- กลืนเลือดไม่ให้เสียใจPosted 2 days ago
- ระลึกถึงพ่อหลวง ร.9Posted 2 days ago
- 5 ธ.ค.วัดสวนแก้วแตกแน่Posted 3 days ago
- จะกลับมาแบบไหนPosted 4 days ago
- เลือกงานให้โดน บริหารคนให้เป็น ตาม“ลัคนาราศี”Posted 4 days ago
- ต่างศาสนา ต่างชาติพันธุ์ อยู่ร่วมกันภายใต้ความแตกต่างPosted 4 days ago
- โลภ•ลวง•หลง เกมพลิกชีวิต รีแบรนด์หรือรีบอร์นPosted 4 days ago
- กูไม่ใช่ไก่ต้มเว้ย! อย่ามาต้มกูเลย..Posted 4 days ago
- หยุดความรุนแรง-ลวงโลกPosted 5 days ago
- อ.เบียร์ช่วยวัดสวนแก้วPosted 1 week ago
เตรียมสู้ภัยแล้ง / โดย พระพยอม กัลยาโณ
คอลัมน์ : พระพยอมวันนี้
ผู้เขียน : พระพยอม กัลยาโณ
คนไทยจะไหวทันกับภัยแล้งหรือไม่ ถ้าไม่คิดเตรียมการล่วงหน้าเราอาจเจอปัญหาภัยแล้งที่แสนสาหัสและทรมานอย่างหนักก็ได้ มีข่าวแล้วว่าประเทศกัมพูชาหรือเขมรกำลังเตรียมรับมือภัยแล้งที่จะมาถึง เขาเตรียมสู้แบบทันควัน ทันเกม ทันการณ์
ส่วนของเรายังอยู่ระหว่างการศึกษาบ้าง ทำนโยบายอย่างนั้นอย่างนี้ ไม่รู้ว่าจะทันต่อเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นหรือไม่ เวลาน้ำมาก็ไม่ได้เก็บกักไว้ เวลาน้ำแล้งเลยลำบาก ขาดแคลน อยากจะบอกว่าต้องเตรียมตัวรับภัยแล้งโดยรู้เท่ารู้ทัน รู้แก้รู้กัน ไม่ใช่พอแล้งก็มาเตรียมวางแผนอย่างโน้นอย่างนี้ ลอกโน่นลอกนี่ ซึ่งควรจะทำให้เสร็จก่อนเกิดภัยแล้งแล้ว
พอน้ำมามากจะได้มีที่เก็บที่กัก พอน้ำแล้งก็จะได้ไม่ขาดแคลน ไม่ใช่มานั่งเจ็บปวดเพราะต้นไม้ตายหมด ที่แย่กว่านั้นคือต้นไม้กำลังออกดอกออกลูก พอน้ำไม่มีหรือไม่พอดอกก็เหี่ยวแห้ง เฉาตาย
อันนี้เป็นเรื่องที่น่าเสียดาย เราจึงควรจะรู้เท่ารู้ทัน รู้แก้รู้กัน ไม่ใช่แก้กันแบบรอวันตาย ถ้าไม่ตายก็เพราะฟ้าฝนมาช่วย อย่างนี้ก็ไม่ไหวถ้ารอแต่ธรรมชาติ รอฟ้าฝนอย่างเดียว เราต้องรู้ว่าเมื่อฝนมาแล้วจะทำอย่างไรกับมัน เก็บมันไว้อย่างไร ไม่ว่าจะเป็นแก้มลิง หลุมขนมครก
