วันเสาร์ที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2567

บ้าน-วัด-โรงเรียน / โดย พระพยอม กัลยาโณ

On October 6, 2016

คอลัมน์ : สำนักข่าวพระพยอม
ผู้เขียน : พระพยอม กัลยาโณ

อาตมาทิ้งท้ายเสียงบ่นของข้าราชการที่เริ่มมีปฏิกิริยากลัวจะเปลืองตัว เพราะไปเซ็นรับผิดชอบอะไรแล้วจะเข้าตัว เปลืองตัว จึงไม่เซ็นเลยดีกว่า นี่ก็เป็นเรื่องน่าเจ็บปวด น่าเสียดาย ถ้าข้าราชการมีความคิดจะลอยนวล ใส่เกียร์ว่าง แล้วยังนั่งกินเงินเดือน ถ้าเกียร์ว่างแล้วไม่รับเงินเดือนสัก 1-2 เดือนก็ว่ากันไป กลายเป็นว่าเดี๋ยวทำอะไรไปแล้วก็กลัว งานไม่เดิน ทำให้การปราบโกงในยุคนี้คงปราบได้ยากจริงๆ แต่ที่น่ากลัวกว่าคือเงินเดือนก็กิน ยังดันกินปนโกงอีก

อาตมาเห็นว่าโรคทุจริตคอร์รัปชันนี่ดื้อยา แล้วมันก็มีโรคแทรกซ้อนเยอะจัง ทำให้รักษาไม่ราบรื่น ถ้ารักษาโรคโกงได้ ประเทศไทยจะเข้มแข็ง จะเจริญอย่างชนิดที่เรียกว่าก้าวกระโดดแน่นอน ถ้าปราบโกงได้ กลัวอย่างเดียวจะปราบไม่ได้ เพราะโกงมันพยศ โกงมันมีอิทธิพล แผลงฤทธิ์ ฮึดสู้ ปราบโกงกลัวจะโดนโกงปราบ เพราะคนโกงโดนปราบก็ต้องไม่พอใจ ก็จะรวมตัวกันมาเป็นโกงปราบบ้าง รวมหัวกันเยอะๆ คนที่จะปราบก็จะแหยง เหมือนข้าราชการถ้าเกิดรวมหัวรวมตัวกันไม่ทำงาน แอนตี้รัฐบาลขึ้นมา งานก็ไม่เดิน ประเทศก็สะดุด

เพราะฉะนั้นถึงเวลาแล้วที่เรื่องอะไรจะทำได้ ถ้าจะทำกันตั้งแต่เด็ก อบรมกันให้เห็นโทษเห็นภัย ตอนนี้พูดถึงเด็กนักเรียนนักศึกษา อาตมาก็เห็นเรื่องแปลกอยู่เรื่องหนึ่งที่เกิดขึ้น เด็กเกเรไม่ค่อยอยากจะเรียนหนังสือ ประพฤติตัวเสียหาย ครูบาอาจารย์ที่สนใจเรื่องศาสนาก็น่าจะนึกถึงคำที่ว่า “บวร” คือ “บ้าน-วัด-โรงเรียน”

ตอนนี้คำว่า “บวร” ทำท่าจะฮิต แต่ก็ไม่รู้ว่าจะไปได้ถึงไหน เช่น ส่งนักเรียนมาไปทำจิตอาสาที่วัดบ้าง แต่ส่งมาแปลกๆ อย่างโรงเรียนนนทบุรีวิทยา ส่งเด็กผู้หญิงมา 3-4 คนมาอยู่วัด 3 วัน 5 วัน 7 วัน ก็มาสวดมนต์ สั่งสอนอบรมกันไป มีแม่ชีแม่ขาวที่ใจดีสั่งสอนอบรม ทำให้ตอนนี้มีเด็กมาอยู่วัด เพราะโรงเรียนส่งมา จะเกี่ยวกับปัญหาความประพฤติหรือไม่ จึงอยากให้เอาศาสนามากล่อมเกลา

ถ้าวัด บ้าน โรงเรียน ประสานกันอยู่อย่างนี้ ความเสื่อมถอยต่ำทรามในสังคม ในเยาวชนมันก็คงจะไม่ลุกลามบานปลายหนักหนาสาหัส แต่ถ้าไม่เอา ไม่ทำกันเลยก็ลำบาก เพราะว่าเด็กก็เคว้ง ถ้าเขาไม่รู้ว่าจะไปมุมไหนจุดไหน โรงเรียนเป็นที่พึ่งได้ระดับหนึ่ง แต่ถ้าได้ศาลนาเป็นที่พึ่งด้วย ก็จะทำให้เขากลับจิตกลับใจกลายเป็นพลังของแผ่นดินได้ ไม่เป็นภาระของแผ่นดิน

ดังนั้นก็หวังเหลือเกินว่าอีกไม่นานเกินรอ เราคงจะเห็นบ้าน วัด โรงเรียน กลับมาฟื้นสัมพันธภาพ ครูมีปัญหาอะไร นักเรียนมีอะไรก็ส่งมาวัด ให้เด็กเลือกเอาระหว่างคุกกับวัด มันต้องทำอะไรสักอย่างหนึ่งระหว่างวัดกับคุกนี่ ถ้าเราไปปล่อยให้ไปปัญหาถึงผู้พิพากษา ตุลาการก็จะเป็นอะไรไปใหญ่โต มันก็จะยุ่งไปใหญ่

ถ้าคิดกันอย่างนี้บ้าง ก็หวังว่าอีกไม่นานเราจะได้เห็นสัญญาณที่ดีเกิดขึ้นในบ้านเมืองเรา คงจะได้เห็นเป็นรูปธรรม ไม่พูดกันเพ้อฝันเรื่องบ้าน วัด โรงเรียน ถ้าบ้าน วัด โรงเรียนประสานกันดี

เจริญพร


You must be logged in to post a comment Login