วันอาทิตย์ที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2567

‘ทรัมป์’เปิดศึกค่ายรถยนต์

On January 10, 2017

แม้จะยังไม่ได้เข้าดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐอย่างเป็นทางการ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ก็แผลงฤทธิ์ขู่บริษัทยานยนต์ค่ายใหญ่ ด้วยท่าทีแสดงความเป็นชาตินิยม เหมือนที่เคยประกาศไว้ระหว่างหาเสียงเลือกตั้ง

บริษัทยานยนต์ค่ายแรกที่ถูกขู่ ได้แก่ ฟอร์ด ซึ่งเป็นค่ายผลิตใหญ่อันดับ 2 ของสหรัฐ ตามด้วยเจเนอรัลมอเตอร์ส (จีเอ็ม) ค่ายผลิตใหญ่อันดับ 1 ของประเทศ และล่าสุด โตโยต้า ค่ายระดับยักษ์แห่งญี่ปุ่น ก็โดนหางเลขไปด้วย

ทรัมป์ขู่ทั้ง 3 ค่ายทางทวิตเตอร์ว่า ต้องผลิตทั้งตัวรถและอะไหล่ในสหรัฐเท่านั้น ต้องเป็นผลงาน “Made in the USA” เต็มรูปแบบ เพื่อสร้างงานให้ชาวอเมริกัน

หากผลิตในเม็กซิโกและแคนาดา แล้วส่งเข้าไปจำหน่ายในสหรัฐ จะต้องเจอเก็บภาษีขั้นหนักแน่ โดยภาษีนำเข้าสหรัฐ ขั้นหนัก” ของทรัมป์ คือ 35%

เหตุผลที่ค่ายยานยนต์ไปเปิดฐานการผลิตในเม็กซิโก เนื่องจากค่าแรงถูกกว่าในสหรัฐ และสามารถส่งเข้าไปจำหน่ายในสหรัฐได้โดยไม่ต้องเสียภาษี ตามข้อตกลงการค้าเสรี North American Free Trade Agreement (NAFTA) บังคับใช้เมื่อปี 2011

ฟอร์ด ซึ่งมีแผนขยายโรงงานผลิตในเม็กซิโกด้วยงบ 1,600 ล้านเหรียญสหรัฐ ผวากับคำขู่ ประกาศยกเลิกแผนทันที โดยหันมาเตรียมสร้างโรงงานใหม่ในรัฐมิชิแกนของสหรัฐแทน

ส่วนจีเอ็มไม่ได้รับผลกระทบมากนัก เพราะส่งรถผลิตในเม็กซิโกเข้าไปจำหน่ายในสหรัฐเพียงปีละ 2,400 คันเท่านั้น

แต่โตโยต้าโดนอ่วม เพราะมีฐานผลิตขนาดใหญ่ในเม็กซิโก และอยู่ระหว่างก่อสร้างโรงงานใหม่อีกแห่ง ด้วยงบ 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ที่รัฐกัวนาฮัวโต ของเม็กซิโก กำหนดเปิดดำเนินการในอีก 3 ปี โดยจะจ้างงาน 2,000 ตำแหน่ง และมีแผนผลิตรถปีละ 200,000 คัน

นอกจากนั้น โตโยต้ายังมีโรงงานผลิตอะไหล่ขนาดย่อม มีลูกจ้าง 150 คน ที่แคนาดาด้วย

ขณะค่ายยานยนต์ทั้ง 3 แห่งที่ถูกขู่ ตกอยู่ในอาการปั่นป่วน และค่ายอื่นๆในสหรัฐ อย่าง นิสสัน ฮอนด้า และมาสด้า รู้สึกร้อนๆหนาวๆ

แต่เว็บไซต์ Global Times กระบอกเสียงภาคภาษาอังกฤษของรัฐบาลจีน กลับมองเป็นโอกาส โดยเขียนบทความแนะเม็กซิโกว่า ไม่ควรเสียใจกับแผนของทรัมป์ แต่ควรมองว่าเป็นโอกาสดีที่เม็กซิโกจะหันมาเพิ่มน้ำหนักดึงนักลงทุนจีนเข้าไปแทนที่

เป็นโอกาสทองที่จีนกับเม็กซิโก จะเพิ่มระดับการลงทุนในอุตสาหกรรมยานยนต์ให้มากขึ้น 


You must be logged in to post a comment Login