วันอาทิตย์ที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2568

สังคมคนดี(แต่พูด) / โดย ทีมข่าวการเมือง

On November 29, 2016

คอลัมน์ : เรื่องจากปก
ผู้เขียน : ทีมข่าวการเมือง

วันนี้แทบไม่มีใครไม่รู้จัก “เบส-อรพิมพ์ รักษาผล” นักพูดชื่อดังที่ไม่เคยมีใครรู้ว่าดัง ซึ่งตกเป็นข่าวในโลกออนไลน์และทะลุขึ้นสู่ข่าวในสื่อกระแสหลักตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากที่เจ้าตัวออกมาให้ข่าวเองว่าสถานทูตสหรัฐประจำประเทศไทยปฏิเสธให้วีซ่าเข้าสหรัฐ โดย “เบส” ให้สัมภาษณ์ (15 พฤศจิกายน) ว่าเพราะติดเครดิตบูโร ไม่มีงานประจำ ฐานะทางการเงินจึงไม่ชัดเจน จนทำให้ต้องยกเลิกงานทอล์คโชว์ที่สหรัฐ นำมาสู่การตีความสาเหตุกันไปต่างๆนานา แต่บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด (เครดิตบูโร) กลับโพสต์ชี้แจงข้อเท็จจริงว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในหลักฐานการยื่นขอวีซ่า

ข่าวสวนกลับแบบนั้นจึงยิ่งทำให้ “เบส” ดังกระหึ่มทั้งในโลกออนไลน์และสื่อทั่วไป มีการขุดคุ้ยว่าเกิดอะไรขึ้นกับนักพูดที่มีความสามารถในการพูดปลุกเร้าอารมณ์ให้คนฟังน้ำตาไหลแทบทุกที่ที่ไปพูด แต่กลับพูดในสิ่งที่ไม่ควรพูด ยิ่งเมื่อมีการเผยแพร่คลิปที่ “เบส” พูดพาดพิงถึงคนอีสานเมื่อวันที่ 6 มกราคม 2559 ซึ่งกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดมหาสารคามจัดโครงการสร้างการรับรู้ในพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและพระบรมวงศานุวงศ์ ที่หอประชุมเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม จังหวัดมหาสารคาม โดยมีนักเรียนโรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 26 จังหวัดมหาสารคาม 35 โรงเรียน และสถาบันการอาชีวศึกษามหาสารคาม 4 สถาบัน จำนวนกว่า 3,000 คนร่วมรับฟัง โดยมีคำพูดตอนหนึ่งว่า

“พี่จะไม่ถามว่ารักในหลวงไหม รู้อย่างเดียวว่าคนอีสาน (เม้มปาก) ในหลวงเสด็จฯบ่อยมากและช่วยคุณเยอะมาก คนอีสานคะ โปรดฟัง ในหลวงรักพวกคุณ แปลกนะที่บางทีพวกคุณลืมในหลวงเนอะ แปลกอ่ะ พี่ไม่ได้ว่านะ พี่เข้าใจ เพราะคุณมันเกิดช้าไง”

ปฏิกิริยาคนอีสาน-โซเชียล

คลิปดังกล่าวเป็นข่าวหลังจากเฟซบุ๊ค “ปกรณ์ พรชีวางกูร” นำมาเผยแพร่พร้อมข้อความ (17 พฤศจิกายน) ว่า “คนอีสานคิดยังไงกับคลิปนี้ครับ… กดแชร์สิครับ อยากรู้ครับว่าคนอีสานคิดยังไง อยากรู้ครับว่าคนไทยคิดยังไงกับสิ่งที่ผู้หญิงคนนี้พูด คนพูดชื่อ…เบส อรพิมพ์ รักษาผล”

ปรากฏว่ามีคนเข้าไปแสดงความคิดเห็นไม่พอใจ “เบส” เป็นจำนวนมาก ยิ่งได้รับการขยายความจากเพจอย่าง “อาณาจักรไบกอน Returns” ที่โพสต์ถามว่า “คุณเอาอะไรมาวัดค่าความจงรักภักดี สันดาน…แบบนี้สมแล้วที่ประเทศที่เค้ามีเสรีภาพไม่ให้เข้าประเทศ ความคิดในกะลา มองคนไม่เท่ากัน คนอีสานถึงเค้าจะพูดไม่เก่งเท่าคุณ ถึงเค้าจะแสดงออกไม่เก่งเท่าคุณ แต่โปรดสำเหนียกไว้ เค้าก็รักไม่น้อยกว่าคุณหรอก” กรณีของ “เบส” จึงยิ่งไปกันใหญ่

