วันเสาร์ที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2567

เหตุเกิดขึ้นล้วนเป็นแผน! / โดย Pegasus

On November 7, 2016

คอลัมน์ : เพื่อชาติประชาชน
ผู้เขียน : Pegasus

สืบเนื่องจากบทความ “นั่งบนภูดูหมูกัดกัน” บัดนี้น่าจะได้เวลาเปิดเผยตัวตนที่ชัดเจนของขบวนการต่างๆที่เกี่ยวข้องแล้ว หลังจากเตรียมการเล่นบท “ดุลแห่งอำนาจ” มานานพอสมควร ซึ่งล้วนเป็นแผนทั้งนั้น

ก่อนอื่นต้องมองไปรอบๆตัวและสำรวจสถานการณ์ต่างๆที่ผิดปรกติติดต่อกันมานานนับเดือน โดยอาจแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆคือ กลุ่มที่คอยตั้งรับ กับกลุ่มที่ต้องการสร้างสถานการณ์เพื่อเป็นฝ่ายบุก

ข้อแตกต่างระหว่าง 2 กลุ่มคือ ฝ่ายตั้งรับสามารถอยู่เฉยๆและเตรียมพร้อมตอบโต้ได้หากเกิดสถานการณ์ใดๆ โดยแก้ปัญหาเหมือนหมอรักษาคนไข้ ส่วนฝ่ายบุกจะต้องสร้างสถานการณ์ต่างๆเพื่อให้ฝ่ายตนได้อำนาจ ซึ่งจะเลียนแบบสถานการณ์ก่อนการรัฐประหารทั้ง 2 ครั้งที่ผ่านมา

มุกเดิมๆที่ควรทบทวนทำความเข้าใจคือ การสร้างสถานการณ์ความวุ่นวายปั่นป่วนเพื่อให้ดูว่าการนำกำลังไม่ว่าจะเป็นฝ่ายใดเข้ามาก็เพื่อยุติปัญหา อ้างเป็นความจำเป็นที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เพื่อให้มีความชอบธรรม อย่างน้อยก็ในสายตากองเชียร์

แนวทางก็ไม่ต่างจากเดิมคือ คนกลุ่มหนึ่งแฝงโดยมีระเบิดและอาวุธ กระทำผิดกฎหมายให้ดูวุ่นวาย ในอดีตอาจทำได้ง่ายเหมือนที่อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ท่านหนึ่งบอกว่า “ม็อบมีเส้น” แต่ปัจจุบันน่าจะไม่มีข้ออ้างเช่นนั้นได้อีก อาจเป็นการลงมืออย่างจริงจังและเสียงอาจจะดังมากก็ได้

เครือข่ายกลุ่มฝ่ายบุกนี้จะเป็นคนกลุ่มเดิมๆที่มีความเชื่อเดิมๆ ทั้งจากฝ่ายราชการและกลุ่มการเมือง แต่จำนวนคงจะลดลงมาก เพราะสถานการณ์ขณะนี้ไม่เอื้ออำนวยต่อการรวมกลุ่มคนจำนวนมาก จึงมีความเป็นไปได้สูงที่อาจจะใช้คนไม่มากนักแต่ได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดี แต่การสร้างสถานการณ์จะไม่มีทางสำเร็จหากประชาชนส่วนใหญ่เข้าใจและมองเห็นเจตนาในการเคลื่อนไหวครั้งนี้ว่าเป็นกลุ่มที่ต้องการแต่ผลประโยชน์เท่านั้น ไม่คำนึงถึงความรุนแรงและความเสียหายต่างๆที่จะตามมา

ส่วนเครือข่ายกลุ่มฝ่ายตั้งรับสามารถแบ่งออกเป็น 2 ส่วนคือ ภาครัฐส่วนหนึ่ง ภาคประชาชนอีกส่วนหนึ่ง ยังไม่รวมสิ่งที่เหนือกว่านั้น ภาครัฐที่ไหวตัวทันและต้องการความสงบเรียบร้อยของสังคมก็สามารถปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มงวด สอดส่องตรวจตรา เช่นเดียวกับศูนย์การค้าที่ตรวจสอบสิ่งของต่างๆเพื่อป้องกันการวางระเบิดและก่อวินาศกรรม หากมีการป้องกันรัดกุม การก่อเหตุก็ทำได้ยาก การสร้างสถานการณ์ก็อาจไม่เกิดขึ้นก็ได้

ในส่วนของประชาชน ซึ่งส่วนใหญ่กำลังยากลำบากจากการประกอบอาชีพ เนื่องจากการวางแผนและสร้างสถานการณ์ติดต่อกันยาวนานเป็นสิบปีทำให้ประเทศถอยหลัง เงินลงทุนในประเทศก็ย้ายหนีไปประเทศเพื่อนบ้านกว่า 26 ล้านล้านบาท เมื่อเงินในกระเป๋าหายไป คนก็หยุดการใช้จ่าย ภาคธุรกิจและบริการก็ทยอยปิดกิจการและรอว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงที่ดีเกิดขึ้นหรือไม่หากกลุ่มฝ่ายที่ต้องการสร้างสถานการณ์ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้

สถานการณ์ที่สร้างกันมาแล้ว เช่น การทำร้ายคนที่แตกต่าง ขบวนการล่าแม่มด ซึ่งเป็นความคิดแบบสุดโต่งแปลกๆ การขนคนเข้ามาในเมืองหลวง เรื่องทางการเมืองต่างๆที่ไม่กล่าวถึงแต่ก็สัมผัสได้ถึงความไม่ปรกติของสถานการณ์ รวมถึงการโจมตีรัฐบาลจากคนคุ้นเคยกันแต่สังกัดกลุ่มฝ่ายรุก ทั้งการโจมตีเป็นรายบุคคลทางการเมืองฝ่ายรัฐบาลและคณะ การโยกย้ายข้าราชการระดับปฏิบัติการก่อนเวลาปรกติ เพื่อจัดเตรียมขุมกำลังให้พร้อมก่อนถึงเวลา

ทั้งหมดที่กล่าวมาเป็นแค่การเริ่มต้น สิ่งที่ตามมาไม่น่าจะธรรมดา ประชาชนทั่วไปควรหลีกเลี่ยงการเข้าไปเกี่ยวข้อง เพียงศึกษาและเข้าใจแนวทางการเคลื่อนไหวเหล่านี้ไว้เพื่อปฏิบัติตัวให้ถูกเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นจริงๆ


You must be logged in to post a comment Login