วันศุกร์ที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2567

บทเรียนทุกฝ่าย/ โดย พระพยอม กัลยาโณ

On March 14, 2017

คอลัมน์ : สำนักข่าวพระพยอม
ผู้เขียน : พระพยอม กัลยาโณ

มีทั้งสมหวังและผิดหวังกรณีวัดพระธรรมกาย แต่อย่างน้อยที่ชุมนุมอยู่ข้างนอกก็ไม่ต้องลำบากได้กลับเข้าวัด
ใครอยากกลับบ้านก็ได้กลับ ใครอยากอยู่วัดก็เข้าวัด เอาล่ะเรื่องนี้อย่าไปถือว่าใครล้มเหลว ใครสมหวัง ใครผิดหวังเลย ให้ถือว่าต่างฝ่ายต่างทำหน้าที่ของตัวเอง ฝ่ายที่ค้นหาก็ทำตามกฎหมาย ฝ่ายที่ปกป้องคุ้มครองครูบาอาจารย์ก็ทำเต็มที่สุดๆ ส่วนจะจับยังไงก็เป็นเรื่องของเวลา เพราะพระธัมมชโยก็กลายเป็นผู้หลบหนีคดีความ

เรื่องนี้สรุปว่า อะไรก็ตามถ้าปฏิบัติถูก อยู่ในทางสายกลาง ไม่มากเกินไป ไม่น้อยเกินไป จะชวนคนให้ทำบุญสร้างอะไรก็อย่าไปสร้างอะไรจนเกินไป ในทางปฏิบัติทางศาสนา เขาบอกเดินจงกลมก็ต้องได้ 16 ศอก เกินกว่านั้นก็มากเกินไป ถ้าเกินไปมีคำหนึ่งที่ว่า “เหลือระวัง” คือ เดินไปเรื่อยๆ ไม่มีขอบเขตเกิน 16 ศอกไปเนี่ย เผลอๆใจก็จะเตลิด ท่านจึงใช้คำว่า “มันมากเกินไปก็จะเหลือระวัง” แต่ถ้าพอดีๆ ก็จะ “คุ้มครองสติอยู่”

เพราะฉะนั้นสตางค์กับสตินี่ ยังไงขอให้ทุกวัดนำไปเป็นบทเรียนไว้ เอาสติให้มากกว่าสตางค์ เพราะถ้าเอาสตางค์มากกว่าสติ ความสงบ ความสุข มันจะไม่อยู่ยั่งยืนถาวร เผลอๆจะไปลากความทุกข์มาให้อีก เพราะฉะนั้นใครที่ทำวัดไม่ใหญ่ไม่โต ก็อย่าไปนั่งนึกมีปมด้อย จะต้องไปหาหนังหาดนตรีมาจัดงานประจำปี ระดมเงินเข้าวัด เพื่อจะให้ได้วัดใหญ่โต วัดดังมากใหญ่มากอาจจะพังง่ายๆ สู้เอาพอดีๆ ทางสายกลาง วัดไม่จำเป็นที่จะต้องใหญ่โตโอฬารอะไรมากมาย ขอให้มีมุมธรรมชาติ มุมสงบ มีศาลาสวดมนต์ มีที่พัก สำหรับวัดที่มีคนมาพัก มีที่นอนให้เขาได้อยี่พอสบาย ไม่ทุกข์ ไม่ลำบากเกินไป เท่านั้นแหละ

อย่างที่หลวงพ่อพุทธทาสเคยพูดไว้ว่า ตอนบวชกันใหม่ๆก็อยากดี พออยู่มาไม่กี่ปี ชักอยากดัง พอใครห้ามก็ไม่ฟัง ชักอยากโด่ง อยากจะโด่งหนักๆ ก็เริ่มคดเริ่มโกง แล้วก็เริ่มดับลงๆ อันนี้เป็นสิ่งที่พวกเราควรที่จะสังวรไว้เป็นบทเรียน ใครที่เห็นบทเรียนนี้แล้ว จงตั้งใจรักษาสภาพความเป็นอยู่ของวัดก็ดี ข้อปฏิบัติก็ดี จะชวนคนทำบุญทำทาน สร้างโน้นสร้างนี่ก็ดี อย่าลืมสร้างอะไรไว้ที่มันเย็นๆ อย่าไปสร้างอะไรร้อนๆ ก็ขอให้ทำอย่างถูกต้องเหมาะสมพอดี ไม่มากเกินไป ไม่น้อยเกินไปจนขาดแคลน หรือไม่มีอะไรเลยมันก็แย่ เพราะฉะนั้นขอให้เป็นวัดทางสายกลาง สะดวกสบายที่จะปฏิบัติธรรมได้ สบายมากเกินไปก็ไม่ได้ ขัดสนฝืดเคืองมากเกินไปก็ทรมาน

ดังนั้น พระพุทธเจ้าตรัสว่า คนเรามักจะเตลิดเลยไปสุดโต่งข้างใดข้างหนึ่ง อย่างหลวงพ่อชาเคยเล่าว่า พระปฏิบัติธรรม กุฏิหลังคารั่ว หลวงพ่อให้บุญซะหน่อย ฝนจะได้ไม่ตก จะได้ไม่เป็นหวัด พระองค์นั้นก็บอกว่า ไม่เป็นไร หลวงพ่อ วัว ควาย มันอยู่กลางนายังไม่เป็นหวัดเลย หลังคารั่วแค่นี้คงไม่เป็นไร แต่ที่ไหนได้ หลวงพ่อก็บอกว่า ถ้าอย่างนั้นก็อยู่ใกล้ๆกับควายก็แล้วกัน กินหญ้าเหมือนควายบ้างน่ะ อันนี้ก็เรื่องเกินไป

เรื่องใหญ่โต หรูหรา ฟู่ฟ่าก็เกินเหตุ ทั้งเจ้าหน้าที่ของรัฐ ของคณะสงฆ์ อะไรที่ปล่อยให้เยิ่นเย้อคาราคาซังจนเป็นอากูล ไม่กำจัดสิ่งปฏิกูลของศาสนา ปล่อยให้รกรุงรังคาราคาซัง มันก็หมักหมมอยู่อย่างนี้ นานๆก็จะบูดเน่า ระเบิดขึ้นมาก็ลำบาก มันก็กระจุยกระจาย ไม่รวมเป็นกลุ่มเป็นก้อน

ยังไงก็เชื่อว่าคนไทยชาวพุทธรู้จักแยกแยะเรื่องศรัทธา ส่วนใครจะสมหวัง ผิดหวังก็เป็นเรื่องนานาทัศนะ นานาจิตตัง ชอบบ้าง ชังบ้าง ก็เป็นเรื่องธรรมดา

เจริญพร


You must be logged in to post a comment Login