ขณะที่เพจ “หมออั้ม-อิราวัต อารีกิจ” โพสต์ว่า คลิป(เบส)นี้ฝากแชร์เลยครับ เพื่อให้เห็นธาตุแท้นักพูดบางคนที่สักแต่พูดๆๆๆเอาดีเข้าตัว และผูกมัดความคิดยัดเยียดความเชื่อของตนเองให้กับผู้ฟัง จากคลิปผู้พูดมีอคติกับผู้คน ใจแคบและมีความอัปยศในวิสัยทัศน์ เอาการเมืองมาเกี่ยวข้องกับสถาบันฯ ตัดสินคน ตัดสินผู้คนแทนเบื้องสูง อ้างเบื้องสูง ระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาท หนำซ้ำยังดูหมิ่นประชาชนคนอีสาน

“นี่หรือนักพูดของพ่อ อุปโลกน์ตัวเองขึ้นมาทั้งนั้น ใครจะเว้นที่ยืนให้เธอก็แล้วแต่ครับ แต่ไม่ใช่ผมแน่ ยิ่งเห็นอ้างพระองค์ท่านแบบนี้ยิ่งรู้สึกโกรธและยากต่อการจะวางเฉย คนที่มีใจรักสถาบันฯ คนที่มองคนเท่ากัน คนที่รักประชาธิปไตยเข้าใจความรู้สึกผมดี”

แต่ที่เป็นข่าวจนทำให้คนทั่วไปต้องมาสนใจ “เบส” คือโพสต์ของตลกชื่อดังเลือดอีสาน “ตุ๊กกี้-สุดารัตน์” หรือ “ตุ๊กกี้ชิงร้อยชิงล้าน” ระบุในเชิงสั่งสอนและแนะนำว่า “บารมียังไม่พอ อย่าไปกล่าวถึงใคร เอาเรื่องตัวเองเท่านั้น จะดี โลกไปไกล คำพูดถ้าพาดพิงมันจะกลับมาทำลายเรา! เอาเรื่องในหลวงมาพูดจนมีงานการทำนี้ก็ควรจะพอแล้ว ไปพูดถึงคนอีสานทำไม เอาเรื่องเดียวพอแล้ว จำไว้ ใครๆก็รักในหลวงทั้งนั้น”

หลังเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ไปทั่ว “เบส” ได้โพสต์ภาพพร้อมข้อความผ่านอินสตาแกรม best_orapim (18 พฤศจิกายน) ว่า “ในวันที่ไม่มีอะไรปกป้องเราได้เลย นอกจากความตั้งใจดีที่ทำมา” แต่คอมเมนต์ต่อท้ายโพสต์ของ “เบส” กลับมีความหลากหลายที่แสดงความไม่พอใจ อาทิ “การดูถูกผู้อื่นคงไม่ใช่ความดีมั้งคะ ส่วนที่ทำดีก็เป็นคุณแก่ตัว แต่ที่พูดจาไม่คิด นี่ต้องรับผิดชอบค่ะ # คนไทย 1 ใน 3 เป็นคนอีสานค่ะ” และ “จำไว้นะคะ เวลาจะพูด อย่าพาดพิงถึงใครในทางเสื่อมเสีย ไม่งั้นคุณจะไม่มีที่ยืนในสังคม บารมีที่คุณสั่งสมมาพังลงเพราะคำดูถูกคนของคุณหมดแล้วค่ะ ออกมาก้มหน้ายอมรับผิดในสิ่งที่คุณทำดีกว่า คุณจะมาโพสต์ กระแหนะกระแหนสังคม คนอีสานทำไมคะ”

“เทอดศักดิ์” ปลุกผีล้มเจ้า (อีก)

กระแสข่าว “เบส” แทนที่จะสงบนิ่งอยู่ตรงนั้น กลับยิ่งบานปลายมากขึ้นเมื่อนายเทอดศักดิ์ เจียมกิจวัฒนา นายกสโมสรสื่อมวลชนภาคเหนือแห่งประเทศไทย ที่ประกาศตัวเป็นฝ่ายตรงข้ามกับคนเสื้อแดง ได้โพสต์ข้อความเฟซบุ๊คเรียกร้องให้ผู้บริหารเวิร์คพอยท์พิจารณาการกระทำของ “ตุ๊กกี้” ว่าเหมาะสมหรือไม่ และให้สังคมออนไลน์ร่วมลงชื่อสนับสนุน โดยระบุว่า

