วันศุกร์ที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2567

อยู่ที่เป้าหมาย

On November 23, 2016

คอลัมน์ : โลกวันนี้มีประเด็น

กรณี เบส-อรพิมพ์ รักษาผล นักพูดชื่อดัง ที่วันนี้ไม่มีใครไม่รู้จัก ที่เป็นกระแสใหญ่ในโลกออนไลน์มาพักใหญ่ และมีการเรียกร้องให้ผู้เกี่ยวข้องที่ถูกพาดพิงออกมาชี้แจงข้อเท็จจริง ทั้งเรื่องค่าจ้างพูดที่สูงกว่าระเบียบราชการกำหนด เรื่องรับงานคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มาเดินสายพูดเพื่อเป้าหมายบางอย่าง

คำชี้แจงจากหนึ่งในทีมโฆษก คสช.เมื่อสัปดาห์ที่แล้วคือ คสช.ไม่ได้เจาะจงจ้างเฉพาะเบสคนเดียว แต่เชิญนักพูดทุกคนที่เห็นว่ามีความสามารถไปพูดให้ทหารในสังกัดฟัง พร้อมขออย่าโฟกัสที่เรื่องค่าจ้าง แต่ให้ดูที่เจตนาในการพูดที่ต้องการให้เกิดความรักสามัคคีและเทิดทูนสถาบัน นอกจากนี้ยังบอกในทำนองว่ามีคนเอาเรื่องนี้มาขยายผลเพื่อผลทางการเมือง

ล่าสุด นายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เปิดเผยกับ สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org โดยระบุว่าหลังตรวจสอบเบื้องต้นพบว่ามีหน่วยงานด้านประชาสัมพันธ์ของกองทัพจัดกิจกรรม 4 ภูมิภาค และเชิญเบสมาร่วมกิจกรรมเรื่องการพูดจริง แต่ไม่ได้มีการจ่ายค่าจ้างในอัตราชั่วโมงละ 30,000 บาทตามที่พูดกันแต่อย่างใด ข้อเท็จจริงคือไม่ได้มีการจ่ายค่าจ้างพูด แต่เชิญมาพูดในฐานะวิทยากรจิตอาสา ค่าใช้จ่ายมีเพียงค่าเดินทาง ค่าจัดสถานที่ ค่าอาหารว่างเครื่องดื่มเท่านั้น

สรุปคืองานนี้พูดฟรี ไม่มีค่าจ้าง ซึ่งสวนทางกับเอกสารที่มีการนำมาเผยแพร่กันในโลกออนไลน์ที่ระบุค่าจ้างพูดไว้สูงมากจนกลายเป็นประเด็นร้อน

นายพิศิษฐ์ ยังเปิดเผยกับสำนักข่าวอิศราว่า หน่วยงานที่พบว่าจ้างเบสพูดในอัตราชั่วโมงละ 30,000 บาท เท่าที่พบเบื้องต้น เช่น มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และอัตรานี้ไม่ถือว่าสูงผิดปรกติ เป็นเรตของนักพูดชื่อดังทั่วไป และมีระเบียบเปิดช่องให้จ่ายค่าจ้างอัตรานี้ได้

สรุปผลการตรวจสอบเบื้องค้นของ สตง.คือหน่วยงานในกองทัพไม่ได้ว่าจ้างเบสพูดในกิจกรรมของกองทัพ แต่เป็นการพูดฟรีไม่คิดเงินในฐานะวิทยากรจิตอาสา

ส่วนเนื้อหาในการพูดที่เป็นประเด็นถกเถียงกันว่าเข้าข่ายหมิ่นคนอีสานหรือไม่ สร้างความแตกแยกในสังคมหรือไม่นั้น เรื่องนี้มีความเห็นมาจาก พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ระบุว่าเท่าที่ได้ดูคลิปวีดิโอที่พูดเบื้องต้นแล้วเห็นว่าน่าจะเข้าข่ายความผิด แต่ต้องตรวจรายละเอียดทั้งหมดอีกครั้ง

นอกจากนี้ ยังได้ให้จับตากลุ่มมวลชนต่างๆที่จะนำเรื่องมาขยายผลปลุกปั่นให้เกิดความแตกแยกในบ้านเมืองรุนแรงมากขึ้น

จากความเห็นของ ผบ.ตร.ดูเหมือนจะสวนทางกับคำชี้แจงของหนึ่งในทีมโฆษก คสช.ก่อนหน้านี้ที่ให้ดูที่เจตนาการพูดซึ่งก็คือมุ่งสร้างความเข้าใจอันดีเกี่ยวกับสถาบัน สร้างความสามัคคี ซึ่งผบ.ตร.กลับเห็นว่าเข้าข่ายสร้างความแตกแยก

อย่างไรก็ตาม ผบ.ตร.ย้ำว่านี่เป็นความเห็นส่วนตัวและเป็นแค่การตรวจสอบเบื้องต้นจึงต้องรอดูผลตรวจสอบอย่างละเอียดอย่างเป็นทางการว่าจะเป็นไปในทิศทางเดียวกับความเห็นของ ผบ.ตร.หรือไม่ อย่างไร ระหว่างความเห็นของผบ.ตร.กับความเห็นของคนในกองทัพจะตรงกันหรือไม่

บทสรุปที่ได้ในตอนนี้คือกองทัพจัดกิจกรรมให้เบสไปพูดจริง แต่ไม่ได้จ่ายค่าจ้าง

ประเด็นจึงเหลือแต่ว่าการพูดบนเวทีของเบสตรงกับวัตถุประสงค์ที่กองทัพชี้แจงหรือไม่ เป็นการสร้างความเข้าใจอันดีหรือสร้างความแตกแยกในสังคม

ยังไม่รวมคำถามอีกหลายคำถามที่รอคำตอบ เช่น การพูดเรื่องในหลวงรัชกาลที่ 9 ด้วยวัยวุฒิ คุณวุฒิ ประวัติการทำงานของเบส น่าจะมีนักพูด นักวิชาการคนอื่นที่ให้ความรู้ความเข้าใจกับบุคลากรในกองทัพและประชานชนได้ดีกว่าเบสหรือไม่

ถ้ามีทำไมจึงต้องเฉพาะเจาะจงเลือกเบส

ที่สำคัญคนว่าจ้างต้องพิจารณาว่าหากการพูดของเบสตรงเป้าเข้าวัตถุประสงค์ทำไมจึงเกิดกระแสขัดแย้งเกิดขึ้นจากกรณีนี้


You must be logged in to post a comment Login