วันพฤหัสที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2567

ตามล่าหาความรัก / โดย ศิลป์ อิศเรศ

On December 19, 2016

คอลัมน์ : ร้ายสาระ
ผู้เขียน : ศิลป์ อิศเรศ

สาวใจบุญรับเด็กหญิงวัย 16 ปี มาอุปถัมภ์เหมือนเป็นลูกบุญธรรม หารู้ไม่ว่าแท้จริงแล้วเด็กที่น่าสงสารคนนี้อายุมากกว่าเธอด้วยซ้ำไป

เป็นเวลาหลายปีที่สาวน้อยวัย 16 ปี ชาริตี้ สตีเวนส์ ตามขอแอดเฟซบุ๊คเป็นเพื่อนกับคนแปลกหน้าหลายคน หลังจากนั้นเธอก็จะเล่าเรื่องราวชีวิตที่น่าสงสารว่าถูกพ่อแม่ทำร้าย ต้องการที่พักพิง

แม้จะมีรูปร่างอ้วนท้วม แต่ชาริตี้มีใบหน้าอ่อนเยาว์สมวัย สูงราว 150 ซม. การแต่งกายจากภาพในโปรไฟล์ก็ดูสมกับวัย เพราะเธอเกล้าผมผูกโบ สวมเสื้อยืดรูปฮัลโหลคิตตี้เหมือนเด็กวัยกำลังโตทั่วๆไป

ทามิก้า ลินคอล์น สาวใจบุญวัย 30 ปี รู้สึกสงสารชีวิตลำเค็ญของชาริตี้จึงเสนอตัวรับอุปถัมภ์ ให้ที่อยู่อาศัยและส่งเสียให้ได้เล่าเรียนเหมือนเด็กคนอื่นๆ

ชาริตี้อ้างว่าก่อนหน้านี้ได้รับการศึกษาแบบโฮมสคูล ดังนั้น จึงไม่สามารถหาทรานสคริปต์มาแสดงได้ อีกทั้งการสมัครเข้าเรียนไม่จำเป็นต้องใช้สูติบัตร โรงเรียนมัธยมนิวลิน ในเมืองลองวิว รัฐเทกซัส จึงรับตัวชาริตี้เป็นนักเรียน

แม่เยอะ

สิ่งเดียวที่ชาริตี้มีพฤติกรรมแตกต่างจากเด็กคนอื่นคือ เธอใช้เวลาว่างทำงานในร้านแมคโดนัลด์ที่แม่บุญธรรมเป็นผู้จัดการร้าน ซึ่งทามิก้าไม่ใช่แม่บุญธรรมคนแรก และแน่นอนว่าไม่ใช่แม่บุญธรรมเพียงคนเดียวที่ชาริตี้เคยมี

ชาริตี้ยังคงติดต่อกับแม่บุญธรรมคนอื่นๆที่เธอเคยไปขออาศัยอยู่ด้วยก่อนหน้านี้ และเธอก็ยังเล่นโซเชียลมีเดียเป็นปรกติเหมือนเด็กวัยรุ่นทั่วๆไป ดังนั้น จึงไม่ใช่เรื่องยากหากจะมีใครที่อยากติดตามความเคลื่อนไหวของเธอ

วันหนึ่งในเดือนตุลาคม 2013 อดีตแม่บุญธรรมคนหนึ่งติดต่อกับทามิก้า เปิดเผยเรื่องราวของชาริตี้ให้ฟัง เธอไม่รู้ว่าชาริตี้ต้องการอะไรจากการหลอกลวงผู้คน

ตำรวจรวบตัวชาริตี้ เธอถูกขัง 85 วัน และปรับเป็นเงิน 215 ดอลลาร์ ในความผิดเล็กน้อยข้อหาแจ้งข้อมูลเท็จกับเจ้าพนักงาน แต่เธอไม่ได้สร้างความเสียหายใดๆอื่นให้แม้แต่น้อย

