- อย่าใช้วิชามารPosted 3 days ago
- ต้องทบทวนให้ดีPosted 4 days ago
- นายจ้าง-ลูกจ้างต้องเอื้อกันPosted 5 days ago
- เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไปPosted 6 days ago
- รับผลกรรมที่ได้กระทำPosted 7 days ago
- อีกไม่นานต้องจบPosted 1 week ago
- มาสนใจกีฬาให้ยาบ้าหายไปPosted 2 weeks ago
- ฝึกต้อนรับให้ดีจะมีสิ่งที่ดีPosted 2 weeks ago
- ต้องกวาดล้างสิ่งสกปรกPosted 2 weeks ago
- อย่าเอายศไปทำความอัปยศPosted 2 weeks ago
สัมปยุตด้วยปัญญา / โดย พระพยอม กัลยาโณ
คอลัมน์ : สำนักข่าวพระพยอม
ผู้เขียน : พระพยอม กัลยาโณ
ช่วงนี้เมืองไทยมีอะไรแปลกๆ เดี๋ยวหมุดคณะราษฎรหายบ้าง เดี๋ยวรูปปั้นพญานาคให้ทุกข์ให้โทษขวางทางน้ำ พญานาค 3 ตัวที่ใครไม่รู้สร้างไว้แล้วมาทำพิธี ชาวบ้านบอกว่าตั้งแต่สร้างพญานาคมา น้ำกินน้ำใช้ไม่ค่อยพอ เพราะพญานาคมาขวางทางน้ำ แอบดูดน้ำซะหมด แย่งน้ำชาวบ้าน เลยทำให้ชาวบ้านต้องตัดสินใจทุบพญานาคทิ้ง ซึ่งเป็นเรื่องความเชื่อถือและจะเกิดขึ้นเป็นช่วงๆ แล้วก็โทษโน่นโทษนี่ โทษกันไปเรื่อยๆจนกว่าจะตัดสินใจอะไร
ถ้าสมมุติว่าทุบรูปปั้นพญานาคแล้วมีน้ำใช้ขึ้นมา อันนี้ก็จะฝังใจ ยึดติดความเชื่อจนกระทั่งกลายเป็นสัจจาภินิเวช อันนี้เป็นเหตุที่แท้จริง ไม่มีอย่างอื่น อย่างนี้อย่างเดียว ที่เขาเรียกว่าไม่เป็นไปตามเหตุตามปัจจัย
อาตมาเลยมานั่งนึกถึงว่า เพราะไม่ได้ทำบ่อน้ำ ไม่ได้ทำที่เก็บน้ำ เลยโทษโน่นโทษนี่เวลาไม่มีน้ำ เพราะฉะนั้นที่วัดอาตมาสาขาต่างๆ จึงรู้สึกสบายใจ เพราะตั้งแต่มีโครงการธนาคารน้ำ ก็มีคนมาร่วมบริจาคร่วมทำบุญให้เกิดแท็งก์น้ำ เกิดบ่อขนมครก แก้มลิง ฝายน้ำและรถขนน้ำ เลยสบายใจ ไม่ต้องโทษพญานาค
เมื่อก่อนต้องโทษว่าเราคิดช้าไป ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงตรัสไว้ว่า “น้ำคือชีวิต” แต่เราคิดช้าไป เลยทำให้ชีวิตขาดแคลนน้ำเป็นช่วงๆ ดังนั้นต่อแต่นี้ไปถ้าเกิดอะไรขึ้นอย่ามัวไปโทษดินฟ้า วัตถุปูนปั้น ให้คิดว่าเราคิดเรื่องน้ำช้าเกินไป เลยทำให้ขาดแคลนน้ำ น้ำกินน้ำใช้ไม่พอจะทำเกษตร ทำอุตสาหรรม ไม่พอจะรักษาระบบนิเวศน์
อาตมายังนึกในใจว่า ถ้าคิดเร็วกว่านี้สัก 3 ปี เมื่อปีที่แล้วก็จะสบายใจไม่ขาดน้ำ ทุเรียนออกดอกมาก็จะไม่เหี่ยวแห้ง ปีนี้พอได้น้ำใช้ ทุเรียนก็ติดกันเยอะแยะ ลูกใหญ่ๆให้เก็บมาแจกจ่ายขายเลี้ยงชีวิตคนยากคนจน
เพราะฉะนั้นอย่ามัวโทษโน่นโทษนี่กันนักเลย มาโทษตัวเราที่ไม่ทำแหล่งน้ำ เก็บน้ำกันไว้ดีกว่า น้ำจะได้พัฒนาชีวิต เป็นคนไทยต้องพัฒนาตัวเอง ไม่ใช่ไปเชื่อไสยศาสตร์ ไสยศาสตร์อาจไม่ได้ผิดอะไร อาจเป็นเครื่องทำให้อุ่นใจ แต่ก็อย่าเชื่อไสยศาสตร์ดีกว่า เชื่อแล้วก็จะงมงาย
จะเชื่ออะไรยังไงก็ต้องหาเหตุปัจจัยที่ถูกต้องมากกว่าเชื่อเพราะความงมงาย อย่างคำพูดที่บอกว่า “ไม่เชื่อก็อย่าลบหลู่” ถึงเชื่อก็ต้องศึกษาเรียนรู้ให้ชัดเจนว่ามันใช่หรือไม่ใช่สิ่งที่เราเชื่อ เราจะได้เป็นคนมีเหตุผล คือ เชื่ออย่างมีการศึกษามีความรู้ ไม่ใช่เชื่อตามที่เขาลือกัน คิดกัน คาดกัน
อาตมาก็ขอให้ความเชื่อสัมปยุตด้วยปัญญาก็แล้วกัน
เจริญพร
You must be logged in to post a comment Login