วันพฤหัสที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2567

กลลวงการเลือกตั้ง? / โดย Pegasus

On May 22, 2017

คอลัมน์ : เพื่อชาติประชาชน
ผู้เขียน : Pegasus

มีการส่งสัญญาณจากฝ่ายผู้มีอำนาจเพื่อให้ประชาชนนอนหลับทับสิทธิ์ไม่ออกไปลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง โดยแทรกซึมตามกลุ่มต่างๆว่าเลือกตั้งไปก็ไม่มีประโยชน์ เพราะรัฐธรรมนูญเขียนกับดักเอาไว้หมดแล้ว แม้จะได้รัฐบาลจากการเลือกตั้งก็ทำอะไรไม่ได้ การนอนหลับทับสิทธิ์จึงเป็นการประท้วงแบบหนึ่ง

การสร้างข่าวแบบนี้เคยปรากฏมาแล้วครั้งการทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญ โดยฝ่ายต่อต้านร่างรัฐธรรมนูญพ่ายแพ้ไม่เป็นท่า เพราะประชาชนส่วนหนึ่งหลงเชื่อการปล่อยข่าวของฝ่ายผู้มีอำนาจ เช่นเดียวกับการเลือกตั้งครั้งใหม่ก็จะมีการป่าวร้องว่าเป็นไปอย่างสุจริตยุติธรรม คะแนนเสียงของพรรคการเมืองจัดตั้งก็จะชนะท่วมท้นและสามารถจัดตั้งรัฐบาลคนนอกเพื่อสืบทอดอำนาจได้ โดยอ้างความชอบธรรมตามกฎหมายที่ตนเขียนขึ้นให้ได้เปรียบมากที่สุด หากหลอกประชาชนได้ก็จะสืบทอดอำนาจได้อีกยาวนาน

คำถามคือทำไมต้องหลอกประชาชน คำตอบง่ายๆคือ เพื่อสร้างความชอบธรรมว่าประชาชนยินยอมพร้อมใจสนับสนุนการสืบทอดอำนาจนั่นเอง

ดังนั้น ประชาชนต้องถามตัวเองว่าจะทำอย่างไรให้ชาวโลกเห็นว่าไม่เห็นด้วยกับการบอยคอตการเลือกตั้ง เพราะคะแนนบอยคอตหรือผู้ไม่ออกมาใช้สิทธิไม่ได้เป็นตัวตัดสิน ดังนั้น ไม่ว่าจะไม่ลงคะแนนหรือไม่สนใจการเมืองก็เข้าทางฝ่ายผู้มีอำนาจทั้งสิ้น กระแสการสร้างข่าวต่างๆเพื่อให้ประชาชนบอยคอตการเลือกตั้งจึงเกิดขึ้นไปเรื่อยๆ

การบอยคอตไม่สามารถแสดงมติมหาชนได้ แต่จะกลายเป็นการสนับสนุนฝ่ายเผด็จการไปโดยปริยาย ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นนักวิชาการที่เชื่อว่าการลุกฮือของประชาชนจะสามารถขับไล่เผด็จการออกไปได้ แนวทางนี้กำลังจบไปแล้วหลังจากพรรคเพื่อไทยประกาศยุติการเคลื่อนไหว แม้แต่อดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร ก็ประกาศไม่ยุ่งเกี่ยวทางการเมือง การจะจัดตั้งเครือข่ายเพื่อต่อสู้กับเผด็จการอย่างจริงจังจึงแทบเป็นไปไม่ได้

เมื่อไม่มีโอกาสจะไปยึดอุดมคติสุดโต่งได้อย่างไรโดยไม่พ่ายแพ้หรือถูกจับกุม ทางออกที่ดีที่สุดคือสู้ไปตามกรอบของกฎหมายแม้จะถูกกำหนดโดยฝ่ายเผด็จการ ใช้เวลาส่วนใหญ่เข้าหาประชาชนให้เข้าใจว่าทำไมจึงอดอยากยากแค้นหรือต้องปิดกิจการ ถ้าต้องการให้การรัฐประหารหมดไปตลอดกาลก็ต้องใช้สิทธิลงคะแนนเสียงให้มากๆเพื่อให้มีเสียงต่อสู้กับ ส.ว.แต่งตั้ง หลังจากนั้นก็ร่วมกันพยายามแก้ไขกฎหมายให้เป็นประชาธิปไตยมากที่สุด

สมัยปลายรัฐบาลทักษิณมีสถิติว่ามีคนจนประมาณ 7 ล้านคน แต่ปัจจุบันมีคนจนตามทะเบียนคนจนถึง 14 ล้านคน หมายความว่าหากปล่อยให้การเมืองเป็นเช่นนี้คนจนในประเทศก็จะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จึงต้องให้บ้านเมืองกลับสู่ระบอบประชาธิปไตยและให้รัฐบาลจากพรรคการเมืองหรือกลุ่มการเมืองเข้ามาแก้ปัญหา ซึ่งประชาชนก็ต้องฉลาดที่จะเลือกคนดี ไม่เลือกพรรคการเมืองที่มีชื่อเสียงฉาวโฉ่ซื้อเสียงหรือเป็นพรรคที่สนับสนุนฝ่ายเผด็จการเพื่อสืบทอดอำนาจ เพราะระยะเวลาที่ผ่านมาพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าการปกครองแบบระบบราชการทหารแก้ปัญหาบ้านเมืองได้หรือไม่ วันนี้ประเทศไทยต้องไล่ตามหลังประเทศเพื่อนบ้านเพราะอะไร

การบอยคอตการเลือกตั้งเป็นความคิดที่ไม่ถูกต้อง การสนับสนุนพรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตยเป็นสิ่งที่จะต้องร่วมกันสนับสนุน ลงคะแนนเลือก ส.ส.เขตได้ก็เลือกไป พื้นที่ไหนไม่ชนะก็ลงคะแนนให้มากที่สุดเพื่อนำไปคิดเฉลี่ย ส.ส. จากบัญชีรายชื่อ ไม่ใช่ลงสะเปะสะปะ

การเลือกตั้งเป็นหนึ่งในวิธีการกดดันไม่ให้เอา “คนนอก” เข้ามาบริหารประเทศ ซึ่งต้องช่วยกันเผยแพร่ข้อมูลกลุ่มที่สนับสนุนนายกฯคนนอกว่ามีประวัติความเป็นมาอย่างไรให้มากๆ นักวิชาการหรือพวกที่ต่อต้านเผด็จการต้องมองปัญหาให้ชัดเจน ไม่ใช่ใช้อารมณ์มากกว่าเหตุผล การประณามหรือการไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้งไม่ใช่การแก้ปัญหาอย่างแท้จริง จะได้อย่างมากก็แค่ความสะใจเท่านั้น

การต่อสู้ครั้งนี้อาจไม่ชนะ แต่อย่างน้อยก็ทำให้เห็นว่าเสียงของประชาชนที่ต้องการประชาธิปไตยและไม่เห็นด้วยกับการสืบทอดอำนาจมีจำนวนมากแค่ไหน หรืออย่างน้อยก็ได้ตีแผ่ความล้าหลังของระบอบเผด็จการให้โลกได้เห็นมากขึ้น แค่นี้ก็นับว่าเพียงพอแล้ว เพราะสุดท้ายระบอบเผด็จการก็ต้องถอยออกจากการเมืองไทย


You must be logged in to post a comment Login