วันอังคารที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2567

‘ทรัมป์’โจมตีโสมแดงเผ็ดร้อน

On November 8, 2017

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐ กล่าวถึงการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือระหว่างเยือนญี่ปุ่น โดยไม่เอ่ยชื่อโสมแดง แตกต่างจากการแถลงต่อที่ประชุมรัฐสภาเกาหลีใต้ ที่ย้ำเตือนผู้นำเกาหลีเหนือด้วยถ้อยคำดุดันและตรงไปตรงมา

ผู้นำสหรัฐแถลงต่อที่ประชุมรัฐสภาเกาหลีใต้ เมื่อวันพุธ (8 พ.ย.) เป็นภารกิจปิดท้ายการเยือนแดนโสมขาว ก่อนเดินทางต่อไปยังประเทศจีน

ทรัมป์ขู่เจาะจงไปที่นายคิม จองอึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ ว่าอาวุธนิวเคลียร์ที่พัฒนาขึ้นมา ไม่ได้ช่วยให้ระบอบของนายคิม จองอึน ปลอดภัย แต่เป็นสิ่งที่นำพาลงสู่ห้วงอันตรายอย่างมหันต์

ผู้นำสหรัฐเตือนนายคิม จองอึน ว่าอย่าทดสอบและประเมินสหรัฐต่ำเกินไป ซึ่งหากลงมือ เกาหลีเหนือจะประสบหายนะจากการตอบโต้ที่หนักหน่วงรุนแรง ระบุฝ่ายบริหารของสหรัฐปัจจุบันแตกต่างจากรัฐบาลในอดีต

จากนั้น ผู้นำสหรัฐเรียกร้องนานาชาติ ซึ่งรวมทั้งจีนและรัสเซีย ร่วมมือกันโดดเดี่ยวเกาหลีเหนือ ด้วยการปฏิบัติตามมติคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ด้วยการหยุดค้าขายและลดระดับความสัมพันธ์ทางการทูตกับเกาหลีเหนือ เพื่อกดดันให้เกาหลีเหนือ ยอมรับข้อเสนอเข้าร่วมการเจรจา หาแนวทางยุติโครงการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์

ทรัมป์ย้ำว่า อาวุธนิวเคลียร์ของระบอบอันธพาลแห่งเกาหลีเหนือ เป็นภัยใหญ่หลวงต่อประเทศทั่วโลก

อีกหนึ่งประเด็นที่ผู้นำสหรัฐ “กล่าวหา” นายคิม จองอึน คือ การละเมิดสิทธิมนุษยชน จากการบังคับใช้แรงงานผู้ต้องโทษอย่างหนัก และบังคับประชาชนออกไปขายแรงงานอย่างทาษในต่างประเทศ เพื่อส่งรายได้มาอุดหนุนรัฐ

ทรัมป์โจมตีนายคิม จองอึน ว่าไม่ได้ทำให้เกาหลีเหนือเป็นแดนสวรรค์เหมือนที่ปู่ (คิม อิลซุง) ของนายคิม จองอึน คาดหวังไว้ แต่ทำให้เกาหลีเหนือเป็นนรกที่ไม่มีใครปรารถนา

มาร์ก ลอเวน นักวิเคราะห์แห่งเว็บไซต์ BBC News ของอังกฤษ มองว่าผู้นำสหรัฐขู่และโจมตีนายคิม จองอึน ด้วยถ้อยคำรุนแรง แต่ไม่ได้มุ่งจะทำสงครามด้านการทหารกับเกาหลีเหนือ

ทรัมป์กล่าวเปิดทางในวันก่อนว่า พร้อมเจรจายุติความขัดแย้งกับเกาหลีเหนือ ขณะลอเวนมองว่า การเจรจาคงยังไม่เกิดขึ้น ซึ่งตรงกับคำให้สัมภาษณ์ของวิล ริพลีย์ เจ้าหน้าที่ฝ่ายประสานงานด้านการทูตของสหรัฐ ที่ระบุว่า เกาหลีเหนือยังไม่พร้อมเจรจากับสหรัฐในช่วงนี้

นักวิเคราะห์ส่วนหนึ่งมองถ้อยแถลงของผู้นำสหรัฐว่า เป็นการ “ทิ้งบอมบ์” นำร่อง ก่อนไปเจรจากับจีน ซึ่งเป็นประเทศสำคัญต่อการช่วยคลี่คลายความขัดแย้งนี้


You must be logged in to post a comment Login