“ผมในฐานะคนไทยคนหนึ่งที่รักชาติ ขอเรียกร้องให้คุณปัญญา ผู้บริหารเวิร์คพอยท์ พิจารณาการกระทำของ “ตุ๊กกี้” ตลกที่นิยมชมชอบ…ว่าเหมาะสมหรือไม่ในการแสดงออกต่อน้องเบส ที่เจตนาดี ปกป้องในหลวงและพระมหากษัตริย์ แต่กลับถูกตำหนิจากการบิดเบือน”

การเรียกร้องให้เวิร์คพอยท์ปลด “ตุ๊กกี้” ทำให้ชาวเน็ตถามนายเทอดศักดิ์ว่า “ตุ๊กกี้” ทำอะไรผิด “ตุ๊กกี้” ก็เหมือนคนอีสานอีกหลายคนที่โกรธและไม่พอใจคำพูดของ “เบส” แต่นายเทอดศักดิ์กลับโพสต์ว่า กรณี “ตุ๊กกี้กับเบส” มีเบื้องหลัง และทั้ง 2 คนคือเหยื่อทางการเมืองควบคู่กับการโจมตีทหารที่มีเป้าหมายจะปลุกประชาชนออกมาปฏิวัติประชาชนเหมือนที่ทำในฮังการี บาวาเรีย รัสเซีย จีน

นายเทอดศักดิ์ยังบอกว่า กรณีของเบสมีตัวอย่างคล้ายในฟิลิปปินส์จนมีประชาชนออกมาบนท้องถนน สุดท้ายมีการส่งชายชุดดำไปฆ่าผู้ชุมนุม สหรัฐก็ลักษณะเดียวกัน เพื่อกระตุ้นให้เกิดการโกรธแค้นจนกลายเป็นจลาจล บานปลายเป็นสงครามกลางเมือง เป็นสูตรทางการเมืองที่คนไทยเคยเผชิญแบบนี้ตอนเมษาจลาจลปี 52 พฤษภาทะเลเพลิงปี 53 กลยุทธ์ที่สำคัญในเรื่องนี้ที่ผมต้องเรียกร้องไปยังคุณปัญญามีเป้าหลักคือ ให้คนไทยมาสนใจข้อเท็จจริง อย่าถูกหลอกต้มจากการตัดต่อสร้างวาทกรรมหลอกลวง “คนอีสานไม่รักในหลวง” ที่กลุ่มขบวนการล้มเจ้ากุข่าวขึ้นเพื่อหลอกคนมาตายแทน โดยเขาได้จ้างคนรอไว้แล้วหัวละ 400 เพื่อเข้าสมทบในการชุมนุม แล้วจะสังหารทำร้ายผู้ชุมนุมตามสูตรยุทธศาสตร์การเมือง เพื่อปลุกแรงเกลียดชังรัฐบาลทหารที่จะลามปามเป็นการล้มสถาบัน ประวัติศาสตร์ในยุคพฤษภาทมิฬเป็นตัวอย่าง ชุลมุนจนงง ศพหาย จับมือใครดมไม่ได้จนถึงปัจจุบัน

“จากผลของการเดินกลยุทธ์นี้เป็นข่าวเพียงข้ามคืน ทำให้มีผู้เข้ามาชมคลิปใน vihok news ในยูทูบสูงมากกว่า 13 ล้านวิว ความจริงเกี่ยวกับสถาบันที่ถูกป้ายสีที่ผมอธิบายทั้งหมดไว้พร้อมหลักฐานถูกชมอย่างต่อเนื่องจากทั้งนอกและในประเทศ

ตอนนี้ม็อบจุดไม่ติด คนไทยรู้เท่าทันอุบายสร้างกระแสการก่อตัวของม็อบโดยใช้เบสเป็นเครื่องมือมากขึ้น ม็อบจึงจุดไม่ติด ที่เขาทำแบบนี้เพราะกำลังจะถูกยึดทรัพย์จำนำข้าวทั้งโคตร

มีคนถามผมว่าคุ้มไหมที่เอาตัวเองมาโดนด่าแบบนี้ ผมถามกลับว่าคุ้มไหมที่จะไม่มีม็อบออกมาก่อจลาจลและต่อต้านพระราชพิธีในการครองราชย์ในเดือนมหามงคล และคุ้มไหมที่คนไทยจะได้มาชมคลิปความจริงของสถาบันที่ถูกป้ายสีเสมอมาตลอด 10 ปี”