ทฤษฎีในหลวงรัชกาลที่ 9 ท่านวางไว้ยอดเยี่ยม แต่ถ้าเรายังมีปัญหาเรื่องการเตรียมตัว ไม่คิดแก้ไขแต่เนิ่นๆ โบราณบอกว่าให้รู้เท่ารู้ทัน รู้แก้รู้กันเอาไว้ก่อน อย่ารอให้จนแต้มหรือไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา ไม่รู้ตัว อย่างนั้นมันไม่ถูก เราจะได้ไม่ต้องมานั่งทรมาน เจ็บปวด เดือดร้อนกับความขาดแคลนขัดสน ฝืดเคืองข้นแค้น ทั้งๆที่เคยพูดกันว่า “ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว” แต่ตอนนี้จะอดทั้งข้าวทั้งปลากันล่ะถ้าน้ำไม่มี
เหมือนคนไทยเวลาปล่อยเต่า ปล่อยปลา นึกว่าได้บุญหลาย หารู้ไม่ว่าปล่อยลงไปในที่ที่ไม่มีน้ำ เต่า ปลาจะอยู่ได้สักกี่วัน ต้องปล่อยในที่ที่มีน้ำถึงจะอยู่ได้ อันนี้เป็นสิ่งที่เมืองไทยเราน่าจะรีบพูด รีบตักเตือน รีบแก้ไขให้ไว ให้ทันการณ์ทันเวลาก่อนที่จะเดือดร้อนเรื่องขาดแคลนน้ำและน้ำท่วม ถ้ามีที่เก็บก็ท่วมน้อย ไม่ปล่อยลงมาข้างล่าง เก็บเอาไว้ข้างบนเพื่อใช้เวลาขัดสน ไม่ใช่ปล่อยทิ้งไปเฉยๆไม่ได้ประโยชน์เลย แถมยังได้ทุกข์ได้โทษอีก
อันนี้เป็นเรื่องที่ใช้ไม่ได้ ทำอย่างนี้ต่อไปไม่ได้แล้ว ต้องเริ่มเรียนรู้กันด้วยการสังเกตว่า ระยะ 1-2 ปีนั้น น้ำที่เคยมี เคยเก็บ เคยขัง เดี๋ยวนี้มันแห้งไว แห้งเร็ว มันยุบง่ายแทบตั้งตัวไม่ทัน เมื่อ 2 วันยังเยอะอยู่เลย อาทิตย์เดียวหายไปไหน มันเป็นภัยธรรมชาติยุคใหม่ โดยเฉพาะอากาศร้อนมันก็ระเหยเร็ว แห้งเร็ว หมดเร็ว น้ำจึงขาดแคลนเร็วกว่าทุกปี ที่นนทบุรีมีร้อน แล้ง แห้ง แล้วยังเค็มขึ้นมาอีก น้ำเค็มขึ้นมาทำอะไรก็ยาก
ถ้าเปิดน้ำเข้ามารดต้นไม้ก็ตายอีก จะใช้น้ำประปาทำเกษตรกรก็เจ๊ง ราคาพืชผลไม่ได้แพงมากมายพอ ถ้าประปาไม่แพงก็ดีไป เดี๋ยวลำบากต้องเจาะบ่อบาดาล กรมทรัพย์ก็บอกว่ามันสุ่มเสี่ยงต่อภาวะแผ่นดินยุบอะไรต่างๆ ปัญหามันเยอะขึ้น ซับซ้อน ยากต่อการจะแก้ไขได้ง่ายๆ เรียกว่าติดขัดไปหมด แก้อย่างนี้ก็ไปกระทบอย่างโน้น เจาะบ่อบาดาลแก้ก็ไม่พอ แผ่นดินทรุดอีก ทำอะไรก็ยากไปหมด แต่ปัญหาเกิดง่าย
จึงอยากจะฝากคนไทยเราว่า ทำบุญตามเทศกาลมาเยอะแล้ว ลองเปลี่ยนมาทำบุญเพื่อแก้วิกฤตบ้าง ช่วยกันสร้างแท็งก์น้ำ บ่อน้ำ แก้มลิง หลุมขนมครก ฝายน้ำ เจาะบ่อบาดาลในพื้นที่ที่เจาะได้ จะได้มีน้ำไว้ใช้ตลอดปี
เจริญพร
You must be logged in to post a comment Login