วันเสาร์ที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2567

เป็นโสดกันเถอะ / โดย ภูริวรรณ วรานุสาสน์

On March 27, 2017

คอลัมน์ : China Today
ผู้เขียน : ภูริวรรณ วรานุสาสน์

จากคำสอนตามลัทธิขงจื๊อของจีนที่กล่าวไว้ว่า หน้าที่สำคัญของผู้ชายก็คือการสืบทอดวงศ์ตระกูล ด้วยการมีลูกไว้สืบสกุล หากชายใดที่ไม่มีลูกหลานไว้สืบสกุลถือว่าทำผิดอย่างมหันต์ ทำให้ชายหนุ่มชาวจีนต้องแต่งงานและพยายามมีลูกในช่วงอายุที่เหมาะสม

แต่ปัจจุบัน แนวคิดดังกล่าวกำลังถูกท้าทายโดยหนุ่มสาวยุคใหม่ของจีน

หยู เฟย ชาวปักกิ่งตัดสินใจหย่าขาดกับสามีหลังจากแต่งงานกันได้เพียง 5 เดือน สาเหตุเป็นเพราะว่า เธอไม่สามารถเข้ากับครอบครัวของสามีได้

หยูเล่าว่า เธอเพิ่งตระหนักว่า ชีวิตการแต่งงานนั้นไม่ได้เป็นเรื่องของคนเพียงสองคนอย่างที่เคยคิดไว้ หากแต่เป็นเรื่องของครอบครัวของทั้งเธอและสามี รวมไปถึงญาติๆของทั้งสองฝ่าย รวมทั้งตัวเธอเองก็ไม่ได้เตรียมใจไว้สำหรับการไปเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวของคนแปลกหน้า

หลี่ อิ๋นเหอ หนังสัมคมวิทยาจากสถาบันสังคมศึกษาแห่งชาติจีน (CASS) ได้สังเกตจำนวนการอยู่เป็นโสดของหนุ่มสาวจีนรุ่นใหม่ที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสิ่งเหล่านี้กำลังกลายเป็นกระแสนิยมของสังคมรุ่นใหม่ ขณะเดียวกันก็ก่อให้เกิดความขัดแย้งระหว่างแนวคิดของคนรุ่นเก่ากับคนรุ่นใหม่

หลี่กล่าวว่า พ่อแม่ที่อยู่ในวัยสูงอายุส่วนใหญ่มักจะช็อกและปวดร้าวเมื่อได้ยินว่าลูกๆของพวกเขาตัดสินใจที่จะอยู่เป็นโสด ในมุมมองของพวกเขาแล้ว การแต่งงานหมายถึงการสร้างครอบครัวและปกป้องลูกหลานในอนาคต

จากหนังสือสังคมปกน้ำเงินที่ตีพิมพ์โดยสถาบันสังคมศึกษาแห่งชาติจีนเมื่อปี ค.ศ. 2010 พบว่า ภายในปี ค.ศ. 2020 ประชากรชายชาวจีนที่ไม่ได้แต่งงานจำนวน 24 ล้านคน ซึ่งเป็นตัวชี้วัดถึงการไม่สมดุลระหว่างโครงสร้างทางเพศและส่งผลกระทบต่อจำนวนคนโสดของประเทศ

ฉี จ้ง ชายวัย 36 ปีชาวเมืองกว่างโจว มณฑลกว่างตง เขาสูญเสียพ่อและแม่และต้องประสบกับความเงียบเหงาของเทศกาลตรุษจีนด้วยการเดินทางไปมณฑลหยุนนานเพียงลำพัง ซึ่งหลังจากที่เขาคิดใคร่ครวญแล้วเห็นว่า เขาอยากจะอยู่เป็นโสด และถึงแม้ว่าญาติๆของเขาจะเข้าใจและเคารพการตัดสินใจของเขา แต่ก็ยังไม่ยอมแพ้ที่จะชักจูงใจให้เขาเปลี่ยนใจ

ฉีกล่าวว่า เขามักจะเปิดเผยความคิดของเขาต่อหญิงสาวที่เขาควงด้วย ซึ่งหญิงสาวส่วนใหญ่มักจะคาดหวังว่าเขาจะพัฒนาความสัมพันธ์และตัดสินใจแต่งงานกับพวกเธอ แน่นอนว่า ความคิดที่ขัดแย้งกันนี้ย่อมทำให้เขาต้องเลิกรากับหญิงสาวไปหลายคน ซึ่งหญิงสาวคนสุดท้ายที่เขาคบหาเมื่อหลายปีก่อนนั้น ก็ใช้เวลาเพียง 4 เดือนเท่านั้น

ฉีเล่าว่า คนส่วนใหญ่มักคิดว่าที่เขาคบหญิงสาวได้ไม่นานเป็นเพราะเขายังไม่เจอหญิงสาวคนที่ใช่ แต่สำหรับคนโสดแบบฉีหลายคนเห็นว่า การอยู่เป็นโสดคือชีวิตที่อิสระและเป็นเสียงที่ดังออกมาจากใจ

นอกจากชีวิตอิสระของชายโสดแล้ว สาเหตุสำคัญอีกประการที่คนรุ่นใหม่นิยมอยู่เป็นโสดเป็นเพราะ สถานภาพของสตรีนั้นสูงขึ้นกว่าในอดีต ผู้หญิงสามารถออกไปทำงานและดำรงชีวิตอยู่ได้โดยตัวของพวกเธอเอง ทำให้จำนวนของหญิงสาวที่ตัดสินใจไม่แต่งงานเพิ่มสูงขึ้นอีกด้วย

ผาน หยุนคัง ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยการแต่งงานและครอบครัวแห่งนครเทียนจินกล่าวว่า การแต่งงานในปัจจุบันกำลังถูกท้าทายโดยการเปลี่ยนแปลงของสังคม โดยเฉพาะการเปลี่ยนถ่ายทางสังคม ทำให้ไม่สามารถนำเอาแนวคิดแบบดั้งเดิมมาตัดสินแนวคิดในปัจจุบันได้


You must be logged in to post a comment Login