วันพุธที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2567

ถึงเวลากลับบ้าน! / โดย Pegasus

On December 12, 2016

คอลัมน์ : เพื่อชาติประชาชน
ผู้เขียน : Pegasus

ภารกิจสำคัญของการรัฐประหารนอกจากที่กล่าวอ้างมาหลายครั้งคือ จัดการความเรียบร้อยในช่วงเวลาสำคัญ ซึ่งได้ผ่านพ้นไปแล้วด้วยความเรียบร้อย เท่ากับหมดภารกิจสำหรับคณะรัฐประหารแล้ว

หลายท่านอาจรู้สึกขอบคุณที่บ้านเมืองสงบเรียบร้อยราบคาบในช่วงเวลาสำคัญนี้ แต่สิ่งที่ติดตามมาประการหนึ่งคือ รัฐบาลชั่วคราวและรัฐธรรมนูญชั่วคราว ทำให้ลักษณะการตัดสินใจในทุกองค์กรมีความผิดปรกติ ทำให้เกิดความไม่มั่นใจ และโรดแม็พที่เลื่อนมาเรื่อยๆ รวมถึงการวางโครงสร้างการสืบทอดอำนาจให้ยาวนาน เพราะขณะนั้นไม่ทราบว่าสถานการณ์จะมีความพลิกผันอย่างไร

ขณะนี้มีคำถามว่าทำไมการบริหารบ้านเมืองจึงมีปัญหาและไร้ความสามารถในการพัฒนาประเทศ คำตอบคำเดียวคือ ความเชื่อมั่น

ความเชื่อมั่นไม่อาจเกิดจากโพลที่มาโฆษณาซ้ำซาก แม้ผู้ทำโพลอาจหวังให้ต่างชาติเข้าใจและมาลงทุน แต่กลับเป็นคำเฉลยจากรัฐบาลเองว่าภาคเอกชนไทยไม่ลงทุน ซึ่งธนาคารก็จมูกไวไม่ยอมปล่อยกู้ เพราะเห็นว่าหากปล่อยกู้โดยที่ไม่มีความหวังว่าธุรกิจจะทำกำไรได้ในภาวะเศรษฐกิจถดถอยเช่นนี้ก็มีแต่จะขาดทุนกันทั้งระบบนั่นเอง

เมื่อคนในประเทศยังไม่ลงทุนแล้วจะให้ต่างชาติมาลงทุนได้อย่างไร แถมยังคิดจะย้ายฐานการลงทุนออกไปเรื่อยๆอีก เหมือนที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ไม่กล้าปล่อยกู้ให้

ขณะนี้รัฐบาลจำเป็นต้องหารายได้เพื่อมาจ่ายเงินเดือนข้าราชการและลงทุนต่างๆของรัฐบาล ต้องการขายพันธบัตรจำนวนมากเพื่อแก้ปัญหาเฉพาะหน้า จนในที่สุดก็เกิดภาระหนี้สินมากเกินกว่าจะใช้หนี้ได้ รัฐบาลต่อๆไปก็ต้องแบกภาระไป

ผลการกู้เงินโดยไม่สามารถหารายได้มาหมุนเวียนเข้าสู่ในระบบได้ เปรียบเหมือนแม่บ้านพ่อบ้านที่ติดเหล้าหรือติดการพนันจนงอมแงม บ้านใครมีแม่บ้านติดไพ่ หรือพ่อบ้านติดพนันม้า ลูกบ้านพนันบอล ไม่มีเงินก็ต้องไปกู้มาเล่น สภาพก็ไม่ต่างกับรัฐบาลขณะนี้ เพียงแต่รัฐบาลไม่ต้องรับผิดชอบต่อประชาชนเท่านั้น เพราะไม่มีการตรวจสอบและไม่มีวาระอะไรที่ชัดเจน เนื่องจากเป็นนักการเมืองที่มาจากการแต่งตั้งทั้งสิ้น

การหยุดบทบาทนักการเมืองทั้งรัฐบาลทหารและรัฐสภาทหารจึงเป็นทางออกที่ดีที่สุดของประเทศในเวลานี้ เนื่องจากหมดภารกิจที่ประชาชนส่วนใหญ่ยอมรับแล้ว ทั้งรัฐบาลก็ไม่มีความถนัดในการบริหารประเทศ ยิ่งไปกว่านั้นยังขาดความเชื่อถือทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งส่งผลต่อภาวะเศรษฐกิจ

ยิ่งไปกว่านั้นการนำเทคนิคทางทหารมาใช้ปฏิบัติการข่าว ทำให้ถูกตั้งคำถามว่าเป็นเรื่องจริงหรือน่าเชื่อถือหรือไม่ เพราะไม่เหมือนการต่อสู้ในสนามรบ ก็มีแต่ทำให้นักลงทุนหมดความเชื่อมั่น ไม่ไว้วางใจและไม่กล้าลงทุน

ดังนั้น ไม่ว่าจะมีทีมเศรษฐกิจเก่งจากไหนก็ตาม เศรษฐกิจก็ยังมีปัญหาความไม่เชื่อมั่นหากยังอยู่ภายใต้การปกครองของรัฐบาลทหาร

จึงได้แต่เรียกร้องให้นักการเมืองจากการแต่งตั้งเสียสละผลประโยชน์และรายได้ต่างๆที่รับมายาวนานแล้ว ให้นึกถึงเหตุผลว่าภารกิจสำคัญต่างๆได้ยุติลงแล้ว ก็สมควรที่จะพิจารณาตนเองกลับกรมกอง เพื่อเห็นแก่ประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติ

เมื่อประชาชนปกครองกันเอง ความตึงเครียด ความรุนแรงก็จะไม่เกิดหากไม่มีการแทรกแซงและปลุกระดมโดยกลุ่มและกองกำลังต่างๆ เจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจยึดมั่นในการปฏิบัติหน้าที่โดยไม่เกรงกลัวต่อกลุ่มและกองกำลังใดๆ สถานการณ์ก็จะกลับสู่ปรกติ

หากต้องการให้เศรษฐกิจกลับฟื้นอย่างรวดเร็ว ประชาชนมีเงินใช้จ่ายได้อย่างสุขสบาย ไม่ต้องเป็นหนี้ถึงลูกหลาน เพียงแค่ถามประชาชนว่าต้องการรัฐธรรมนูญแบบใดแล้วให้โหวตกันไป เมื่อได้รัฐธรรมนูญที่ต้องการก็เลือกตั้งโดยเร็ว เศรษฐกิจก็จะกระเตื้องและฟื้นตัว อย่างน้อยๆ ก็ไล่ทันประเทศเพื่อนบ้านได้บ้าง

หวังว่าจะมีใครได้ยินบ้าง จะได้ “ลงจากหลังเสือ” อย่างสง่างาม


You must be logged in to post a comment Login