วันจันทร์ที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2567

ทนมาถึงจุดนี้ได้ไง? / โดย สนานจิตต์ บางสพาน

On January 2, 2017

คอลัมน์ : สากกะเบือยันเรือรบ
ผู้เขียน : สนานจิตต์ บางสพาน

ไม่บ่อยนักที่ “โลกวันนี้วันสุข” จะวางแผงตรงกับวันสุดท้ายของปี ปรกติ สนจ. ชอบเอาจดหมายของอาจารย์ป๋วย อึ๊งภากรณ์ “จากครรภ์มารดาถึงเชิงตะกอน” ที่ สนจ. ชอบมากๆมาลง เพราะเป็นเสมือนความหวังของคนรุ่น สนจ. ที่มีอาจารย์ป๋วยเป็น “ต้นแบบ”

แต่ปีนี้หลังจากคนไทยต้องอยู่ภายใต้การบริหารจัดการแผ่นดินของ “คณะรัฏฐาธิปัตย์” ที่ยึดอำนาจเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 หรือกว่า 2 ปีแล้ว โดยคนไทยแบ่งข้างกันชัดเจน ฝ่ายหนึ่งสนับสนุนทหาร ปืน และมาตรา 44 อีกฝ่ายหนึ่งไม่เอาด้วย ไม่ต้องมานั่ง “หลอกตัวเอง” หรือพูดจาให้ดูดีมีความหวังกับการเรียกร้องให้คนไทยปรองดองสมานฉันท์ มันไม่มีทางเกิดขึ้นได้

บรรยากาศแบบนี้ทำให้ไม่อยู่ในอารมณ์ที่จะทำอะไรนอกจากนั่งดูความเป็นไปของบ้านเมืองและคนไทยว่า หลังจากที่เห็นตั้งแต่เกิด เติบโต เรียนหนังสือ ทำงาน คิดเป็น อ่านมาก รู้มาก เจอมากับตัวเองก็สารพัดรูปแบบทั้งส่วนตัวและส่วนรวม ตัดช่องน้อยแต่พอตัว สนจ. เฉยๆนะ ทหารอยากครองอำนาจก็เอา ครองไปเลย มาดูกันว่าจะไปได้นานขนาดไหน จะฝืน “พลวัต” ของโลกได้นานเท่าไร แรงเสียดทานทั้งหลายบรรดามีจะก่อให้เกิดประกายไฟกระเด็นกระดอนไปโดนปัญหาที่เหมือนสำลีชุบน้ำมันรอนสัน “รอ” การลุกทันทีอยู่แล้ว

ทุกอย่างที่ สนจ. ผ่านมาในอดีต สิ่งที่เห็นและเจออยู่ในปัจจุบันนี้ภายใต้ปืนและมาตรา 44 ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กับนักแสดงตัวเดิมๆ บทเดิมๆ จากทุกฝ่ายเป็นเรื่องขี้ผง ฝรั่งมันบอกว่า “อะ พีซ ออฟ เค้ก” หมูหวานประมาณนั้น ทหารไม่ได้เก่งทุกอย่างและทำได้ทุกอย่าง

การบริหารกิจการบ้านเมืองไม่ใช่ทางของทหาร เมื่ออยากมีอำนาจก็ไม่ว่ากัน จะอ้างเหตุและผลอะไรก็ตาม เมื่อมีแล้วพวกคุณอยู่กับมันได้ไหม อยู่แล้วจะเล่นกับมันยังไง ถึงเวลาที่ต้อง “ลง” จะลงหรือไม่ หรือเพลินจนเกิดอาการ “ชัก” ไม่ใช่ชักน้ำลายฟูมปาก แต่กลายเป็นชัก…มัน

คนรุ่นก่อนพูดเสมอว่า “บ้านเมืองเป็นของเราคนเดียวซะที่ไหน” สนจ. ก็ยืนยันว่าบ้านเมืองไม่ใช่ของใครคนเดียว ใครหน้าไหนจะรับสมอ้างอย่างไร ถามจริงว่าเอ็งแบกบ้านเมืองคนเดียวไหวเหรอ…ก็ไม่ไหว

ไม่เคยมี “ระบบกินรวบ” ระบบไหนในโลกที่อยู่รอด อย่างดีก็อยู่ได้จุดหนึ่ง เวลาหนึ่ง เมื่อเวลาเปลี่ยน คนเปลี่ยน ทุกสิ่งที่เกี่ยวข้องกับคนและเวลาก็ต้องเปลี่ยน

ในวาระที่เราคนไทยที่ “ไม่เอารัฐประหาร” ไม่เห็นดีเห็นงามกับการยึดอำนาจ คณะรัฐประหารมีชีวิตยืนยาวมาได้อีกปี ก็ขออวยพรให้มีความสุขกันตามอัตภาพ ส่วน “ท่านผู้นำ” เมื่อยึดแล้วก็เอาไปเลย… ท่านอยู่ได้ พวกเราคนไทย “ส่วนหนึ่ง” ก็อยู่ได้ อยู่แบบไหนก็เป็นเรื่องของใครของมัน หาทางลงกันให้สวยๆก็แล้วกัน

หนังชีวิตในประเทศนี้ต้องดูกันยาวๆ สนจ. เห็นชื่อนายทุน ผู้อำนวยการสร้าง คนเขียนบท ผู้กำกับฯ นักแสดงหลักและนักแสดงสมทบแล้ว ต้องหัวเราะก๊าก แทบไม่ต้องเดาเลยว่าพล็อตจะเป็นยังไง เดินเรื่องยังไง จบยังไง

ดูมาจนเบื่อ เหมือนดู “บ้านทรายทอง” นั่นแหละ…ฮา


You must be logged in to post a comment Login