- ตั้งสติให้ดี “โลกนี้ มีเกิด มีตาย”Posted 2 months ago
- อย่าหาเรื่องอยู่ร้อน นอนทุกข์Posted 2 months ago
- โลกธรรมPosted 2 months ago
- อนุโมทนา คนพิการสู้ชีวิตPosted 2 months ago
- สลายความเกลียดชังPosted 2 months ago
- สู้ดีกว่าลาโลกPosted 2 months ago
- ใช้คาถาพระพยอมบ้างPosted 2 months ago
- เสียงชื่นชมดีกว่าเขาด่าPosted 2 months ago
- ต้องใช้ยาแรงกับคนขายชาติPosted 2 months ago
- บทเรียนผู้เห็นกงจักรเป็นดอกบัวPosted 2 months ago
น้ำพระทัย / โดย พระพยอม กัลยาโณ

คอลัมน์ : สำนักข่าวพระพยอม
ผู้เขียน : พระพยอม กัลยาโณ
พระบารมีของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 ทรงพระราชทานอภัยโทษเป็นการปฐมฤกษ์หลังจากขึ้นทรงราชย์ ถือเป็นหลักธรรมของพระราชาที่มีต่อพสกนิกร
คุณกอบเกียรติ กสิวิวัฒน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ บอกว่าจะมีผู้ต้องโทษที่ได้รับการพระราชทานอภัยโทษและได้รับการปล่อยตัวทันทีประมาณ 30,000 คน โดยแต่ละเรือนจำจะมีคณะกรรมการตรวจสอบคุณสมบัติ เพื่อให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์คือ ต้องเป็นผู้ต้องโทษชั้นดีขึ้นไปและไม่กระทำผิดซ้ำ ไม่ใช่ผู้ต้องโทษคดีฆ่าข่มขืน ฉ้อโกงประชาชน หรือค้ายาเสพติด
อย่างหนึ่งในผู้ที่จะได้รับพระราชทานอภัยโทษคือ คุณชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ถือเป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างยิ่งที่จะทำให้ผู้กระทำผิดได้สำนึก
นอกจากนี้ยังทรงมีน้ำพระทัยที่จะพระราชทานอภัยโทษผู้ต้องโทษคดีมาตรา 112 เกี่ยวกับหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ โดยเฉพาะผู้ที่ถูกคุมขัง แต่ไม่รวมผู้ที่หลบหนี
การพระราชทานอภัยโทษครั้งนี้จึงถือเป็นข่าวใหญ่ แม้แต่ผู้ที่แสดงความไม่พอใจต่อสถาบัน ก็อย่าไปคิดเอาเวรเอากรรมอะไรกัน อย่าไปผูกอาฆาตพยาบาทจองเวรอะไรกันนักหนาเลย ให้เขามีโอกาสปรับตัวเป็นคนดี เพราะบางคนยังอยากให้ติดคุกนานๆ ไม่น่าปล่อย
ถ้าเขาจะสร้างเวรสร้างกรรม ก็ถูกจับเข้าคุกอีก ถ้าเขามีสำนึกชอบ สำนึกดี ก็เชื่อว่าจะทำให้ชีวิตก้าวหน้าไปได้ดีขึ้น
อาตมาก็หวังว่า บรรดาเครือญาติของผู้ที่ถูกจับกุมคุมขัง ผู้ต้องโทษทั้งหลายที่สูญเสียอิสรภาพหลายเดือนหลายปี จะมีโอกาสออกมาอยู่กับครอบครัวอย่างมีความสุข อาตมาเชื่อว่านี่คือโอกาสดี นาทีทองของพสกนิกรไทยที่อยู่ใต้พระบรมโพธิสมภาร
การพระราชทานอภัยโทษก็เพื่อไม่ให้ไปก่อโทษก่อภัยอะไรกับบ้านกับเมือง หรือกับใครอีก ก็ขอให้มีสำนึกดี สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ เพื่อกลับมาดำรงชีวิตอย่ามีสติ ไม่มีอารมณ์เดือดดาล เคียดแค้นไปก่อคดีอะไรขึ้นมาอีก
ที่สำคัญประชาชนคนไทยทั่วไปก็ต้องให้โอกาสและยินดีกับผู้ที่พ้นโทษพ้นภัย อย่าไปรังเกียจเดียดฉันท์ให้โอกาสเขากลับสู่สังคม ดีกว่าจับกุมคุมขังไว้เยอะๆ เสียงบประมาณมากมายในการคุมขัง ซึ่งไม่มีประโยชน์อะไร ทั้งผู้คุม ข้าวปลาอาหาร การดูแลเมื่อเจ็บไข้ได้ป่วย
จึงหวังว่า ผู้ได้รับพระราชอภัยโทษคราวนี้ จะคืนกลับสู่ครอบครัวญาติพี่น้อง ใครที่เป็นหัวหน้าครอบครัวก็รักษาครอบครัวให้ดีต่อไป ใครเป็นพี่เป็นน้องก็ขอให้อยู่กันด้วยความดีงามตลอดไป
เจริญพร
You must be logged in to post a comment Login