- ตั้งสติให้ดี “โลกนี้ มีเกิด มีตาย”Posted 2 months ago
- อย่าหาเรื่องอยู่ร้อน นอนทุกข์Posted 2 months ago
- โลกธรรมPosted 2 months ago
- อนุโมทนา คนพิการสู้ชีวิตPosted 2 months ago
- สลายความเกลียดชังPosted 2 months ago
- สู้ดีกว่าลาโลกPosted 2 months ago
- ใช้คาถาพระพยอมบ้างPosted 2 months ago
- เสียงชื่นชมดีกว่าเขาด่าPosted 2 months ago
- ต้องใช้ยาแรงกับคนขายชาติPosted 2 months ago
- บทเรียนผู้เห็นกงจักรเป็นดอกบัวPosted 3 months ago
กองทุนสัมมาชีพ / โดย พระพยอม กัลยาโณ

คอลัมน์ : สำนักข่าวพระพยอม
ผู้เขียน : พระพยอม กัลยาโณ
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สั่งให้กระทรวงศึกษาธิการจัดโครงการห้องเรียนอาชีพ เพื่อนำวิชาสายอาชีพมาสอนชั้นมัธยมปลาย จบแล้วจะได้ทั้งวุฒิการศึกษาม.6 และปวช. นี่เป็นสิ่งที่น่าคิดทำกันมานานแล้ว และน่าเพิ่มเติมไปอีกว่า ถ้าเด็กไม่อยากทำงาน ไม่อยากเรียน จะทำยังไง ถ้าต่อยอดอีกสักนิดไปตรวจดูให้ดี มีเด็กอีกจำนวนไม่ใช่น้อยที่ขี้เกียจเรียนแล้วลอยตัว งานการก็ไม่ทำ จนเราต้องเอาคนต่างด้าวเข้ามาทำงานกันจำนวนมาก
ถ้าเริ่มต้นอยากให้ประกอบอาชีพ ถ้าเป็นไปได้กระทรวงศึกษาธิการต้องตั้ง “กองทุนสัมมาชีพ” ให้เด็กด้วย ที่วัดสวนแก้วตั้งกองทุนสัมมาชีพ ซื้อเครื่องไม้เครื่องมือเพื่อต่อแขนต่อขาให้คนประกอบอาชีพ อยากทำงานก่อสร้างก็มีเครื่องมือให้แทบทุกอย่าง
หากให้เด็กมีโอกาสต่อยอดการศึกษา เร่งเร้ากระตุ้นให้เด็กมองเรื่องอาชีพออกก็จะคิดเองทำเองได้ เดี๋ยวนี้มีอาชีพหลากหลาย เลี้ยงจิ้งหรีดยังรวยเป็นพันล้าน จะเลี้ยงไส้เดือนก็รวยได้ หากไม่รังเกียจไม่ขยะแขยง หลายคนเป็นข้าราชการยังออกมาเลี้ยงไส้เดือน เพราะตันหนึ่งราคาตั้งหมื่นห้า แถมขี้ไส้เดือนยังใช้เป็นปุ๋ย ไม่พอขาย ถ้ากระตุ้นเด็กให้มองเห็นช่องทางเห็นแสงสว่างว่ามีอาชีพหลากหลายรออยู่ เพียงแค่ไม่ขี้เกียจ ถ้าเรียนก็ให้จบเร็วๆ จะได้เป็นเศรษฐีน้อยเร็วๆ เด็กก็จะกระตือรือร้น ไม่รอขอสตางค์พ่อแม่
วัดสวนแก้วให้เด็กเทคโนแหลมทองมาซ่อมวิทยุ โทรทัศน์ พัดลม เครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ก็มีรายได้เอาไปเรียน อย่างในชนบทมีที่ดินเยอะแยะ เด็กสามารถไปทำการเกษตรได้โดยไม่ต้องใช้งบประมาณของรัฐบาล ทำงานไปด้วยเรียนไปด้วย รุ่นนี่ก็ส่งต่อให้รุ่นน้อง
ถ้ามีที่ดินให้แล้วก็มีน้ำให้ เดี๋ยวเด็กก็คิดออกว่าจะลงทุนอะไร ผู้บริหารโรงเรียนก็ต้องเก็บทุนเก็บเงินจากพืชผลทางการเกษตรที่ได้มาหมุนเวียนตั้งเป็นกองทุนเพื่อซื้อเครื่องไม้เครื่องมือ ถ้าประเทศไทยมีระบบการศึกษาเช่นนี้ ก็จะสามารถผลิตคน ผลิตงานได้ ไม่ใช่เรียนแล้วเหมือน “ตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ” เพราะถ้าคิดเป็น ทำเป็น ก็จะมีรายได้เป็นกอบเป็นกำ เด็กเรียนแล้วยังมีสตางค์ ได้ความรู้ เรียกว่าทูอินวัน แม้ไม่รวยก็ไม่เป็นหนี้
ครูต้องเป็นต้นแบบเรื่องแบบนี้ สอนให้เด็กรู้ ไม่ใช่ครูก็เป็นหนี้เพียบ จนธนาคารออมสินฟ้องครูต้องมองเห็นและสอนเด็กให้คิดเป็น เรียนไปแล้วจะได้ไปประกอบอาชีพ มีรายได้ แล้วก็ต้องไม่จ่ายเกินกิน ต้องรู้จักใช้จ่าย รู้จักกิน รู้จักอยู่ให้พอดีกับรายรับ เหลือก็เก็บสะสมมาเป็นทุนทำมาหากิน
ต้องบอกเด็กเลยว่า “อย่าปล่อยให้ทำมาห่ากิน เหล้าเอาไปกิน หวยเอาไปกิน” อย่างนี้เป็นการศึกษาที่เสียเปล่า ล้มละลาย ตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ เสียงบประมาณ แต่ผลตอบแทนไม่คุ้มค่า ก็ทำให้การศึกษาเกิดผลเกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติให้ได้ก็แล้วกัน
เจริญพร
You must be logged in to post a comment Login