ครอบครัวแตกแยก

ชาริตี้ สตีเวนส์ มีชื่อจริงว่า ชาริตี้ จอห์นสันส์ บิดาชื่อลาร์ลี่ และมารดาชื่อเชอร์ลีย์ เธอเกิดเมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 1979 ดังนั้น เมื่อนับถึงวันที่ถูกตำรวจจับ เธอมีอายุ 34 ปี แก่กว่าทามิก้าผู้ซึ่งเป็นแม่บุญธรรมในตอนนั้นที่มีอายุเพียง 30 ปี

แม่ของชาริตี้มีปัญหาเรื่องเสพยาเสพติด เธอถูกสอบสวนโดยเจ้าหน้าที่กรมคุ้มครองเรื่องในครอบครัวและพบว่า ชาริตี้ได้รับการเลี้ยงดูอย่างไม่ถูกต้องและถูกทำทารุณกรรมโดยผู้เป็นแม่ พบรอยบาดแผลถูกเฆี่ยนตีบนร่างกายชาริตี้หลายแห่ง

ปี 1985 เชอร์ลีย์เกิดอาการประสาทหลอน เธอถูกส่งตัวเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล แต่ถึงกระนั้นเธอก็ยังคงได้สิทธิเลี้ยงดูชาริตี้ จนกระทั่งชาริตี้อดรนทนไม่ไหวหนีออกจากบ้านในปี 1994

จากบันทึกประวัติครั้งสุดท้ายพบว่าชาริตี้ไปอาศัยอยู่ที่สถานอนุเคราะห์แห่งหนึ่งในเมืองออสติน รัฐเทกซัส หลังจากนั้นไม่นานสถานอนุเคราะห์แห่งนี้ต้องปิดตัวลงเพราะขาดเงินสนับสนุน

เด็กไม่ยอมโต

ชาริตี้หลบไปพักอาศัยอยู่บ้านย่า แต่แล้วย่าก็เสียชีวิตอย่างกะทันหัน เป็นช่วงเวลาเดียวกับที่แม่ของเธอย้ายที่อยู่ไปยังรัฐนิวยอร์ก คราวนี้ชาริตี้ไร้ที่พึ่งพิงจริงๆ เธอกลับไปขอพึ่งพิงที่สถานอนุเคราะห์อีกแห่งในรัฐเทกซัส

ปีถัดมา เมลิซ่า ญาติผู้พี่คนหนึ่ง ติดต่อสถานอนุเคราะห์เพื่อขอรับเลี้ยงดูชาริตี้ แต่ฝันร้ายไม่จบลงเพียงแค่นั้น ชาริตี้กล่าวหาว่าแบร์รี่ สามีของเมลิซ่า พยายามล่วงละเมิดทางเพศหลายครั้ง

เมลิซ่ามีอายุห่างจากชาริตี้เพียงแค่ 7 ปีเท่านั้น ซึ่งนั่นอาจเป็นสาเหตุทำให้ชาริตี้ไม่เชื่อฟังญาติผู้พี่เท่าที่ควร ขณะที่แบร์รี่เอ่ยปากว่าชาริตี้เป็นเด็กเหลือขอ

ชาริตี้จบมัธยมปลายในปี 1998 เมลิซ่าและแบร์รี่ปรึกษากันว่าถึงเวลาที่ชาริตี้จะต้องช่วยเหลือตัวเองบ้างแล้ว ทันทีที่ชาริตี้ได้ยินพี่สาวและพี่เขยปรึกษากัน เธอก็หนีออกจากบ้านทันที

พ่อเลี้ยงทารุณ

ความเป็นจริงแล้วในเวลานั้นชาริตี้ยังคงเรียนอยู่ในระดับมัธยมต้นเท่านั้นเอง เธอเข้ารับการศึกษาต่อในโรงเรียนสำหรับเด็กพิเศษที่ไม่สามารถเรียนร่วมกับเด็กทั่วไปได้จนกระทั่งเรียนจบระดับมัธยมปลายในปี 2003 โดยมีครอบครัวสตีเวนส์ให้การสนับสนุน

