ตุลาอาถรรพ์หรือไม่? / โดย Pegasus

• Tweet
• 

คอลัมน์ : เพื่อชาติประชาชน

ผู้เขียน : Pegasus

ย้อนหลังไปหลายสิบปีจะพบว่าเดือนตุลาคมเป็นเดือนอาถรรพ์ไม่น้อย โดยเฉพาะเหตุการณ์ปี 2516 และปี 2519 หลายเหตุการณ์มักจะเกิดขึ้นในช่วงนี้ ดังนั้น ทุกปีจึงมีการคาดการณ์หรือตั้งคำถามว่าเดือนตุลาคมในแต่ละปีจะมีเรื่องแปลกใจหรือน่ากังวลใจเกิดขึ้นหรือไม่

เรามีการปกครองระบอบเผด็จการเบ็ดเสร็จมานานกว่า 3 ปีแล้ว มีการพยายามควบคุมประชาชนให้อยู่ภายใต้กลุ่มอำนาจมานานถึง 10 ปี สิ่งที่ควรคิดถึงขณะนี้คือ จะเกิดการเปลี่ยนแปลงอะไรอีกหรือไม่ในช่วงปลายปีนี้

หากไม่มีเหตุการณ์พิเศษอะไรและระบอบเผด็จการยังดำเนินต่อไป มีการสืบทอดอำนาจกันไปเรื่อยๆ แน่นอนว่าความเจริญก้าวหน้าของประเทศก็ย่อมจะถดถอยไปเรื่อยๆ ไม่ว่าจะมีโพลที่เชียร์อำนาจเผด็จการอย่างไรก็ตาม ความจริงที่ปรากฏก็บิดเบือนไม่ได้

ดังนั้น การเปลี่ยนแปลงก่อนการเลือกตั้งจึงจะเห็นอะไรบางอย่างเกิดขึ้น อย่างน้อยก็เพื่อให้ประชาชนได้รู้สึกว่าบ้านเมืองมีอะไรใหม่ๆบ้าง

ช่วงเวลาที่จะเกิดอะไรแปลกใหม่ขึ้น อาจจะเห็นกลุ่มบุคคลและสื่อจำนวนหนึ่งที่เคยมีความสัมพันธ์เหนียวแน่นกับผู้มีอำนาจกลับมาโจมตีหรือขุดคุ้ยเรื่องต่างๆ ที่ไม่มีใครรู้หรือมีความน่าสนใจออกมาบ่อยครั้งขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีสำหรับประชาชนที่จะรู้ความจริงในบ้านเมืองมากขึ้น หรือจะมองเป็นความบันเทิงใจประการหนึ่งก็ตาม

เมื่อสถานการณ์ต่างๆเกิดขึ้นในลักษณะนี้ก็จะเป็นการเร่งเร้าให้มีการเปลี่ยนแปลงสิ่งใหม่ๆเกิดขึ้น แต่หากไม่มีสิ่งใหม่เกิดขึ้นในเวลาอันใกล้ หรือการกำหนดวันเลือกตั้งที่เร็วขึ้น แม้จะไม่ใช่ความต้องการของผู้มีอำนาจขณะนี้ การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นก็จะเป็นลักษณะการซื้อเวลาเพื่อให้วางระบบหรืออำนาจต่างๆให้ลงตัวได้มากที่สุด

การเปลี่ยนแปลงที่อาจเห็นมากที่สุดในระยะเวลาใกล้ๆนี้น่าจะเป็นการปรับปรุงคณะรัฐมนตรี แม้ไม่มีความหมายกับการเมืองมากนัก แต่เพื่อลดกระแสต่อต้านทั้งจากประชาชนและคนกันเองได้ไม่น้อย

จึงต้องจับตาดูว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงอะไรหรือไม่ หลังงานพระราชพิธีประวัติศาสตร์ของประเทศผ่านพ้นไปแล้ว ความแน่ชัดก็จะชัดเจนมากขึ้นก่อนต้นปีหน้า เพื่อการสร้างเงื่อนไขต่างๆให้รัฐบาลทำงานได้อีกระยะหนึ่ง แม้รัฐบาลที่จะมาจากการเลือกตั้งก็ต้องลดความไม่พอใจหรือความบอบช้ำของรัฐบาลปัจจุบันลงไปได้บ้าง

ขณะที่แกนนำพันธมิตรเสื้อเหลืองก็ถูกตัดสินให้ชดใช้ทางแพ่งในความผิดคดีท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ก็ยังโชคดีที่ไม่มีความผิดทางอาญา ทั้งที่ตามกฎหมายระหว่างประเทศถือเป็นเรื่องการก่อการร้ายอย่างร้ายแรง แต่ก็เป็นที่รู้กันดีว่าทำไมคดีจึงออกมาในลักษณะนี้ ซึ่งคงไม่มีใครหาเงินมาชดใช้ คือปล่อยให้ล้มละลายไป 3 ปีแล้วก็กลับมาทำงานตามปรกติตามกฎหมายล้มละลาย

ดังนั้น คดีนี้จึงไม่น่าจะมีอะไรอีก แม้จะมีการเคลื่อนไหวอะไรก็ต้องรอเวลาอีกพอสมควร กลุ่มพันธมิตรฯที่เคยเป็นตัวแปรสำคัญทางการเมืองจึงถูกตัดออกไปได้ระยะหนึ่งโดยปริยาย

ที่ต้องจับตามองคือการเคลื่อนไหวของม็อบในอนาคตจะออกมาอย่างไร แม้ความจำเป็นในการให้ม็อบออกมาเคลื่อนไหวจะหมดไปแล้วหลังจากมีการรัฐประหารสมใจ จึงเหลือแต่การ “ลงจากหลังเสือ” จะออกมารูปแบบใด

การออกเดินสายโชว์ตัวโชว์วิสัยทัศน์ตามจังหวัดต่างๆก็เพื่อเตรียมการและแต่งเนื้อแต่งตัวเพื่อจะมาเป็นผู้นำการเมืองจากการเลือกตั้งเสี้ยวใบ การสืบทอดอำนาจจึงไม่น่าจะมีปัญหาถ้าไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไรที่ไม่คาดคิดก่อน

You must be logged in to post a comment Login