คอลัมน์ : ฉุก(ละหุก)คิด ผู้เขียน : นายหัวดี การเสียชีวิตของ “หมอดูอีที” ทำให้หลายคนแทบไม่เชื่อว่าอาชีพหมอดูจะมีรายได้หลายร้อยล้านบาทในแต่ละเดือน แม้แต่ “โหรไทย” ก็มีหลายคนที่มีชื่อเสียงในเรื่องความแม่นยำในการทำนาย อย่างปัจจุบันหากเป็นด้านการเมืองคงหนีไม่พ้น “โหรวารินทร์” ที่ถือเป็น “ขวัญใจทหาร” เป็นที่รู้กันดีว่าเรื่องของโหราศาสตร์ผูกพันและมีอิทธิพลกับสังคมไทยมานานนับพันปี จึงไม่แปลกที่ปัจจุบันจะมีโหรที่มีชื่อเสียงออกมาทำนายเหตุการณ์ต่างๆ หรือทำนายถึง “ผู้มีอำนาจ” ในแง่มุมต่างๆและ “ผู้มีอำนาจ” แทบทุกคนจะมีโหรประจำตัว อิทธิพลของโหรหรือหมอดูบางครั้งจึงอาจเป็นการ “โยนหินถามทาง” หรือชี้นำความคิดของคนในสังคม หรือสร้างสถานการณ์บางอย่างที่ “ผู้มีอำนาจ” ต้องการ โดยเฉพาะโหรที่ใกล้ชิดหรือรับใช้ “ผู้มีอำนาจ” เหมือนปก “โลกวันนี้วันสุข” ฉบับล่าสุดที่มีคำถามว่า โหรหรือหมอดูนั้นเป็น “ผู้หยั่งรู้อนาคต” จริงหรือไม่?...

คอลัมน์ : สำนักข่าวพระพยอม ผู้เขียน : พระพยอม กัลยาโณ มีการสำรวจพบว่า ข้าราชการไทยมีความสุขมากขึ้น เพราะคนรุ่นใหม่เห็นว่างานราชการมั่นคงยั่งยืน ไม่เจ๊งง่ายเหมือนบริษัท จึงทำให้เกิดความรู้สึกว่าชีวิตควรจะฝากผีฝากไข้กับงานราชการ ทำให้การทำงานราชการกลายเป็นขนมหวาน ซึ่งหากข้าราชการเต็มใจและยินดีรับใช้บ้านเมืองและประชาชน ก็น่าจะเป็นประโยชน์กับประเทศชาติ และเป็นความสุขของประชาชน เพราะประชาชนทุกคนก็ต้องการเห็นระบบราชการมีประสิทธิภาพและมีความเข้มแข็ง ซึ่งจะทำให้ประเทศชาติเข้มแข็งและมั่นคงไปด้วย ประชาชนก็มีความสุขกับการบริการของข้าราชการ ข้าราชการก็มีความสุขที่ได้รับใช้ประชาชน ประชาชนก็จะทำมาหากินด้วยความสุข ทุกคนในประเทศก็จะอยู่ดีมีสุข เมื่อมีคนหนุ่มคนสาวอยากจะรับราชการก็ถือเป็นเรื่องที่ดีและโชคดีที่จะได้คนรุ่นใหม่เข้าไปงาน ซึ่งทุกคนก็มีความหวังที่จะมีชีวิตการทำงานที่ก้าวหน้า อาตมาก็ขออย่างเดียวคือ รับราชการก็ขอให้ทำงานให้กับบ้านเมือง อย่าไปเกาะบ้านเกาะเมืองให้เปลืองงบประมาณ เพราะแต่ละปีกระทรวงการคลังต้องจ่ายเงินเดือนข้าราชการจำนวนไม่ใช่น้อย ก็ขออย่าไปทำงานแบบผักชีโรยหน้า เพียงเพื่อให้ผู้หลักผู้ใหญ่ชื่นชมชื่นชอบ ถ้าทำงานแบบผักชีโรยหน้า บ้านเมืองก็น่ากลัวเหลือเกินว่าจะไม่เจริญรุ่งเรืองหรือมั่นคงแน่นอน เพราะคนที่อยากรับราชการไม่คิดจะรับใช้บ้านเมือง แต่ต้องการจะไปเกาะบ้านเมือง อันนี้เป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วง เกาะบ้านเกาะเมืองก็เหมือนไปกินบ้านกินเมือง ทำงานเช้าชามเย็นชาม...