ชาริตี้ไม่เปิดเผยว่าเธอเข้ามาอาศัยอยู่กับครอบครัวสตีเวนส์ได้อย่างไร ต่อมาในปี 2009 ชาริตี้โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊คว่าเธอถูกพ่อเลี้ยงทำร้ายและถูกล่วงละเมิดทางเพศ

ข้อความของชาริตี้สร้างความสะเทือนใจให้กับผู้ติดตามเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเธออ้างว่าเธออายุเพียง 15 ปีเท่านั้น ทั้งๆที่ในความเป็นจริงแล้วตอนนั้นเธออายุ 24 ปี

ปี 2009 สาวจากรัฐแมริแลนด์คนหนึ่งรู้สึกเห็นใจจึงเชิญชาริตี้มาหา แต่หลังจากพูดคุยกันแล้วเธอสัมผัสได้ถึงความไม่ชอบมาพากล เธอออกเงินซื้อตั๋วให้ชาริตี้เดินทางกลับบ้านโดยทันที

เด็กโข่ง

แทนที่จะเดินทางกลับบ้าน ชาริตี้แวะลงกลางทางในเมืองเล็กๆชื่อมาร์แชล เธอเข้าไปตีสนิทกับหมอสอนศาสนาโรเบิร์ต บราวน์ จนกระทั่งเขาเชื่อใจรับเธอเข้ามาอยู่ในบ้าน

คราวนี้ชาริตี้ระมัดระวังตัวจนผิดสังเกต เธอแต่งเนื้อแต่งตัวแบบเด็กวัยรุ่น พูดจาใช้สำนวนวัยรุ่น ผูกเปีย เกล้าผมแบบเด็กวัยรุ่นตลอดเวลา แต่เมื่อถูกห้อมล้อมในกลุ่มผู้ใหญ่เธอก็เผลอออกความเห็นแบบที่เด็กวัยรุ่นไม่สามารถทำได้

เพื่อนของโรเบิร์ตเกิดความสงสัยจึงสืบหาข้อมูลจากโลกออนไลน์จนพบตัวตนที่แท้จริงของชาริตี้ ทำให้ต้องเธอระเหระหนไปขออาศัยอยู่กับครอบครัวอื่นๆอีกหลายครอบครัวจนกระทั่งมาพบกับทามิก้าในปี 2013

ทามิก้าส่งตัวชาริตี้ไปพบโอซาไรมี โอบาเซกิ นักสังคมสงเคราะห์ที่ทำหน้าที่ช่วยเหลือหญิงสาว โอซาไรมีโทรศัพท์บอกกับทามิก้าว่าชาริตี้ไม่ใช่เด็ก เส้นผม ฟัน และผิวพรรณ แสดงให้เห็นได้ชัดว่าเธอเป็นผู้ใหญ่

ทามิก้าแจ้งตำรวจ และชาริตี้ก็ถูกรวบตัวในคืนวันนั้น ความจริงทั้งหมดจึงถูกเปิดเผยออกมา เธอถูกจำคุกในข้อหาแจ้งข้อมูลอันเป็นเท็จเกี่ยวกับชื่อจริงและอายุ ขณะที่ชาริตี้หลอกลวงผู้คนมากมาย แต่เธอกลับได้รับความเห็นใจจากคนจำนวนมาก เพราะการหลอกลวงของเธอนั้นไม่ได้ทำเพื่อหวังทรัพย์สินเงินทอง แต่เธอกำลังไขว่คว้าหาความรัก ความอบอุ่นในครอบครัวที่เธอไม่เคยได้รับเมื่อตอนเป็นเด็ก


You must be logged in to post a comment Login