วันศุกร์ที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2567

เมื่อลมเปลี่ยนทิศ? / โดย Pegasus

On October 10, 2016

คอลัมน์ : เพื่อชาติประชาชน
ผู้เขียน : Pegasus

ช่วงนี้ปลายฝนต้นหนาว เป็นที่ทราบกันว่าฝนที่ตกขณะนี้มาจากลมตะวันตกเฉียงใต้พัดไอน้ำจากทะเลด้านล่างแถวอันดามันและอ่าวไทยขึ้นมาบนฝั่ง โดยมีร่องความกดอากาศสูงที่อาจพาดจากอันดามันเชื่อมกับอ่าวตังเกี๋ย หรือเชื่อมกับมหาสมุทรแปซิฟิกแล้วแต่กรณี ส่วนลมหนาวคือลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ พัดจากด้านบนลงมาด้านล่าง เป็นมวลอากาศหนาวที่มีความกดอากาศสูง ถ้ากดจนร่องความกดอากาศต่ำลงมาถึงอ่าวไทยก็จะหอบน้ำทะเลจนเกิดเป็นฝนกระหน่ำภาคใต้ ซึ่งเป็นช่วงฤดูหนาวของภาคอื่นๆ

การเปลี่ยนจากฤดูฝนไปฤดูหนาวเป็นเรื่องของลมเปลี่ยนทิศที่พัดจากตะวันตกเฉียงใต้ที่มีความอบอุ่นเพราะใกล้เส้นศูนย์สูตรกว่ามาเป็นตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดความเย็นมาจากขั้วโลกเหนือ แต่กว่าที่ลมตะวันออกเฉียงเหนือจะชนะและนำพาเข้าสู่ฤดูหนาวได้ก็ต้องยื้อกับลมตะวันตกเฉียงใต้กันหลายยก

การสู้กันหลายยกนี้จะสังเกตความแตกต่างได้ว่า ถ้าเป็นฤดูฝนปรกติฝนจะตกพรำๆไปเรื่อยๆ แต่ถ้าเป็นช่วงเปลี่ยนฤดู เช่น จากฤดูร้อนเป็นฤดูฝน หรือฤดูฝนเป็นฤดูหนาว ฝนจะตกมาพร้อมพายุฝนฟ้าคะนอง ยิ่งใกล้ช่วงเปลี่ยนฤดูมากเท่าไรความรุนแรงและฟ้าแลบฟ้าร้องก็จะมากขึ้นเรื่อยๆ จนครั้งสุดท้ายฟ้าจะร้องรุนแรงแล้วอากาศก็จะเปลี่ยนฉับพลัน ทำให้รู้สึกถึงความเย็นที่แผ่ลงมาปกคลุมภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นต้น

มาเวลานี้เราทุกคนคงพอสัมผัสได้ถึงอากาศหนาวเย็นจากทางเหนือกันบ้างแล้วที่เริ่มแผ่อิทธิพลปกคลุมลงมาเรื่อยๆเป็นระยะๆ เป็นสัญญาณว่ากำลังจะเข้าสู่ฤดูหนาว โลกเมื่อหมุนรอบดวงอาทิตย์ด้วยแกนโลกที่เอียงก็ทำให้มีความห่าง ความใกล้ของผิวโลกกับแสงอาทิตย์เปลี่ยนไปตามเวลา

มีนักการเมืองที่มีชื่อเสียงโด่งดังและได้ชื่อว่าเป็นหนูให้เจ้าของบ้านเผาบ้านตัวเองจนใกล้จะหมดแล้วเคยพูดไว้ว่า “เวลาเป็นของเขา” เวลาที่โลกหมุนรอบดวงอาทิตย์และหมุนรอบตัวเองไม่มีถอยหลัง มีแต่เดินหน้า เวลาเป็นสิ่งหนึ่งที่นวนิยายหลายแห่งเรียกว่าเป็น “ปิศาจ” เพราะคอยกัดกินทุกอย่างที่เคยคิดว่าคงทนถาวรและมั่นคงให้กลายเป็นสิ่งที่เสื่อมไป สลายไป และตายไปในที่สุด

อากาศเย็นทางภาคเหนือได้แสดงตัวชัดเจนแล้วว่ากำลังจะเข้ามาแทนที่ฤดูฝนที่กำลังจะหมดไป ประมาณกลางเดือนตุลาคมนี้ที่เป็นช่วงออกพรรษาถือว่าหมดหน้าฝน บรรยากาศจะเปลี่ยนไป ความหนาวจะเริ่มปกคลุมไปทั่ว ยกเว้นปลายฝนที่ยังดื้ออยู่ หรือความกดอากาศให้มีความหนาวเย็นไม่เพียงพอก็จะทำให้เกิดพายุฝนฟ้าคะนองส่งท้ายได้

ช่วงการเปลี่ยนผ่าน ตุลาคมและพฤศจิกายน จากฤดูฝนเข้าฤดูหนาวจึงจะเห็นพายุฝนฟ้าคะนองกันอีกสักพัก ฟังเสียงฟ้าร้องดังสนั่นหรือฟ้าผ่าใกล้ๆตัวจนกว่าฤดูฝนหรือลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้จะยอมแพ้ศิโรราบต่อความกดอากาศสูงที่กำลังจะเข้ามาแทนที่ในทุกอณูของอากาศที่เราหายใจ

อย่างไรก็ตาม การปะทะกันของความกดอากาศสูงและความกดอากาศต่ำจะยังมีอยู่ไปอีกสักพัก ฝนฟ้าคะนองน่าจะยังคงมีอยู่ อาจมีบ้างที่บางพื้นที่จะโดนน้ำท่วม โดนฟ้าผ่า ซึ่งเป็นไปตามกฎแห่งกรรม แต่ยิ่งนานไปเวลาจะทำให้ความกดอากาศสูงหรืออากาศหนาวได้ชัยชนะในแต่ละพื้นที่ที่ได้ย่างกรายเข้าไป การต่อสู้ขัดขืนหรือการมองอย่างเข้าข้างตัวเองว่ามวลฝนนั้นหนาแน่นกว่าก็อาจจะคงอยู่ แม้ว่าแท้จริงอากาศจะแห้งจนสร้างฝนในตอนบนไม่ได้ แต่เมื่อทุกอย่างชัดเจนแล้วว่าเป็นเวลาของการเปลี่ยนฤดูกาลคงไม่มีใครกล้าคิดเป็นอย่างอื่น นอกจากเก็บเสื้อฝนและหาเสื้อหนาวมาสวมใส่แทน

เมื่อลมเปลี่ยนทิศ แน่นอนว่าทุกอย่างจะกลับตาลปัตร ลมที่เคยอุ่นๆจากฝั่งตะวันตกก็จะเปลี่ยนเป็นลมหนาวจากฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือ ผู้คนก็เช่นกัน คงต้องปรับเปลี่ยนหน้าที่การงาน ตำแหน่ง และบทบาทกันไปให้เหมาะสมกับฤดูกาลใหม่

ใครแข็งขืนก็จะอยู่ยาก อาจเป็นไข้ เป็นหวัดได้ง่ายๆ ดังนั้น อย่าคิดว่าจะต่อต้านลมเปลี่ยนทิศกันได้ง่ายๆ การปรับตัวให้เข้ากับทิศทางใหม่ดูจะเป็นความฉลาดมากกว่าแน่นอน


You must be logged in to post a comment Login