ขนลุกวาทกรรม “เทอดศักดิ์”

นายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บก.ลายจุด ได้โพสต์ข้อความถึงนายเทอดศักดิ์ว่า “ผมขนลุกกว่าที่มีคนฟังเทอดศักดิ์แล้วไม่ตั้งข้อสงสัยในสิ่งที่เขาพูด

1.กรณีที่เทอดศักดิ์บอกว่ากรณีเบสเป็นการวางยาของฝ่ายตรงข้าม แต่อย่าลืมว่าพวกเสื้อแดงแทบไม่มีใครรู้จักเบสมาก่อน และกรณีนี้เกิดจากเจ้าตัวให้สัมภาษณ์สื่อเรื่อง VISA ดังนั้น คนเปิดงานจริงๆคือเบส

2.การอ้างว่ามีการเตรียมม็อบไว้ล้ม คสช. จากการปลุกกระแสต้านเบส อันนี้โคตรมักง่าย พูดแบบนี้ทุกครั้งที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ ครั้งนี้กล้าถึงกับบอกว่ามีการจ่ายเงินไปแล้ว รอเป่านกหวีดให้ออกมา ถ้าเทอดศักดิ์รู้ขนาดนี้ ระบุมาเลยดีกว่าว่าใคร

3.เทอดศักดิ์ทำคลิปปั่นกระแส ตั้งหัวข้อหวาดเสียวตลอด สถานะที่ยืนของเทอดศักดิ์ก็คล้ายๆกับเบสนั่นแหละ แต่อาการหนักกว่ามาก ปัญหาไม่ได้อยู่ตรงที่การเทิดทูนสถาบัน แต่อยู่ตรงที่วิธีการที่ใช้ในการตำหนิผู้อื่นแบบที่เบสและเทอดศักดิ์ชอบกระทำ”

นายสุธาชัย ยิ้มประเสริฐ อาจารย์คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊คกรณีนายเทอดศักดิ์ไล่ล่า “ตุ๊กกี้” ว่า “ปรากฏการณ์ทั้งเบสและเทอดศักดิ์สะท้อนว่าสังคมไทยเป็นสังคมอ่อนวิชาความรู้ ทำให้คนที่ไม่อ่านหนังสือและมีความรู้อันกลวงว่างเปล่ากลายเป็นคนดัง ยอดไลค์และความนิยมชมชอบในคนเหล่านี้สะท้อนถึงความไร้สาระรวมหมู่ ไม่ต้องพูดกันเลยเรื่องความคิดว่าจะไปในทิศทางไหน เอาแค่เรื่องข้อมูลพื้นฐานก็ไปไม่รอดแล้วทั้งสองคน”

ขณะที่นายสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล นักวิชาการชื่อดัง โพสต์กรณีนายเทอดศักดิ์ที่อ้างตัวเป็นผู้เชี่ยวชาญยุทธศาสตร์การเมืองว่า มั่วมากๆในแง่ข้อมูลหรือ facts พื้นๆ โดยยกคำของอันโตนิโอ กรัมซี่ นักทฤษฎีปฏิวัติมาร์กซิสต์ชาวอิตาลี มาอธิบายว่า “เป็นวิกฤตอันประกอบด้วยข้อเท็จจริงที่ว่า ของเก่าก็ตายไป ของใหม่ไม่อาจเกิดได้ ในภาวะแห่งการเปลี่ยนผ่านที่ปรากฏอาการเน่าเฟะสารพัด” และสรุปว่า “การที่คนที่ “อ่อน” มากๆขนาดนี้กลายเป็นคน “ดัง” ได้ มันสะท้อน morbid symptoms* หรืออาการป่วยของสังคมไทยในหลายปีที่ผ่านมา”

กองทัพโดดหนี “เบส-เทอดศักดิ์”

การโพสต์คลิปวิดีโอผ่านยูทูบของนายเทอดศักดิ์ที่ระบุกรณี “เบส-ตุ๊กกี้” ว่าเป็นการวางแผนของกลุ่มขบวนการล้มเจ้าและมีผู้ติดตามจำนวนมากนั้น พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยอมรับว่า เป็นการให้ข้อมูลที่ทำให้ประชาชนเกิดความสับสน และบางคลิปก็มีความล่อแหลม โดยจะต้องเข้าไปดูแลทั้งหมด แต่ขอให้เกิดความชัดเจนก่อน ซึ่งมีหน่วยงานที่ดูแลอยู่ ไม่นานคงจะมาให้รายละเอียด เมื่อได้รายละเอียดแล้วจะให้โฆษกแจ้งให้ทราบ ถ้าบิดเบือน ไม่ใช่เรื่องจริง ก็ต้องดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์

