ความชัดเจน?

• Tweet
• 

คอลัมน์ : โลกวันนี้มีประเด็น

ความชัดเจนจากปาก “บิ๊กตู่” เรื่องกำหนดปลดล็อกพรรคการเมืองให้เริ่มทำกิจกรรมได้หลังเดือนตุลาคมนี้ และกำหนดเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2561 จะส่งผลดีต่อทุกฝ่าย โดยเฉพาะต่อรัฐบาลและคสช. เพราะแรงเสียดทานทางการเมืองทั้งจากภายในประเทศและนอกประเทศจะลดลง ความกังวลต่างๆอันเกิดจากข่าวลือยืดเวลานั่งทับอำนาจจะขาดน้ำหนักความน่าเชื่อถือ ถ้ายึดมั่นตามที่พูด ย่อมมีแต่ผลดี ตรงกันข้ามหากความชัดเจนที่ประกาศออกมามีอันต้องเลื่อนไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใด ผลกระทบด้านลบจะเกิดต่อรัฐบาลและคสช.มากกว่าที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ บางทีอาจถึงขั้น “เอาไม่อยู่”

“ได้มีการหารือหลัง พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยพรรคการเมือง มีผลบังคับใช้ เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม ที่ผ่านมา โดยหลังจากนี้จะมีการพิจารณาช่วงเวลาที่เหมาะสม เพื่อผ่อนคลายให้นักการเมืองสามารถทำกิจกรรมทางการเมืองได้

แต่ในเดือนตุลาคม ซึ่งอยู่ในช่วงโศกเศร้าอาลัยของคนทั้งประเทศ อยากให้ทุกอย่างอยู่ในความสงบเรียบร้อย ยืนยันว่าไม่ได้ถ่วงเวลาใดๆทั้งสิ้น ส่วนการเลือกตั้งนั้นเดือนมิถุนายน 2561 จะมีการประกาศวันเลือกตั้ง และจะมีการเลือกตั้งเกิดขึ้นในเดือนพฤศจิกายน 2561 ระหว่างนี้ขอให้นักการเมืองอยู่ในความสงบก่อน”

เป็นความชัดเจนที่สุดอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนซึ่งออกมาจากปากของ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี และ คสช. เมื่อวันที่ 10 ตุลาคมที่ผ่านมา

ความชัดเจนนี้จะเกิดผลดีและเป็นประโยชน์ต่อทุกฝ่าย

ฝ่ายการเมืองเมื่อมีความชัดเจนเรื่องกำหนดเลือกตั้งก็จะได้เริ่มเตรียมความพร้อมเพื่อลงสนามเลือกตั้ง ซึ่งมีข้อกำหนดตามกฎหมายพรรคการเมืองใหม่หลายอย่างที่ต้องทำให้เสร็จตามกรอบเวลา

จากปากคำของนายกรัฐมนตรีหลังผ่านเดือนตุลาคมไปแล้วน่าจะมีการปลดล็อกให้พรรคการเมืองเริ่มทำกิจกรรมได้

รัฐบาลและคสช.ก็จะได้ประโยชน์จากความชัดเจนนี้ เพราะจะทำให้แรงเสียดทานทางการเมืองลดน้อยลง

เมื่อมีความชัดเจนเรื่องกำหนดเลือกตั้งพรรคการเมืองก็จะหันไปให้ความสำคัญกับการเตรียมความพร้อมการวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลและคสช.ก็จะลดลงไปโดยปริยาย

อย่างที่ทราบกัน นักการเมืองต้องการเวทีลงเล่น เมื่อเวทีใกล้เปิดคงไม่มีใครอยากกวนน้ำให้ขุ่นจนกระทบต่อกำหนดการเลือกตั้งที่นายกรัฐมนตรีประกาศไว้

การประกาศกำหนดเลือกตั้งยังเป็นการส่งสัญญาณที่ชัดเจนถึงคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ที่ทำหน้าที่ร่างกฎหมายลูกประกอบรัฐธรรมนูญ และสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) ที่ทำหน้าที่พิจารณาร่างกฎหมายลูกต้องทำงานในหน้าที่ความรับผิดชอบของตัวเองเสร็จตามกรอบเวลาที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้

ความกังวลเรื่องจะเกิดอุบัติเหตุกฎหมายลูกถูกคว่ำใน สนช.จนต้องกลับมาเริ่มนับหนึ่งยกร่างกันใหม่ทำให้รัฐบาลและคสช.ได้อยู่ในอำนาจต่อไปก็จะลดน้อยลงไปด้วยเช่นกัน

นอกจากแรงกดดันในประเทศลดลงแล้ว แรงกดดันจากต่างประเทศที่ต้องการเห็นประเทศไทยกลับคืนสู่เส้นทางประชาธิปไตยก็จะลดลงด้วยเช่นกัน

ในด้านเศรษฐกิจเมื่อมีความชัดเจนเรื่องการเลือกตั้งความเชื่อมั่นต่างๆก็จะฟื้นตัว เมื่อนักลงทุนทั้งไทยและต่างประเทศประเมินสถานการณ์ของประเทศไทยอย่างชัดเจนก็น่าจะเริ่มขยับวางแผนลงทุนใหม่ ซึ่งจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจโดยรวม

ผลของความชัดเจนที่ประกาศออกมาล้วนจะสะท้อนไปในทางที่ดีทั้งในด้านการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม

ในทางตรงกันข้ามหากความชัดเจนที่ประกาศออกมามีอันต้องเลื่อนออกไปอีกไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม ผลกระทบด้านลบที่จะเกิดขึ้นต่อรัฐบาลและคสช.จะมีมากกว่าสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้

บางทีอาจถึงขั้น “เอาไม่อยู่”

You must be logged in to post a comment Login