วันอาทิตย์ที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2567

ปลดล็อกวุ่นแน่

On October 31, 2017

คอลัมน์ : โลกวันนี้มีประเด็น

พรรคการเมืองทุกพรรคเริ่มประสานเสียงเรียกร้องให้ คสช.ปลดล็อกเพื่อทำกิจกรรมเตรียมตัวลงสนามเลือกตั้งและทำตามเงื่อนไขใหม่ที่กฎหมายพรรคการเมืองกำหนดกรอบเวลาไว้ แต่ท่าทีของคสช.ที่สะท้อนออกมาจาก “บิ๊กป้อม” ชัดเจนว่ายังไม่ปลดล็อก โดยอ้างเรื่องความสงบ แต่นักวิชาการกลับมองว่าสาเหตุที่แท้จริงคือกลัวถูกตรวจสอบอย่างเข้มข้น จนกระทบต่อสถานะของรัฐบาล ห้วงเวลาที่จะปลดล็อกจึงน่าจะเป็น 6 เดือนก่อนเลือกตั้ง เพื่อให้พรรคการเมืองวุ่นวายกับการเตรียมเลือกตั้ง ไม่มีเวลาให้วิพากษ์วิจารณ์รัฐบาล

แม้จะมีเสียงเรียกร้องและมีเหตุผลในเสียงเรียกร้องให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ปลดล็อกพรรคการเมืองให้เริ่มทำกิจกรรมได้เพื่อเตรียมแต่งตัวลงสนามเลือกตั้ง

ที่สำคัญคือมีหลายเรื่องที่พรรคการเมืองจะต้องทำให้เสร็จทันตามกรอบเวลาที่กฎหมายพรรคการเมืองฉบับใหม่กำหนดไว้ โดยเริ่มต้นนับหนึ่งมาตั้งแต่วันที่ 8 ตุลาคมที่ผ่านมา ซึ่งนับมาจนถึงวันนี้ผ่านไป 23 วันแล้ว

สิ่งที่พรรคการเมืองจะต้องทำมีทั้งเรื่องการเช็กยอดจำนวนสมาชิกพรรคเพื่อรายงานยอดแก่นายทะเบียนพรรคการเมือง การเก็บเงินค่าสมาชิกพรรค การหาทุนประเดิมให้พรรค 1 ล้านบาท การตั้งสาขาพรรค การตั้งตัวแทนพรรคในจังหวัดที่ไม่มีสาขาพรรค ตลอดจนการเตรียมการให้สมาชิกพรรคแต่ละพื้นที่ได้โหวตเลือกตัวแทนที่จะส่งลงสมัครชิงเก้าอี้ส.ส.ฯลฯ

ทั้งหมดมีทั้งในส่วนที่พรรคการเมืองต้องทำให้เสร็จใน 90 วันและ 180 วันตามกฎหมายพรรคการเมืองใหม่กำหนด ทำให้พรรคการเมืองเกือบทุกพรรคออกมาเรียกร้องให้ คสช.ปลดล็อกให้พรรคการเมืองได้แล้ว

แต่สัญญาณที่ได้รับกลับมาจาก “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมพี่ใหญ่ของเครือข่ายรัฐประหารกลับสวนทางโดยยืนยันว่ายังไม่ปลดล็อก

“คสช.ยังไม่ได้ประชุมกันในเรื่องนี้ เพราะงานพระราชพิธีฯเพิ่งจะเสร็จสิ้น ดังนั้นจะมาทำอะไรกัน และจะมาทวงสัญญาอะไร เพราะ คสช.ต้องพิจารณาถึงความร่วมมือต่างๆก่อน รวมถึงในแต่ละพื้นที่ต่างๆด้วย แต่ที่ผ่านมาฝ่ายที่ทำให้เกิดความวุ่นวายก็ยังดำเนินการกันมาตลอด ส่วนที่เคยระบุไว้ว่าวันที่ 1 พฤศจิกายนจะปลดล็อคให้พรรคการเมืองนั้น คสช.ยังไม่ได้ประชุมร่วมกันในเรื่องนี้”

ชัดๆจากปาก “บิ๊กป้อม” ยังไม่ยกเลิกประกาศ คำสั่ง คสช.ที่ห้ามพรรคการเมืองทำกิจกรรม ด้วยเหตุผลข้ออ้างยังไม่สงบ ยังวุ่นวาย ยังไม่ได้รับความร่วมมือในระดับที่ต้องการ

แน่นอนว่าท่าทีของ “บิ๊กป้อม” ย่อมทำให้พรรคการเมืองหงุดหงิด เพราะเกรงว่าหากทอดเวลาเนิ่นนานออกไป สิ่งที่ต้องทำตามเงื่อนเวลากฎหมายถ้าทำไม่ได้หรือทำไม่ทันอาจทำให้สถานะของพรรคการเมืองมีปัญหา จนกระทบต่อการส่งคนสมัครรับเลือกตั้งได้ หากโรดแม็พเลือกตั้งไม่ถูกเลื่อนออกไปอีก

รศ.อัษฎางค์ ปาณิกบุตร อดีตคณบดีคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง ให้ความเห็นผ่านเว็บไซต์คมข่าวเอาไว้น่าสนใจว่า

“ถ้าเปิดให้นักการเมืองประชุมพรรค ก็เท่ากับเป็นการปล่อยให้นักการเมืองและนักวิชาการพูดอย่างเต็มที่ เท่ากับจะมีการตรวจสอบ คสช.และรัฐบาลอย่างเข้มข้น เป็นสิ่งที่ผู้มีอำนาจไม่อยากให้เกิด เพราะจะทำให้คะแนนนิยมร่วงก่อนการเลือกตั้ง

ส่วนตัวมองว่าการเปิดให้พรรคการเมืองได้ทำกิจกรรมน่าจะเกิดก่อนการเลือกตั้งจริงไม่เกิน 6 เดือน เพื่อให้พรรคมีเวลาแค่จัดการเรื่องภายในพรรค ทั้งจัดสรรคนลงสมัคร เปิดรับสมาชิก ระดมทุน แต่ไม่มีเวลามาวิพากษ์รัฐบาล”

ความเห็นนี้ถือว่าน่าสนใจ

ที่ผ่านมาแม้รัฐบาลทหารคสช.จะประกาศไม่โกงกิน เข้ามาเพื่อขจัดคอร์รัปชัน แต่ห้วงเวลาที่ผ่านมาก็มีปัญหาเรื่องความไม่โปร่งใสเกิดขึ้นในหลายกรณี และแต่ละกรณีส่วนมากจะถูกเป่าให้เงียบหายไป หรือไม่ก็ถูกประทับตราความถูกต้องชอบธรรมโดยองค์กรอิสระ แต่สวนทางกับข้อมูลและความรู้สึกของประชาชน

หรือนี่คือสาเหตุที่แท้จริงของการไม่ยอมปลดล็อกพรรคการเมือง เพราะปลดแล้วจะเกิดการวิพากษ์วิจารณ์ เกิดการตรวจสอบที่เข้มข้นขึ้นจากภายนอกจนอาจนำไปสู่ความวุ่นวายอย่างที่วิตกกังวลและส่งผลกระทบต่อสถานะความมั่นคงของรัฐบาล


You must be logged in to post a comment Login