วันศุกร์ที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2567

ภัยกลุ่มไอเอสใกล้บ้าน

On November 4, 2016

ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรือกลุ่มประเทศอาเซียน มีความเสี่ยงภัยจากกลุ่มก่อการร้ายรัฐอิสลาม (ไอเอส) เพิ่มขึ้น โดยผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า กลุ่มไอเอสอาจเข้ามาใช้เป็นฐานที่มั่นและระดมกำลังจากคนในท้องถิ่น

สถาบันวิเคราะห์นโยบายด้านความขัดแย้ง (The Institute for Policy Analysis of Conflict: IPAC) แห่งกรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย มองว่า กลุ่มก่อการร้ายไอเอสอาจย้ายเข้ามาปักหลักอยู่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หลังเสียพื้นที่และถูกไล่ล่าอย่างหนักในอิรักและซีเรีย

ไอแพ็ก (IPAC) ระบุว่า กลุ่มไอเอสเล็งทำเลในอาเซียนไว้นานแล้ว โดยกลุ่มอาบูเซย์ยาฟ ที่เคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาลอยู่ในเกาะมินดาเนา ภาคใต้ฟิลิปปินส์ เป็นพันธมิตรสำคัญของไอเอส

หลังสถานการณ์ในอิรักและซีเรียเลวร้ายลง ทำให้มีความเป็นไปได้ที่ไอเอสจะปรับกลยุทธ์ย้ายมาร่วมมือกับอาบูเซย์ยาฟ รวมทั้งกลุ่มติดอาวุธหัวรุนแรงอื่นๆ และวางแผนก่อการร้ายในอาเซียน

นอกจากฟิลิปปินส์แล้ว ยังมีกลุ่มติดอาวุธหัวรุนแรงในอินโดนีเซียและมาเลเซียด้วย ที่ร่วมมือกับไอเอส โดยใช้วิธีทำการก่อการร้ายแบบเดียวกับไอเอส และส่งกำลังพลไปร่วมต่อสู้กับไอเอสในอิรักและซีเรีย

สหประชาชาติคาดว่า มีชาวอินโดนีเซียไปร่วมต่อสู้กับไอเอสในอิรักและซีเรีย 516 คน ฟิลิปปินส์ 100 คน มาเลเซีย 100 คน และสิงคโปร์ 2 คน และคาดว่าสมาชิกเหล่าจะกลับมาบ้านเกิด หลังถูกโจมตีไล่ล่าอย่างหนักในอิรักและซีเรีย

ด้วยสถานการณ์ที่ไม่น่าไว้วางใจนี้ สิงคโปร์ได้จัดซ้อมป้องกันและต่อสู้กับกลุ่มก่อการร้ายครั้งใหญ่ที่สุด โดยระดมกำลังมาร่วมซ้อม ทั้งจากสำนักงานตำรวจ และกองทัพ

ขณะสภาผู้แทนราษฎรของอินโดนีเซีย ได้ลงมติแก้กฎหมายให้กองทัพสามารถต่อสู้ปราบปรามกลุ่มก่อการร้ายและกลุ่มหัวรุนแรง ได้โดยตรงมากขึ้น

ส่วนมาเลเซีย ได้ก่อตั้งหน่วยปฏิบัติการพิเศษ เป็นกองกำลังผสมระหว่างตำรวจ ทหาร และเจ้าหน้าที่ดูแลชายฝั่ง ทำหน้าที่ป้องกันและปราบปรามกลุ่มก่อการร้าย เสริมกับตำรวจ

นอกจากนั้น มาเลเซียยังก่อตั้งศูนย์เฝ้าระวังทางโซเชียลมีเดีย โดยร่วมมือกับตำรวจอาเซียน ตำรวจสากล กระทรวงต่างประเทศสหรัฐ และเอฟบีไอของสหรัฐ ป้องกันกลุ่มก่อการร้ายใช้เป็นช่องทางหาสมาชิก และสื่อสารวางแผนก่อการร้าย

เท่าที่ผ่านมา มาเลเซียจับกุมผู้มีพฤติกรรมเป็นสมาชิกกลุ่มก่อการร้ายแล้ว 255 คน และสามารถอบรมให้เลิกแนวคิดและพฤติกรรมดังกล่าวได้ 234 คน

ความเคลื่อนไหวทั้งหมดที่เอ่ยถึง บอกเป็นนัยถึงประเทศไทยว่า “ไม่ควรประมาทไอเอสแม้แต่น้อย”


You must be logged in to post a comment Login