วันศุกร์ที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2567

แด่‘อุดร ทองน้อย-ยิ้ม’ / โดย สนานจิตต์ บางสพาน

On October 9, 2017

คอลัมน์ : สากกะเบือยันเรือรบ

ผู้เขียน : สนานจิตต์ บางสพาน

สัปดาห์ที่ผ่านมา สนจ. ต้องวิ่งรอกงานศพ 2 งาน เพราะ “สหายร่วมยุคสมัย” จากไปห่างกันแค่ 1-2 วัน ที่จริงอยากจะเรียกว่า “สหายร่วมอุดมการณ์” แต่มันน่าจะเชยและล้าสมัยไปแล้ว เพราะ “สหายร่วมสมัย” เยอะแยะเป็น “โขยง” วันนี้หันไปจูบก้นเผด็จการกันหมดโดยไม่รู้สึกละอายแก่ใจหรือเสียใจ ไม่ได้เห็นแก่สหายที่ถูกยิงตายในป่า กลับมาแล้วปรับสภาพชีวิตไม่ได้ ฆ่าตัวตายหลายคน ครอบครัวเดือดร้อนลำบากหลายคน ยังต้องดิ้นรนกระเสือกกระสน แต่พวกมันร่ำรวยเสวยสุขและรับใช้เผด็จการแบบหน้าตาระรื่น

มิหนำซ้ำยังไม่เห็นแก่หน้าแก่ตาเพื่อนฝูงที่ยังมีลมหายใจ เยอะมากที่มัน “ตัดความสัมพันธ์” ความเป็นเพื่อน เป็นเพื่อนพ้องน้องพี่ เป็นมิตรร่วมรบ สหายร่วมรบ แต่ สนจ. ทำใจได้นานแล้วว่าช่างมัน ไม่มีใครเป็นหนี้ใคร ไม่มีใครขอเงินใครซื้อข้าวซื้อเหล้ากิน อย่างดีก็ดูแลกันตามอัตภาพและภววิสัยที่เป็นจริง

คนแรกนี่ต้องบอกว่ารู้จักมาเนิ่นนาน เพราะเป็นนักเขียน นักข่าวรุ่นพี่ แต่คบหาเป็นเพื่อน เพราะเป็นเพื่อนพี่ชาย “ตั๊ก วงศ์รัฐ” นักเขียนในชมรมพระจันทร์เสี้ยว เป็นลาวด้วยกัน เขาเป็นลาวยโสธร สนจ. เป็นเจ๊กปนลาวมาจากขอนแก่น สมัยพรรคสังคมนิยมแห่งประเทศไทยเขาคือ ส.ส. อายุ 25 ปีที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์การเมืองไทย ชนะเลือกตั้งในจังหวัดยโสธรด้วยคะแนนสูงสุด

“อุดร ทองน้อย” บัณฑิตนิติศาสตร์ ธรรมศาสตร์ รุ่นพ่อลูกชายคนโต สนจ. ที่เพิ่งจบมาหมาดๆ กำลังจะรับปริญญาวันที่ 1 ธันวาคมนี้ “อุดร ทองน้อย” จากไปแล้วด้วยโรคาพยาธิ งานเผาตรงกับ “สหาย” อีกคน เลยมีแต่พรรคพวกสายอีสานรุ่นเก่าๆและอดีตสหายที่ผูกพันกันมาเนิ่นนานในฐานะนักเขียน นักข่าวในอดีต ไปส่งวิญญาณนักต่อสู้ที่ผ่านยุคสมัยมาด้วยกันแบบมืออาชีพ สะอาด และไม่เคยมีอะไร “ด่างพร้อย”

เพื่อนร่วมรุ่นของ “อุดร ทองน้อย” ที่ร่ำรวยเป็นใหญ่เป็นโตทุกวันนี้ อาทิ “หมอเถียร” เจ้าของกิจการโรงเบียร์ตะวันแดงและบริษัทคาราบาวตะวันแดงร่วมกับ “แอ๊ด” สถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ อดีตปลัดคลัง และบิ๊กในสายกรมศุลฯ

ส่วนสหายอีกคนมารู้จักช่วงศึกเสื้อเหลืองเสื้อแดง ก่อนหน้านั้นเคยปะหน้ากันแต่ไม่ได้รู้จักมักคุ้น เจอหน้าจังๆหนแรกที่คณะอักษรศาสตร์ จุฬาฯ ตอน สนจ. ไปขอ “หนังสือรับรองภาษาเยอรมัน” ให้ลูกชายที่สอบติด AFS ไปเป็นนักเรียนมัธยมแลกเปลี่ยนที่เบรเมิน มารู้จักจริงจังหลังได้พูดคุยกันช่วงเผด็จการ คสช. ยึดอำนาจและ “อาจารย์ยิ้ม” สุธาชัย ยิ้มประเสริฐ โดนอุ้มไปปรับทัศนคติ…ฮา ถ้า คสช. คิดว่าคนอย่าง “ยิ้ม” ต้องปรับทัศนคติละก็ รับรองคนไทยกว่าครึ่งประเทศต้องโดนกันหมด ไม่เชื่อไปถามพวกเสื้อเหลืองก็ได้…ฮา

“อาจารย์ยิ้ม” เป็นลูกเจ๊กเหมือน สนจ. เด็กสวนกุหลาบรุ่นเดียวกับเพื่อนสนิท สนจ. คือ “หรินทร์ สุขวัฒน์” รุ่นน้องพี่ชาย สนจ. เป็นคนนิสัยและบุคลิกสมชื่อคือ “ยิ้ม” คนแบบนี้อารมณ์ดี และแทบจะดูไม่ออกเลยว่าเวลาโกรธจะเป็นยังไง เอาว่าถ้ามัน “ด่า” ใคร คนนั้นต้องเอี้ยจริงๆ หรือเอี้ยใช้ได้เลยก็แล้วกัน

“อาจารย์ยิ้ม” เป็นนักวิชาการ นักเขียน อาจารย์มหาวิทยาลัย หลังออกจากป่ามาเรียนต่อและสอนหนังสือที่คณะอักษรศาสตร์ จุฬาฯ จนเกษียณอายุ งานศพ “ใหญ่” ชนิดสามัญชนคนธรรมดาคนหนึ่งควรจะภูมิใจ เพื่อนพ้องทุกวงการ ทั้งนักการเมือง นักวิชาการ อาจารย์ อดีตสหายในป่า เสื้อแดง เสื้อเหลือง กปปส. มากันเพียบ ทุกคนช่วยกันให้ช่วงสุดท้ายของ “อาจารย์ยิ้ม” จบแบบสวยงามและก็สวยจริงๆ

“สำคัญมั่นคงคือความตาย” ในความทรงจำแด่ “สหายอุดรและสหายยิ้ม” จาก “สหายไท”


You must be logged in to post a comment Login