วันพฤหัสที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2567

‘ถงชี’ภรรยาหลังเงาสามีเกย์ / โดย ภูริวรรณ วรานุสาสน์

On September 19, 2016

คอลัมน์ : China Today
ผู้เขียน : ภูริวรรณ วรานุสาสน์

สำหรับชิง เฟิงแล้ว การหย่าขาดจากสามีของเธอไม่ทำให้เธอเสียใจ หากแต่การไม่ได้รับสิทธิ์เลี้ยงดูลูกชายและเงินชดเชยนั้นเป็นสิ่งที่ทำใจได้ยากยิ่งกว่า

ชิง หญิงจากมณฑลกุ้ยโจว ตัดสินใจยุติกับการแต่งงานที่ไร้รักลงเมื่อหลายเดือนก่อน หลังจากที่ต้องทนกับการดูถูกเหยียดหยามและการไม่เอาใจใส่ของสามีเธอตลอดเวลา 13 ปีที่อยู่ด้วยกันมา

ชิงกล่าวว่า สามีเธอบอกว่า เธอจะไม่ได้เงินสักสตางค์เดียว รวมทั้งไม่มีสิทธิ์ที่จะดูแลลูกชายคนเดียวของพวกเธอหากเธอหย่าขาดจากเขาโดยที่ไม่มีหลักฐานว่าเขาผิด วันหย่า เขาเตรียมพร้อมไปอย่างดีมาก และเขาได้โอนทรัพย์สินทั้งหมดไปให้พ่อแม่ของตัวเอง

ชิง คือหนึ่งในหญิงสาวที่โชคร้ายกลายเป็น “ถงชี” หรือ “ภรรยาของสามีเกย์” สำหรับหญิงสาวกลุ่มนี้ เส้นทางการหย่าขาดจากสามีนั้นยากลำบากมาก ส่วนหนึ่งมาจากอุปสรรคที่ตัวสามีเองและการขาดหลักฐานที่ดีพอในการหย่า

ในประเทศที่การแต่งงานของเกย์เป็นสิ่งผิดกฎหมาย เกย์ส่วนใหญ่จึงตัดสินใจแต่งงานมีครอบครัวเพราะแรงกดดันจากครอบครัวและจากสังคม โดยเฉพาะชาวจีนที่เชื่อในเรื่องการสืบทอดทายาทครอบครัวว่าเป็นหน้าที่ของลูกชาย หากไม่มีลูกไว้สืบสกุลย่อมสร้างความอับอายและเสื่อมเสียต่อวงศ์ตระกูล

2 ปีก่อน ชิงได้มีโอกาสชมรายการโทรทัศน์รายการหนึ่งเกี่ยวกับโศกนาฏกรรมของชีวิตสมรสของเกย์ ชิงเลยรู้สึกอยากหย่าขาดจากสามีของเธอเพราะสามีของเธอปฏิเสธการเข้าใกล้ตัวเธอนับตั้งแต่เธอคลอดลูกชายให้เขา และสามีของเธอไม่เคยแสดงความรักใดๆกับเธอเลยนับแต่นั้นมา

ชิงเล่าว่า สามีเธอมักจะพูดว่า ตัวเธอนั้นน่าเกลียดถ้าทำอย่างนั้นอย่างนี้ เขาเกลียดทุกอย่างในตัวเธอ แม้ว่าเธอจะพยายามเปลี่ยนตัวเองทุกอย่างเพื่อจะเอาใจเขาก็ตาม

สุดท้ายเธอตัดสินใจถามสามีของเธอตรงๆเกี่ยวกับรสนิยมทางเพศของเขา ซึ่งเขาก็ยอมรับสารภาพแต่เขาปฏิเสธที่จะหย่าขาดจากเธอเพราะเขาห่วงชื่อเสียงของตัวเอง แต่สุดท้ายชิงก็หมดความอดทนและยืนกรานที่จะหย่า

อย่างไรก็ตาม ทนายของชิงกลับแจ้งเธอว่า หากเธอยืนกรานจะหย่า ทางศาลอาจจะไม่ตัดสินเข้าข้างเธอ

หยาง ส่าวเกิง ทนายความจากเมืองเซี่ยงไฮ้ ผู้คร่ำหวอดในคดีหย่าของกลุ่มชาวเกย์ กล่าวว่า เพราะเกย์จีนส่วนใหญ่ปกปิดความลับเรื่องชายรักชายของตน ทำให้ฝ่ายหญิงไม่สามารถหาหลักฐานเกี่ยวกับพฤติกรรมทางเพศของสามีได้ ทำให้ผู้พิพากษามักจะไม่ยินยอมให้หย่า ฝ่ายหญิงต้องหาทางยื่นฟ้องใหม่อีกครั้ง

นอกจากนี้ กฎหมายจีนยังไม่ได้ระบุว่า การเป็นเกย์นั้นคือสาเหตุที่ทำให้เกิดการแตกร้าวในชีวิตสมรส หมายความว่า หากเกิดการหย่าในกรณีนี้ ฝ่ายหญิงจะไม่ได้ค่าชดเชยใดๆจากฝ่ายชาย รวมไปถึงสิทธิ์ในการเลี้ยงดูบุตรด้วย

จากการสำรวจเมื่อปี ค.ศ. 2013 โดยจาง เป่ยชวน นักเพศวิทยาพบว่า หญิงสาวกว่า 150 คนที่เคยแต่งงานหรือหย่าจากเกย์หรือรักร่วมสองเพศนั้น 70 เปอร์เซ็นต์ประสบกับการทารุณกรรมทางด้านจิตใจจากฝ่ายชาย ส่วนใหญ่พบในลักษณะการละเลยทางด้านเพศสัมพันธ์

นอกจากนี้ 90 เปอร์เซ็นต์ของหญิงกลุ่มนี้เกิดอาการโรคซึมเศร้าและ 20 เปอร์เซ็นต์ถูกทำร้ายร่างกาย 40 เปอร์เซ็นต์ ติดเชื้อจากโรคทางเพศสัมพันธ์ ซึ่งจากผู้ตอบแบบสอบถามทั้งหมดพบว่า มีผู้ที่ติดเชื้อ HIV จากสามีจำนวน 30 ราย

ดร.หลี่ เซียนหง จากมหาวิทยาลัยจงหนันกล่าวว่า โดยทั่วไปแล้ว กลุ่มของ “ถงชี” นี้ค่อนข้างไร้ตัวตน ที่สำคัญผู้หญิงในกลุ่มนี้จำนวนมากยังไม่รู้ว่าสามีของตัวเองเป็นเกย์อันเป็นผลจากความเชื่อแบบโบราณที่เกี่ยวข้องกับเพศสัมพันธ์ บางคนถึงขนาดไม่สงสัยเลยว่า ทำไมสามีของเธอจึงไม่มีเพศสัมพันธ์ด้วยกัน

ปัจจุบัน แม้ว่าชิงจะหย่าขาดจากสามีเธอแล้ว หากแต่เธอก็ยังไม่สามารถบอกพ่อแม่ของเธอเองได้ว่า สามีของเธอเป็นเกย์ เพราะเธอเองก็อายจนไม่สามารถจะพูดได้นั่นเอง


You must be logged in to post a comment Login