ส่วนกรณีนายคารม พลพรกลาง ทนายความ แจ้งความดำเนินคดีกับ “เบส” ว่าพูดในลักษณะหมิ่นประมาทคนอีสานนั้น แม้หลายฝ่ายมองว่าไม่ได้เข้าข่ายหมิ่น หรือเป็นคดีที่ขาดอายุความไปแล้ว แต่ก็มีรายงานข่าวว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) สั่งตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าเข้าข่ายยุยงให้มีการแตกแยกหรือไม่ โดยบอกว่าส่วนตัวที่ดูคลิปวิดีโอคร่าวๆก็มองว่าน่าจะเข้าข่ายความผิด แต่ต้องขึ้นอยู่กับพนักงานสอบสวนในการพิจารณา ซึ่งยังอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน เพราะการพูดในที่สาธารณะต้องใช้วิจารณญาณในการสื่อสารว่าสิ่งใดควรพูดหรือไม่ควรพูด ทั้งยังสั่งการให้ทุกพื้นที่เฝ้าติดตามดูแลป้องกันไม่ให้เกิดความรุนแรงกับกลุ่มที่เห็นต่าง โดยเฉพาะกลุ่มที่แสดงความคิดเห็นผ่านโซเชียลมีเดีย อยากให้คนไทยรักและสามัคคีกัน

ค่าวิทยากรชั่วโมงละ 30,000 บาท

กรณี “เบส” ยังถูกขยายถึงเรื่องค่าบรรยายที่สูงถึงชั่วโมงละ 30,000 บาท โดยเพจ “พลเมืองต่อต้าน Single Gateway : Thailand Internet Firewall” ได้เผยแพร่เอกสารกำหนดการบรรยายโครงการส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรมนักศึกษาหัวข้อ “อย่างไรที่เรียกว่ารัก” วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2558 ระบุว่า เป็นการบรรยายของ “เบส” และมีค่าตอบแทนการเป็นวิทยากร 30,000 บาท ทั้งที่ระเบียบหลักเกณฑ์อัตราค่าใช้จ่ายและแนวทางการพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปีของการฝึกอบรมสัมมนาการโฆษณาประชาสัมพันธ์ ประกอบการพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี 2558 ที่เบิกจ่ายในลักษณะค่าตอบแทนระบุค่าวิทยากรที่ไม่ได้เป็นเจ้าหน้าที่รัฐไว้ที่ “ไม่เกิน 1,600 บาท”

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้มีการแชร์คลิปวิดีโอจากเว็บไซต์ยูทูบการอบรมวิทยากรประชารัฐต้นแบบเมื่อวันศุกร์ที่ 8 เมษายน 2559 ณ หอประชุมกิตติขจร กองทัพบก เป็นการบรรยายพิเศษเรื่อง “เหตุผลความจำเป็นที่ คสช. เข้าควบคุมอำนาจการบริหารราชการแผ่นดิน Road Map ของรัฐบาลและ คสช.” โดยอรพิมพ์ รักษาผล วิทยากรสร้างแรงบันดาลใจ

การบรรยายดังกล่าวทำให้มีการตั้งข้อสังเกตว่า ที่ “เบส” ไปพูดตามโครงการต่างๆของหน่วยงานราชการนั้นได้รับค่าตอบแทนในราคาแท้จริงเท่าไร และผิดระเบียบการเบิกจ่ายค่าวิทยากรของกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลังหรือไม่ รวมถึงคำถามว่า “เบส” ได้รับการว่าจ้างเพื่อทำงานด้านจิตวิทยาประชาสัมพันธ์ให้กับกองทัพและ คสช. หรือไม่ แม้ พล.อ.ประวิตรเองก็ปฏิเสธว่าไม่รู้เรื่อง แต่ดูจากทีวีก็คิดว่าเป็นคนเก่ง ในขณะที่โฆษกกองทัพต่างออกมาปฏิเสธว่าไม่ได้มีการว่าจ้าง “เบส” แต่อย่างใด และไม่สามารถให้ความกระจ่างเรื่องนี้ได้ ยิ่งทำให้การค้นหาความจริงจากหน้าเพจต่างๆในสังคมออนไลน์มีความสำคัญมากขึ้น

