วันพฤหัสที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2567

ปลาคาร์พญี่ปุ่น / โดย วรวุฒิ สารพันธ์

On October 17, 2016

คอลัมน์ : เรื่องเล่าต่างแดน
ผู้เขียน : วรวุฒิ สารพันธ์

เนื่องจากไม่ค่อยเป็นข่าว ทำให้รู้สึกว่าวงการปลาคาร์พซึ่งเป็นปลาสวยงามยอดนิยมของโลกเงียบเหงาซบเซา

ผมมองแบบ “ต่อยอด” สถานการณ์ที่เชื่อว่าซบเซาดังกล่าวว่า คงเป็นเพราะเศรษฐกิจโลกไม่ค่อยดี อาจมีการซื้อขายกันบ้าง แต่ไม่คึกคักเท่าที่ควร

ผมมองผิดครับหากจับตลาดญี่ปุ่นเป็นเกณฑ์ เพราะญี่ปุ่นยังขายปลาแฟนซีพันธุ์นี้ ซึ่งเรียกในภาษาญี่ปุ่นว่า “โค่ย” หรือ “นิชิกิกอย” ได้เป็นกอบเป็นกำ

กระทรวงการคลังญี่ปุ่นระบุว่า ญี่ปุ่นส่งออกปลาคาร์พปีที่แล้วมีมูลค่าสูงถึง 3,670 ล้านเยน (ประมาณ 1,285 ล้านบาท) เพิ่มจากเมื่อ 5 ปีที่แล้ว คือปี 2010 เกือบ 30%

ฟาร์ม Narita Koi Farms Japan ผู้เลี้ยงรายใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น เป็นเจ้าที่ทำยอดขายได้มากที่สุด เฉลี่ยปีละ 300,000 ตัว

ฟาร์มแห่งนี้อยู่ที่เมืองโคมะกิ จังหวัดไอจิ มีเรียวกิ นาริตะ เป็นเจ้าของ

ลูกค้าที่ไปอุดหนุนฟาร์มนาริตะ 4 อันดับแรกไล่จากอันดับ 1-4 ประกอบด้วย ชาวฮ่องกง เนเธอร์แลนด์ เยอรมนี และอินโดนีเซีย นอกจากนั้นก็มีจากหลายประเทศ รวมทั้งเวียดนามและมาเลเซีย

กรณีของเนเธอร์แลนด์และเยอรมนีผมว่าแปลกครับ ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นประเทศที่ซื้อปลาคาร์พจากญี่ปุ่นมากเป็นอันดับต้นๆ

ก่อนหน้านี้จีนเป็นลูกค้ารายใหญ่อันดับ 1 ของญี่ปุ่น แต่มีการประกาศห้ามนำเข้าตั้งแต่ปี 2003 ถึงปัจจุบัน เนื่องจากหวั่นเป็นพาหะนำโรคเข้าไประบาดในจีน

เจ้าของฟาร์มนาริตะเล่าว่า มีลูกค้าในเอเชียจำนวนมากที่ซื้อลูกปลาแล้วมอบให้ทางฟาร์มดูแลต่อ และขอให้ทางฟาร์มส่งเข้าประกวดในญี่ปุ่น เผื่อคว้ารางวัลได้ ราคาจะได้เพิ่มขึ้น

สำหรับราคาลูกปลา ฟาร์มนาริตะเคาะเริ่มต้นตัวละ 500 เยน (175 บาท) ส่วนตัวโตอายุ 2 ปี ขนาดตัวยาว 40-50 เซนติเมตร ราคาหลายพันเยน

เอกลักษณ์อย่างหนึ่งของปลาสวยงามพันธุ์นี้คือ ลายไม่ซ้ำกันแม้แต่ตัวเดียว เรียกว่าต่างตัวต่างมีลายเฉพาะ

เจ้าของฟาร์มนาริตะบอกว่า ลักษณะลายเป็นส่วนกำหนดราคา ตัวที่ลายสวย “พิมพ์นิยม” ซื้อขายกันคิดเป็นเงินไทยสูงถึงล้านบาทก็มี


You must be logged in to post a comment Login