วันเสาร์ที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2567

เมืองบาป! / โดย พระพยอม กัลยาโณ

On March 7, 2017

คอลัมน์ : สำนักข่าวพระพยอม
ผู้เขียน : พระพยอม กัลยาโณ

สื่อต่างชาติเขียนว่าประเทศไทยบางที่บางแห่งว่าเป็นเมืองบาป จากสิ่งที่เขาไปสัมผัส หรือญาติพี่น้องที่เคยไปเที่ยว เช่น พัทยาที่ว่ามีการค้าประเวณี สิ่งมอมเมา สิ่งยั่วเย้า ขายเนื้อหนัง ไม่ได้ขายความดี ถ้าคนไปหมกหมุ่นมากก็อาจจะติดโรคติดภัย ซึ่งผู้ชายอาจหนีเมียมาเที่ยว เที่ยวแล้วติดอกติดใจก็มีไม่ใช่น้อย

เห็นเขาบอกว่า ผู้หญิงไทยไปอยู่พัทยา ไปเจอฝรั่งฐานะดีมาติดอกติดใจ ก็จะเอาไปเลี้ยงเป็นภรรยา จะเป็นเมียหลวงหรือเมียน้อยก็ตาม ก็ทำให้บางคนเกิดค่านิยมว่า ถ้าไปอยู่พัทยา เดี๋ยวก็รวยกลับมา เดี๋ยวก็มีเงินมีทอง สร้างบ้านใหญ่โตโอฬาร หรือได้เขยฝรั่งที่มาตกหลุมรักหญิงไทย เหมือนคนไทยสมองไม่มี คิดแต่จะขายตัว ก็ทำให้ประเทศไทยเสียชื่อเสียง เสียเกียรติภูมิที่ว่าเป็นเมืองพุทธ

เป็นเรื่องแปลกเวลาฝรั่งเขาเขียนประจาน เจ้าหน้าที่ไทยก็จะเร่งจับกุม วิ่งกันเป็นวรรคเป็นเวร แต่เป็นแค่ “ผักชีโรยหน้า” สักพักก็จะลืม ปล่อยให้เหมือนเดิม แทนที่จะ “กันไว้ดีกว่าแก้” เพราะแย่แล้วมันแก้ไม่ทัน เป็นข่าวไปแล้วจะมาแก้ทีหลังก็ลำบาก

ก็หวังว่าเจ้าหน้าที่รัฐจะกู้หน้าพัทยาว่าไม่ใช่เมืองบาป เป็นเมืองที่มีวัดวาอาราม มีศาสนาและผู้คนก็จิตใจไม่ได้ต่ำทราม อาตมาเคยไปบิณฑบาตที่พัทยา เห็นผู้หญิงบางคนแต่งตัวยั่วให้เขาลุ่มหลงทางเนื้อหนังเป็นหลัก เป็นอาชีพที่เด็กรุ่นหลังๆบางคนคิดว่าดี เพราะเล่ากันว่าผู้หญิงคนหนึ่งที่ภาคอีสาน สามีตายก็มีสามีใหม่เป็นฝรั่งที่พัทยา ปลูกบ้านใหญ่โต มีสระน้ำ มีอะไรต่างๆที่ชาวบ้านแถวนั้นไม่เคยเห็น

ปรากฏว่า เด็กนักเรียนเรียนจบ ป.5 ป.6 ถามว่าจะไปเรียนที่ไหนต่อ เด็กก็บอกจะไปเรียนพัทยา เพราะอยากจะเป็นอย่างผู้หญิงที่ได้ผัวฝรั่ง แต่ไปแล้วกลับไปติดเหล้า ติดยาก็มี เพราะต่างฝ่ายต่างก็มอมเมากัน พอเมาหนักๆก็เสียเนื้อเสียตัว นึกว่าจะเอาฝรั่งมาอยู่ด้วย แต่เขาก็กลับประเทศเขา ผู้หญิงก็ตั้งท้อง จับไม่ติดแต่ได้ลูกติดมา ตัวเองยังติดเหล้า ติดยา แล้วลูกก็ติดท้องมาอีก ฐานะที่ยากจนก็ต้องจนต่อไป ต้องเลี้ยงลูกเพิ่มขึ้นมาอีกคน

จึงอยากฝากว่า อย่าเป็นโรคคลั่งพัทยา ไปขายเนื้อหนัง ผลที่สุดก็ได้รับบทเรียนกันไปหลายคน แต่เด็กรุ่นหลังยังมีค่านิยมต้องการความหรูหราฟู่ฟ่า แต่ก็ไม่ได้ฟู่ฟ่าไปหมดทุกราย ผิดหวังบ้าง เสียหายก็เยอะ

ก็อยากจะฝากบอกว่า อย่าให้เป็นโรคคลั่งพัทยา แล้วก็เอาพัทยาเป็นสวรรค์กลางอากาศไปเรื่อยๆ ได้มาคนหนึ่งก็นึกว่าน่าจะเป็นรายต่อไป ผลที่สุดก็เสียหาย เมืองไทยยังเป็นเมืองบาป ขายสิ่งที่ไม่ควรขาย จำหน่ายสิ่งที่ไม่ควรจำหน่าย และบริการสิ่งที่ไม่ควรจะบริการ เป็นเมืองบาป ขายบริการเนื้อหนัง ที่โบราณเห็นว่าเป็นพวกตาบู

คนเดี๋ยวนี้ถือเป็นเรื่องเศรษฐกิจ เพราะเราเป็นมนุษย์ประเภทที่เอาเศรษฐกิจเป็นหลัก เอาศีลธรรมเป็นรอง ประเทศจึงถูกมองเป็นเมืองบาป ไม่คิดถึงคนที่ถูกลวงมาให้หลง เสียผู้เสียคน เสียวัฒนธรรม ทั้งที่ควรจะมีความอายบ้าง ที่บอกว่า “ด้านได้อายอด” ตัวนี้แหละเป็นหายนะ เป็นตรรกะวิบัติ

ที่ฝรั่งเขาเขียน ถ้าเมืองไทยเป็นเมืองบาปในสายตาพวกฝรั่ง ต่อไปใครจะไปเที่ยวเมืองบาป เดี๋ยวเขาถามไปไหน ไปไทยแลนด์ ไปเมืองบาปหรือ ก็หวังว่าเราจะช่วยกันกู้หน้าและรักษาศักดิ์ศรีให้คนไทยว่าไม่ใช่เมืองบาป แต่เป็นเมืองที่มีศีลธรรม ทำมาหากินอยู่ในศีลในธรรม

เจริญพร


You must be logged in to post a comment Login