สตง. ชี้ค่าตัว 30,000 ปรกติ

นายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เปิดเผยกับสำนักข่าวอิศราว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า มีหน่วยงานด้านประชาสัมพันธ์ของกองทัพจัดกิจกรรม 4 ภูมิภาค และเชิญ “เบส” ร่วมกิจกรรมจริง แต่ไม่มีการจ่ายค่าจ้างในอัตราชั่วโมงละ 30,000 บาทแต่อย่างใด ข้อเท็จจริงคือ ไม่ได้จ่ายค่าจ้างพูด แต่เชิญมาพูดในฐานะวิทยากรจิตอาสา ค่าใช้จ่ายมีเพียงค่าเดินทาง ค่าจัดสถานที่ ค่าอาหารว่าง เครื่องดื่มเท่านั้น

สรุปคือพูดฟรี ไม่มีค่าจ้าง สวนทางกับเอกสารที่มีการนำมาเผยแพร่ในโลกออนไลน์ที่ระบุค่าจ้างชัดเจน ซึ่งนายพิศิษฐ์ได้กล่าวถึงหน่วยงานที่พบว่ามีการว่าจ้าง “เบส” พูดในอัตราชั่วโมงละ 30,000 บาทนั้น เท่าที่พบเบื้องต้นเช่นมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ก็ถือว่าไม่สูงผิดปรกติ เพราะเป็นอัตราของนักพูดชื่อดังทั่วไป และมีระเบียบเปิดช่องให้จ่ายได้

ก่อนหน้านี้ พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษก คสช. ก็ยืนยันว่า น.ส.อรพิมพ์ไม่ได้เป็นเจ้าหน้าที่สังกัดกองทัพ ส่วนการเชิญมาพูดในงานต่างๆเพราะมีชื่อเสียงและความสามารถที่ตรงกับวัตถุประสงค์ของงานเท่านั้น ส่วน พ.อ.ปิยพงศ์ กลิ่นพันธุ์ ทีมโฆษก คสช. ก็กล่าวในลักษณะเดียวกัน และขอร้องอย่าสงสัยเรื่องค่าตอบแทน เพราะไม่ได้เป็นส่วนสำคัญ

ขณะที่ พ.อ.พีรวัชฌ์ แสงทอง โฆษก กอ.รมน. ยอมรับว่า เมื่อวันที่ 19 กันยายนที่ผ่านมา กอ.รมน. ได้เชิญ น.ส.อรพิมพ์มาบรรยายในฐานะผู้พูดที่สร้างให้เกิดจิตสำนึกรักชาติ ศาสนา และสถาบันกษัตริย์ แต่ใช้เวลาบรรยายไม่ถึงชั่วโมง เนื่องจากมีการเชิญวิทยากรหลายคน เพราะเป็นการประชุมสรุปผลงานของ กอ.รมน. ประจำปี 2559 ที่มีรอง ผอ.กอ.รมน.จังหวัดทั่วประเทศร่วมรับฟัง ส่วนค่าตอบแทน น.ส.อรพิมพ์นั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบเอกสาร จะชี้แจงต่อไป ซึ่งค่าตอบแทนก็ต้องปฏิบัติตามระเบียบการใช้จ่ายงบประมาณ

สังคมคนดี(แต่พูด)

กรณี “เบส” ไม่ใช่แค่เรื่องค่าตอบแทนที่มีหรือไม่มี เพราะไม่ว่าจะใช้ใครมาทำงานก็ย่อมต้องมีค่าใช้จ่าย แต่สิ่งที่ต้องพูดถึงก็คือ สงคราม IO (Information Operation) หรือปฏิบัติการข่าวสาร ซึ่งเป็นศัพท์ที่นำมาใช้หลังสิ้นสุดยุคสงครามเย็น ในแง่ปฏิบัติและรูปแบบก็คือการทำสงครามจิตวิทยา ซึ่งฝ่ายความมั่นคงทั่วโลกใช้เพื่อประชาสัมพันธ์ โฆษณาชวนเชื่อ และการลวงทางการเมืองและทหาร ปัจจุบันถือเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่จะได้ชัยชนะ ประเทศทั่วโลกต่างก็พัฒนากองทัพไซเบอร์ควบคู่กับปฏิบัติการด้านการข่าว ซึ่งมีการใช้จริงในปัจจุบัน และฝ่ายที่ใช้อย่างหนักหน่วงมาตลอดก็คือฝ่ายที่ “เบส” เข้าไปเป็นเครื่องมือให้

