การเมืองยังไม่สงบ? / โดย Pegasus

• Tweet
• 

คอลัมน์ : เพื่อชาติประชาชน
ผู้เขียน : Pegasus

ตอนนี้แม้เป็นช่วงเวลาแห่งความโศกเศร้า ทำให้การเมืองเงียบสงบลงไปบ้าง แต่วงการข่าวลือและข่าววงในวงนอกต่างกระซิบว่ายังไม่จบ สุดท้ายข่าวลืออาจไม่มีอะไรเลยก็ได้

เพื่อความไม่ประมาท หากดูเรื่องอำนาจก็จะพบว่ายังอยู่ในขั้นการดูเชิงของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ยกเว้นฝ่ายสนับสนุนระบอบประชาธิปไตยที่ไม่ได้อยู่ในสมการแห่งอำนาจนี้ ได้แต่หลบอยู่ห่างๆเพื่อความปลอดภัย และไม่มีความจำเป็นต้องเข้าไปทำอะไร ดูเหมือนว่าภารกิจของฝ่ายประชาธิปไตยได้บรรลุขั้นต้นทางการเมืองแล้ว คือการปลุกให้ประชาชนส่วนใหญ่สนใจการเมือง รู้จักนำข้อมูลมาเปรียบเทียบและย้อนรอยฝ่ายเผด็จการได้อย่างถึงพริกถึงขิง รวมถึงการชี้ให้เห็นว่าเผด็จการในทางการเมืองนั้น แม้จะมีอำนาจ แต่การทำการต่างๆคล้ายกับมือสมัครเล่นมากกว่า ทำให้การเลือกฝ่ายมีการแยกแยะอย่างชัดเจนว่าฝ่ายใดมีความสามารถ ฝ่ายใดมีแต่ฝีปาก เรื่องเช่นนี้ทำให้อุดมการณ์ทางการเมืองฝ่ายประชาธิปไตยเข้มแข็งขึ้นและยากจะเปลี่ยนไปเป็นอย่างอื่น

เมื่อเหลือแต่ผู้เกี่ยวข้องเท่านั้นที่ประลองกำลังกัน จำนวนและขอบเขตก็จะไม่กว้างขวาง ไม่มีการระดมมวลชนเข้ามาเหมือนเช่นที่ผ่านมา ทั้งไม่อาจปลุกระดมได้และคงไม่ใช่เวลาที่เหมาะสม เหลือแต่การนับตัวตนกันจริงๆเท่านั้นว่าใครมีกำลังมากกว่ากันและมาจากที่ไหน

เมื่อเวลาผ่านไปเรื่อยๆ ความชอบธรรมในการแย่งชิงอำนาจก็จะลดลงเรื่อยๆ แม้จะผ่านช่วงเวลาของความชอบธรรมไปไกลแล้ว ความพยายามสร้างสถานการณ์จะผ่านไปเรื่อยๆจนดูเหมือนไม่สามารถปลุกกระแสอะไรขึ้นมาได้อีกนอกจากกระแสที่เตรียมกันก่อนนานแล้ว เมื่อใช้กระแสหมด ไม่เกิดอะไรขึ้นตามที่คาดหวัง การจะสร้างขึ้นใหม่หรือหามุกใหม่ๆก็เป็นสิ่งที่ยากขึ้น

อย่างไรก็ตาม ช่วงสัปดาห์สุดท้ายของเดือนพฤศจิกายนน่าจะมีความพยายามเป็นครั้งสุดท้ายหรืออาจเป็นความพยายามอีกครั้งที่มีน้ำหนักมากขึ้น โดยหวังว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงอะไรบางอย่างได้ เป็นสิ่งที่ต้องติดตามดู หากมีอะไรแปลกๆก็จงเชื่อว่าเป็นเรื่องการวางแผนเพื่ออำนาจของบางกลุ่มที่ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับประชาชนส่วนใหญ่นัก คนไทยควรใช้โอกาสนี้ดูความพยายามของลมหายใจเฮือกสุดท้ายว่าจะดิ้นแรงขนาดไหน จะมีใครเข้าร่วมครั้งนี้มากน้อยแค่ไหนเพื่อเป็นขวัญตา

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของความยากจนของประชาชนจะยังไม่ได้รับการแก้ไขจนกว่าเรื่องทางการเมืองจะนิ่งสงบและกระบวนการต่างๆเข้าสู่ระบบปรกติ ในตอนนั้นกว่าจะหาคนเก่ง คนที่ไม่เลือกข้างเลือกฝ่าย เข้ามาทดแทนกลุ่มคนตกยุคที่ครอบครองอำนาจอยู่ ก็อาจใช้เวลาอีกนาน เพราะคนหัวเก่าเหล่านี้แม้เสร็จภารกิจแล้ว แต่ผลประโยชน์ต่างๆยังหอมหวานอยู่ ความพยายามที่จะอยู่ในอำนาจหรือเกาะเกี่ยวกับอำนาจทางการเมืองก็จะไม่หมดไปง่ายๆ ประชาชนจึงต้องไม่ท้อถอยและหมดกำลังใจก่อน

ในกรณีพลิกผันหากฝ่ายอำนาจเก่ากลับมามีอำนาจได้อีกครั้ง สิ่งที่จะเกิดขึ้นเทียบกับที่ผ่านมาคงไม่แตกต่างอะไรมากนัก การกวาดล้างอาจมากขึ้น การใช้อำนาจเถื่อนอาจมากขึ้น ประชาชนจะยากไร้ต่อไปอีกระยะหนึ่ง

สิ่งนี้จะเป็นสัญญาณบ่งชัดอีกครั้งว่า ประชาชนทั่วไปถ้าอยากมีความสุข ทำมาหากินคล่องตัว ชีวิตลูกหลานที่ดี ก็ต้องรู้ว่าการยอมสยบต่ออำนาจเถื่อนแบบที่ผ่านๆมาไม่ได้ให้ผลดีอะไรกับประชาชนนอกจากความทุกข์ยากเท่านั้น การเชื่อว่า “การแก้ไข ไม่แก้แค้น” เป็นแนวทางที่ถูกต้องจะหมดไป ความเชื่อว่า “ความดีชนะความชั่ว” นั้นมีแต่ในนิยาย ประชาชนจะมองเห็นความจริงมากขึ้น ดังคำพูดที่ว่า “ล้มแล้วลุกขึ้น ล้มแล้วลุกขึ้น”

สุดท้ายก็รู้ตัวว่าการยอมสยบนั้นทำให้ล้มและพ่ายแพ้ การต่อสู้คือการเสมอตัวหรือได้ชัยชนะ การออกมาสู้คงไม่ใช่การชุมนุมอย่างไร้ความหมายอีกต่อไป

การเมืองไทยไม่สงบอย่างที่เห็น จุดจบของการไร้เสถียรภาพและการได้มาซึ่งสันติและความรุ่งเรืองที่แท้จริงนั้น ไม่ว่าจะมองไปในหน้าไหนก็ใกล้มาถึงแล้ว จะเร็วหรือช้าเท่านั้น

You must be logged in to post a comment Login