราคม 1992 เพ็กกี้ปล้นธนาคาร Texas Heritage Bank ได้เงินไป 3,000 ดอลลาร์ และในเดือนพฤษภาคม 1992 ปล้นธนาคาร Nations Bank ได้เงินไป 5,317 ดอลลาร์ เดือนกันยายน 1992 ปล้นธนาคาร First Gibraltar Bank ได้เงิน 1,772 ดอลลาร์ ตำรวจออกตามตัวคนร้ายจากเลขแผ่นป้ายทะเบียนที่พยานแจ้ง และพบว่าเป็นแผ่นป้ายทะเบียนที่ถูกขโมยมาเหมือนคราวก่อน

เพียงแค่ชั่วโมงถัดมาตำรวจได้รับแจ้งว่ามีโจรสวมหมวกโคบาลปล้นธนาคาร Mesquite’s First Interstate Bank คราวนี้โจรฮิตแจ๊กพอต ได้เงินไปมากถึง 13,706 ดอลลาร์ หลักฐานเดียวที่ตำรวจได้ก็คือเลขทะเบียนรถคนร้าย จะเป็นทะเบียนปลอมอีกหรือไม่ต้องตามไปสืบสวน

พีทยอมรับว่าเคยเป็นเจ้าของรถ Pontiac Grand Prix ตามที่เล่าข้างต้นและนำไปสู่การจับกุมตัวเพ็กกี้ในที่สุด ซึ่งเธอไม่ยอมปริปากเล่าว่าทำไมจึงตัดสินใจปล้น 2 ธนาคารภายในวันเดียว และทำไมไม่เปลี่ยนป้ายทะเบียนเหมือนครั้งก่อนๆ FBI สันนิษฐานว่าเพ็กกี้คงใจร้อนอยากได้เงินจนไม่มีเวลาไปขโมยแผ่นป้ายทะเบียน

จากประวัติของเธอทำให้ผู้พิพากษาเห็นใจ ตัดสินลงโทษจำคุกเพียงแค่ 33 เดือน และหวังว่าเพ็กกี้จะหลาบจำ ไม่คิดสั้นหาเงินทางลัดแบบนี้อีก หลังจากพ้นโทษเพ็กกี้ก็หางานสุจริตทำจนกระทั่งแม่ของเธอเสียชีวิตในปี 2004

ขอทำครั้งสุดท้าย

เพ็กกี้ขายข้าวของเครื่องใช้ที่มีทั้งหมด นำเงินก้อนสุดท้ายที่มีไปซื้อรถบ้าน Frontier RV และล่ำลาเพื่อนบ้านโดยบอกว่าจะย้ายไปอยู่เมืองริมชายหาดตามที่เคยวาดฝันเอาไว้ เธอต้องรีบทำก่อนที่จะหมดโอกาส

เดือนตุลาคม 2004 เพ็กกี้ในวัย 60 ปี แต่งเป็นชายสวมหมวกโคบาลปิดบังใบหน้าบุกเข้าปล้น Guaranty Bank คราวนี้เธอไม่ใช้กระดาษโน้ต แต่ออกคำสั่งให้พนักงานนำเงินใส่ถุงสีเขียวที่ยื่นให้ และที่พลาดอย่างมหันต์คือ เธอไม่ได้ตรวจสอบธนบัตรเหมือนทุกครั้ง เมื่อเพ็กกี้เดินผ่านเซ็นเซอร์หน้าประตูธนาคาร ระเบิดสีก็ทำงาน กลุ่มควันสีแดงพวยพุ่งออกมาจากถุงใส่เงิน ทำให้ผู้ที่ผ่านไปมาสังเกตเห็นอย่างชัดเจนจึงโทรศัพท์แจ้งตำรวจ

เพ็กกี้ขับรถหนีการตามล่าจนกระทั่งไปจนมุมใกล้กับถนนไฮเวย์ ตำรวจโอบล้อมรถและสั่งให้คนร้ายลงมาจากรถ เพ็กกี้เดินเข้าไปที่ห้องนอนหยิบปืนของเล่นที่เธอซื้อเอาไว้เผื่อต้องใช้ขู่พนักงานธนาคาร เพ็กกี้ถือปืนไว้ข้างตัวก่อนจะเปิดประตูรถลงมาแล้วบอกตำรวจว่า “ฆ่าฉันเสียดีกว่า”

“อย่าทำแบบนั้นนะ” ตำรวจร้องเตือน

“คุณหมายถึง ถ้าฉันยกปืนเล็งไปที่คุณ คุณก็จะไม่ยิงฉันใช่ไหม” เพ็กกี้ถามตำรวจเพื่อความแน่ใจ

“กรุณาอย่าทำอย่างนั้น” ตำรวจเตือนอีกครั้ง

เพ็กกี้ยกปืนของเล่นเล็งไปที่ตำรวจ เสียงปืนดังขึ้นหลายนัดพร้อมๆกัน ร่างของเพ็กกี้ล้มฟุบจมกองเลือดเสียชีวิตคาที่ข้างรถของเธอ

ตำรวจพบปืนพกขนาด .357 บรรจุกระสุนเต็มแมกาซีน ซ่อนอยู่ใต้หมอนภายในรถบ้านของเพ็กกี้ แสดงว่าเธอไม่มีเจตนาจะต่อสู้กับตำรวจแต่อย่างใด ไม่เช่นนั้นแล้วเธอคงจะหยิบปืนจริงมาใช้ คดีจอมโจรโคบาลบ๊อบเป็นหนึ่งในคดีที่ FBI ตามสืบสวนจนหลงทางเกือบจะจับตัวคนร้ายไม่ได้หากไม่เป็นเพราะความสะเพร่าเล็กๆน้อยๆของคนร้ายเอง


You must be logged in to post a comment Login