ส่วนกรณีที่นายเทอดศักดิ์ระบุว่า “เบส-ตุ๊กกี้” ตกเป็นเหยื่อการเมืองก็ไม่ใช่เรื่องผิดหรือแปลก เพราะทุกคนตกเป็นเหยื่อจากการแย่งอำนาจทั้งสิ้น แต่ที่สังคมข้องใจคือ การเผยแพร่ข้อมูลชนิดที่ “ตอแหล” ต้องเรียกพี่ อย่างเช่นการอ้างถึงขบวนการล้มเจ้า ซึ่งก่อนหน้านี้ฝ่ายความมั่นคงก็เคยอุปโลกน์ “ผังล้มเจ้า” เพื่อใช้ปราบปรามคนเสื้อแดงมาแล้ว และภายหลังเมื่อความจริงทยอยปรากฏจึงค่อยออกมายอมรับว่าเป็นแค่ “ผังกำมะลอ” ที่มโนขึ้นมาเองเท่านั้น

กรณี “เบส” จึงเป็นอีกกรณีที่น่าจะทำให้สังคมไทยตาสว่างถึงการแบ่งพวก แบ่งสี แบ่งฝ่าย ที่เต็มไปด้วยความอคติและเกลียดชังที่ยังฝังลึกในสังคมไทยที่ทำให้บ้านเมืองวิกฤตจนทุกวันนี้ ซึ่งเป็นเพียงการแย่งชิงอำนาจและผลประโยชน์ของคนไม่กี่คนไม่กี่กลุ่มเท่านั้น

อย่างที่อาจารย์ลิขิต ธีรเวคิน ราชบัณฑิตและนักวิชาการชื่อดังด้านรัฐศาสตร์ที่เพิ่งเสียชีวิต บอกว่า “อย่าปฏิเสธความจริงเลย วิกฤตที่เกิดขึ้นในการเมืองไทยเป็นวิกฤตที่สร้างขึ้นมา ไม่ได้เกิดขึ้นโดยธรรมชาติ ไม่มีวิกฤตก็สร้างวิกฤต เพื่อให้มีวิกฤต เพื่อที่จะให้มีเหตุเอาคนนอกมาเป็นนายกฯได้ทันที ที่เป็นอย่างนี้มันขัดมาตรา 3 มันขัดหลักประชาธิปไตย และมันเป็นจุดเริ่มต้นของการเกิดวิกฤตอย่างหนัก”

ประเด็น “เบส” นอกจากบรรยายในลักษณะปลุกจิตสำนึกรักชาติ ศาสนา และสถาบันกษัตริย์ แต่ “เบส” เองก็ยอมรับว่าได้บรรยายถึง “เหตุผลความจำเป็นที่ คสช. เข้าควบคุมอำนาจการบริหารราชการแผ่นดิน Road Map ของรัฐบาลและ คสช.” ซึ่ง “เบส” ก็เคยเปิดเผยว่า ทำงานเรื่องสร้างความสามัคคีให้กองทัพมา 3 เดือนแล้ว จึงไม่ใช่รัก คสช. ธรรมดา แต่โคตรรักเลย

กรณี “เบส” ไม่ใช่แค่พูดปลุกจิตสำนึกให้รักชาติ ศาสนา และสถาบันกษัตริย์ตามปรกติ เพราะไม่เช่นนั้นคงไม่ใช้คำพูดกล่าวหาว่า “คนอีสานไม่รักในหลวง” ซึ่งถือเป็นคำพูดที่ร้ายแรงและยิ่งสร้างความขัดแย้งมากขึ้นอีกด้วย การปลุกจิตสำนึกอย่างบ้าคลั่ง หรือเหยียดหยามชาติพันธุ์ จึงใกล้เคียงกับการปลุกระดมหรือโฆษณาชวนเชื่อได้หากใช้อย่างไม่บันยะบันยัง หรือโหนสถาบันกันอย่างไร้สติ นักพูดที่เก่งกาจมั่นใจตัวเองเกินล้านเปอร์เซ็นต์ที่ควรพูดให้คนฟังคิดเป็นบวกจึงอาจพลาดพลั้งทำให้เป็นลบอย่างที่เห็น รวมถึงการโพสต์แสดงความรู้ที่ผิดๆ หรือพูดเอามันส์อย่างเดียวของกองเชียร์ หรือผู้ตั้งตนเป็นกูรู (ไม่เว้นว่าจะสีไหนฝ่ายไหน) โดยไม่หาข้อมูลรอบด้าน รวมถึงการ “แถ-ลง” แทนที่จะ “แถลง” ด้วยข้อเท็จจริงจากหน่วยงานรัฐ ก็ยิ่งซ้ำเติมทำให้สถานการณ์บานปลายมากขึ้นไปอีก

