- กฎแห่งกรรมไม่หมดอายุPosted 1 day ago
- อย่าหัวชนฝาPosted 2 days ago
- เปลี่ยนเป็นตลาดการค้าไวๆPosted 3 days ago
- มนุษย์เกิดมิคสัญญีที่ใจPosted 4 days ago
- ระวังเพื่อความปลอดภัยPosted 5 days ago
- ขอให้ฮึดสู้Posted 1 week ago
- สยบพวกอันธพาลให้ได้Posted 1 week ago
- อย่าทำอะไรมักง่ายPosted 1 week ago
- ผ้าเหลืองห่อเปรตPosted 2 weeks ago
- จงตั้งใจเรียนเพื่อพ่อแม่Posted 2 weeks ago
ฮ่องกงแห่ซื้ออสังหาฯอาเซียน
นักธุรกิจฮ่องกง ยังคงเป็นนักลงทุนต่างชาติระดับแนวหน้า ที่เข้ามาซื้ออสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะห้องชุดคอนโดมิเนียมหรูใน 3 ประเทศอาเซียน คือ ไทย มาเลเซีย และสิงคโปร์
รายงานของ Colliers International บริษัทให้คำปรึกษาและข้อมูลด้านอสังหาริมทรัพย์ระดับนานาชาติ ระบุว่า ช่วงครึ่งแรกของปีนี้ มียอดขายและโอนที่พักอาศัยสร้างแล้วเสร็จในกลุ่มประเทศอาเซียน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 19% รวมมูลค่าประมาณ 61,000 ล้านเหรียญสหรัฐ (2.02 ล้านล้านบาท)
นักลงทุนต่างชาติที่เข้ามา “ช็อปอสังหาริมทรัพย์” เฉพาะในไทย มาเลเซีย และสิงคโปร์ มากที่สุด ได้แก่ ฮ่องกง ตามด้วยจีน โดยนักลงทุนจีนได้แรงจูงใจจากการสนับสนุนของรัฐบาลจีน ที่ส่งเสริมให้เข้ามาลงทุนควบคู่ไปกับโครงการ “Belt and Road”
อีกหนึ่งปัจจัยที่เป็นตัวแปรสำคัญ คือราคาอสังหาริมทรัพย์ในสหรัฐพุ่งสูงต่อเนื่อง ทำให้นักธุรกิจจีนเปลี่ยนเป้าหมายจากสหรัฐ หันมาลงทุนในอาเซียนที่คาดว่าจะให้ผลตอบแทนดีกว่า
นักธุรกิจฮ่องกงประเมินการลงทุนในอาเซียนเช่นเดียวกับจีน เนื่องจากราคาที่พักอาศัยถูกกว่าในฮ่องกง อีกทั้งเห็นว่าเศรษฐกิจในภูมิภาคอาเซียนขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง
เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ South China Morning Post (SCMP) ของฮ่องกง ยกตัวอย่างราคาคอนโดมิเนียมหรู LIFE อโศก-พระราม 9 ของ บมจ.เอพี (ไทยแลนด์) ที่ย่านถนนพระราม 9 กรุงเทพฯ เปรียบเทียบกับราคาในฮ่องกงว่า ราคาเฉลี่ยของห้องชุด LIFE อโศก-พระราม 9 อยู่ที่ตารางฟุตละ 12,542 บาท ขณะที่ฮ่องกง ราคาเฉลี่ยตารางฟุตละ 11,762 เหรียญฮ่องกง (49,500 บาท)
สำหรับธุรกิจที่นักลงทุนฮ่องกงเข้ามาลงทุนในไทย มาเลเซีย และสิงคโปร์ คือการซื้อห้องชุดและเปิดให้เช่า
ผู้ประกอบการไทยให้สัมภาษณ์ SCMP ว่า รายได้จากค่าเช่าห้องชุดในกรุงเทพฯ เฉลี่ย 5.15% ขณะบริษัท List Sotheby’s International Realty แห่งฮ่องกง ประเมินรายได้จากธุรกิจเดียวกันในมาเลเซีย เฉลี่ยประมาณ 4-6% และสิงคโปร์เฉลี่ยประมาณ 3-4%
จากราคาซื้อที่ถูกกว่า รวมทั้งภาษีต่ำกว่า และรายได้จากค่าเช่าเฉลี่ยดีกว่า ทำให้ไทยได้รับความสนใจจากนักลงทุนฮ่องกงมากที่สุด ตามด้วยมาเลเซีย และสิงคโปร์
Colliers International มองว่านักลงทุนฮ่องกงและจีน ยังมีแนวโน้มเข้ามาทำธุรกิจซื้อห้องชุดให้เช่าในอาเซียน โดยเฉพาะในไทยและมาเลเซียเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
หากสถานการณ์เป็นไปตามการวิเคราะห์ของ Colliers International แน่นอนว่า จะส่งผลดีต่อภาคอสังหาริมทรัพย์ของไทยระดับหนึ่ง
You must be logged in to post a comment Login