“คนดี” จึงไม่ควรแค่ “ดีแต่พูด” หรือใช้วาทกรรมไปวันๆเพื่อยื้ออำนาจที่ได้มาจากการรัฐประหารฉีกกฎหมายเท่านั้น อย่าลืมเป้าหมายที่ท่านเสียสละตนเอง ยอมปล้นอำนาจรัฐบาลจากการเลือกตั้งจนได้รัฐบาลเผด็จการเข้ามาบริหารประเทศก็คือ “สร้างความปรองดอง” สลายสีเสื้อ แต่เวลาผ่านไป 2 ปีครึ่ง ท่านคิดว่า “ไปถึงไหนแล้ว?”

หรือจะเอาแค่ทำให้คนฟังถูกปลุกอารมณ์ ฟังแล้ว “น้ำตา” ไหล ในขณะที่คนพูดปลุกอารมณ์ก็พูดไป “น้ำลาย” ก็ไหลไป..

ถ้าสังคมไทยยังมีแต่ “คนดี (แต่พูด)” ..หลังจบ “สงครามน้ำลาย” เราคงหนีไม่พ้น “สงครามกลางเมือง”

คนไทยผู้รักชาติ (ไม่ว่าสีไหน) คุณอยากเห็นบ้านเมืองเป็นเช่นนั้นจริงๆหรือ?


You must be logged in to post a comment Login

Казино левлучший портал для азартных игроков
Игровые автоматызахватывающая игра начинается сейчас
azino777испытай удачу прямо здесь
1win казинооткрой для себя мир азартных игр
Вулкан платинумавтоматы с высокой отдачей ждут тебя
Казино левгде выигрыши становятся реальностью
Игровые автоматыразвлекайся и выигрывай каждый день
азино три топоранаслаждайся адреналином от побед
Казино 1winкаждая игра — шаг к успеху
Вулкан россиятвой шанс на большой выигрыш
Казино левоснова азартного мастерства
Игровые автоматытоповые игры для каждого
Azino777только для настоящих ценителей риска
1win казинокайф от игры начинается здесь
Вулкан 24где каждый день приносит победы
Казино левновые высоты азартных эмоций
Игровые автоматыгде выигрыши реальны
азино три топорасамые горячие игры ждут
Казино 1winвыигрывайте с комфортом
Казино вулкан россияисследуй мир азартных автоматов
Казино левтвой источник азарта и выигрышей
Игровые автоматыискусство выигрыша ждет тебя
azino777почувствуй азарт и драйв
1win казиноидеальный выбор для азартных игр
Вулкан платинумиграй и побеждай с удовольствием
Казино левнаслаждайся азартом без границ
Игровые автоматылучшие призы ждут тебя
азино три топоратвоя игра начинается здесь
Казино 1winновые уровни азарта и удачи
Вулкан россияначни путь к победе прямо сейчас
Coco chat - Rejoignez nouvelles discussions enrichissantes sur Bed and Bamboo
Chatrandom - Discover exciting chats with new people on Bed and Bamboo
Chatrandom - Entdecke spannenUnterhaltungauf Bed and Bamboo
Chatrandom - Ontdek boeienchats op Bed and Bamboo
Coco chat - Partagez des moments uniques sur Hoodrich France
Chatrandom - Connect and chat on Hoodrich France
Chatrandom - Chatte mit der Hoodrich France Community
Chatrandom - Geniet van chats in Hoodrich France gemeenschap
Coco chat - Connectez-vous pour des échanges passionnants sur I’m Famous 51
Chatrandom - Meet and chat on I’m Famous 51
Chatrandom - Führe spannenGespräche auf I’m Famous 51
Chatrandom - Beleef gesprekkop I’m Famous 51
Coco chat - Discutez avec la communauté Quincaillerie Outillage Thollot
Chatrandom - Explore vibrant conversations at Quincaillerie Outillage Thollot
Chatrandom - Tritt spannendChats bei Quincaillerie Outillage Thollot bei
Chatrandom - Ga mee in boeiengesprekkbij Quincaillerie Outillage Thollot
Coco chat - Rejoignez TurboSystem pour discuter
Chatrandom - Engage in exciting chats at TurboSystem
Chatrandom - Genieße spannenChats bei TurboSystem
Chatrandom - Beleef chatplezier bij TurboSystem