การ์ตูนกระตุกหนวดถอนขน จากหนังสือพิมพ์โลกวันนี้รายวัน ฉบับที่ 4665 วันพุธที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2560

คอลัมน์ : โลกวันนี้มีประเด็น “ผมยืนยันว่าคนเดียวก็ไม่ให้แล้ว ถ้าประชาชนไม่เห็นด้วยแค่คนเดียว เพราะมันเป็นที่สาธารณะร่วมกัน ทำไมถึงไม่มีเอกสารขึ้นมา ก็ต้องตรวจสอบทั้งหมด ตั้งแต่ระดับจังหวัดรวมถึงคณะกรรมการทั้งหมดได้รู้เรื่องนี้หรือไม่ และเมื่อตรวจสอบยืนยันได้ว่ามีประชาชนไม่เห็นด้วย ก็จะดำเนินการเพิกถอนคำสั่งทันที ในเมื่อประชาชนที่ใช้ประโยชน์ในที่สาธารณะได้รับความเดือดร้อน ก็มีเหตุให้ยกเลิกคำสั่ง และต้องหาคนทำผิดให้ได้” เป็นประโยคที่พลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส พลิกจากเกือบจะเป็นผู้ร้ายให้กลายมาเป็นพระเอกได้ในทันทีสำหรับ “บิ๊กป๊อก” พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ที่พูดถึงการเซ็นอนุมัติให้บริษัท เคทีดี พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลปเมนท์ จำกัด ได้ใช้ประโยชน์ในที่ดินสาธารณประโยชน์ป่าชุมชนบ้านโคกห้วยเม็ก ตำบลบ้านดง อำเภออุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น เนื้อที่ 31 ไร่ 2 งาน 63 ตารางวา เพื่อขยายเขตโรงงาน ทำเป็นที่เก็บน้ำ สำหรับโรงงานน้ำดื่มและเครื่องดื่ม ประเด็นที่ใครก็คาดว่าจะเป็นเผือกร้อนทำให้รัฐบาลมือพองซ้ำรอยเอาที่ ส.ป.ก.ไปแจกคนรวยเช่นในอดีต กลายเป็นก้อนน้ำแข็งในมือรัฐบาลถือเท่าไหร่ก็ไม่พอง แถมจะได้เครดิตเพิ่มเรียกเสียงกรี๊ดจากผู้สนับสนุนได้อีกด้วย เมื่อ “บิ๊กป๊อก”...

คอลัมน์ : ฉุก(ละหุก)คิด ผู้เขียน : นายหัวดี “สมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์” นักวิชาการทีดีอาร์ไอ ถือเป็น “นักวิชาการน้ำดี” ที่วิเคราะห์หรือวิพากษ์วิจารณ์ตรงไปตรงมา ไม่ว่าเรื่องเศรษฐกิจ สังคม หรือการเมือง อย่างล่าสุดให้สัมภาษณ์ “วอยซ์ทีวี” ว่าเศรษฐกิจไทยเคยได้ฉายาเป็น “เสือตัวที่ห้าแห่งเอเชีย” ซึ่งคนรุ่นหลังแทบนึกไม่ออกว่าเศรษฐกิจที่ว่าโตเร็วนั้นมีหน้าตาเป็นอย่างไร “สมเกียรติ” ย้ำว่า วันนี้ไม่ใช่ “เสรีนิยมใหม่” อย่างที่ชอบพูดกัน เราไม่สามารถดำเนินนโยบายคู่ขนานสร้างการเติบโตไปพร้อมการกระจายรายได้ การเมืองที่ไม่มีเสถียรภาพก็ส่งผลต่อนโยบายระยะยาว ระบบราชการกลายเป็นอุปสรรค และ Technology Disruption คือความท้าทายใหม่ ที่ไม่รู้ว่าคนไทยเข้าใจกันดีหรือยัง นโยบายเศรษฐกิจหลักๆ รัฐบาลทหารก็ไม่ประสบความสำเร็จ ไม่ว่าจะเป็น “เขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดน...

คอลัมน์ : สำนักข่าวพระพยอม ผู้เขียน : พระพยอม กัลยาโณ ขณะนี้วงการพุทธศาสนามีเรื่องน่าติดตามอยู่ 2 ประเด็น คือ หนึ่งกรณี พระพรหมเมธี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศ์ ในฐานะกรรมการมหาเถรสมาคม ได้รับการแต่งตั้งเป็นประธานคณะอนุกรรมการติดตามข้อมูลข่าวสารคณะสงฆ์วัดต่างๆที่ก่อปัญหา หรือมีปัญหา เพื่อจะได้ป้องกันและแก้ไข ไม่ให้เกิดปัญหาบานปลาย อีกเรื่องคือ การสนับสนุนเห็นดีเห็นงามกับการตั้งผู้อำนวยกาสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) คนล่าสุดคือ คุณมานัส ทารัตน์ใจ ทั้ง 2 เรื่องหากสามาถทำได้อย่างจริงจัง เชื่อว่าพุทธศาสนาในบ้านเราก็จะดีขึ้นกว่าเก่า หากจะแย่กว่าเก่าก็ไม่รู้ว่าจะคาดเดากันอย่างไร เพราะ พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ อดีตผู้อำนวย พศ.ที่ถูกย้ายออกไปก็ฝากฝีมือเจ็บแสบกับหลายวัดที่มีปัญหาเรื่องเงินทอน การติดตามข้อมูลข่าวสารของวัดต่างๆ จึงถือเป็นการเริ่มต้นที่ดี...

บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา อุบลราชธานี ร่วมกับ มูลนิธิอีสานอารยะ  และสมาคมศิลปินอีสาน ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านงานศิลปะและไลฟ์สไตล์ รวบรวมผลงานศิลปะจากศิลปินชาวอีสานกว่า 200 ท่าน  กับผลงานกว่า 300 ชิ้น ครั้งแรกในอีสานใต้ ภายใต้ชื่องาน “ราชธานีแห่งศิลปะ” พร้อมน้อมรำลึกถึงพระอัจฉริยะภาพด้านศิลปะ ในหลวงรัชกาลที่ 9 กับภาพพระบรมสาทิศลักษณ์ ที่วาดโดยสีอะคริลิค ใหญ่ที่สุดในโลกสูงเท่าตึก3 ชั้น พร้อมชมภาพที่โลกตามหา ผลงานของ ฌ็อง-บาติสต์-ซีเมอง ชาร์แด็ง ศิลปินชาวฝรั่งเศสผู้เชี่ยวชาญการเขียนภาพนิ่ง มูลค่ากว่า 200 ล้านบาท  จัดแสดงระหว่างวันที่ 12-18 กันยายน...

การ์ตูนกระตุกหนวดถอนขน จากหนังสือพิมพ์โลกวันนี้รายวัน ฉบับที่ 4664 วันอังคารที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2560

คอลัมน์ : โลกวันนี้มีประเด็น ถ้าไม่ใช่รัฐบาลพิเศษที่มีอำนาจพิเศษคอยปกป้องตัวเองน่าจะอยู่ต่อไปได้ยาก จากกรณีเซ็นยกป่าชุมชนให้เอกชนใช้ผลประโยชน์ การอนุมัติให้บริษัท เคทีดี พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลปเมนท์ จำกัด ได้ใช้ประโยชน์ในที่ดินสาธารณประโยชน์ป่าชุมชนบ้านโคกห้วยเม็ก ตำบลบ้านดง อำเภออุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น เนื้อที่ 31 ไร่ 2 งาน 63 ตารางวา เพื่อขยายเขตโรงงาน ทำเป็นที่เก็บน้ำ สำหรับโรงงานน้ำดื่มและเครื่องดื่ม ถ้าเป็นรัฐบาลปรกติมีหรือจะอยู่ได้ แต่นี่เป็นรัฐบาลมาจากรัฐประหาร มีอำนาจเบ็ดเสร็จในตัวที่สามารถทำอะไรก็ได้ ไม่มีความผิด ถึงมีความผิดก็ใช้อำนาจพิเศษทำผิดให้เป็นชอบ ไม่ต้องรับผิดชอบตามกฎหมายได้ แต่จะทนทานต่อกระแสสังคมที่ไม่ยอมรับได้หรือไม่เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ตัวละครของเรื่องนี้ประกอบด้วย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสุธี มากบุญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายประทีป กีรติเรขา อธิบดีกรมที่ดิน นายกำธร ถาวรสถิตย์ อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งขณะนี้มีผู้ร้องให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เอาผิดตามกฎหมายแล้ว เนื่องจากการกระทำดังกล่าวอาจเข้าข่ายทุจริตต่อหน้าที่ ใช้อำนาจเอื้อประโยชน์ต่อเอกชนที่จุดมุ่งหมายแสวงหาผลกำไรมาแบ่งปันกันในหมู่ผู้ถือหุ้นเท่านั้น ไม่ได้เกิดประโยชน์ต่อส่วนรวม ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตต่อหน้าที่ พ.ศ.2542 และแก้ไขเพิ่มเติม ประกอบประมวลกฎหมายที่ดิน...

คอลัมน์ : ฉุก(ละหุก)คิด ผู้เขียน : นายหัวดี คำถามเรื่อง “สองมาตรฐาน” หรือ “เลือกปฏิบัติ” ยังเป็นประเด็นที่ค้างคาใจหลายฝ่าย โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทยที่มีสายโยงใยจากพรรคไทยรักไทยในอดีต คนเสื้อแดงและกลุ่มเรียกร้องประชาธิปไตย ซึ่งตกเป็นผู้ต้องหามากมายและหลายคนถูกจำคุก ขณะที่ฝ่ายตรงข้าม ไม่ว่าจะเป็นคนเสื้อเหลือง กลุ่มเป่านกหวีด หรือคนมีสี กลับแทบไม่มีความคืบหน้าใดๆในการดำเนินคดี แม้จะมีการกระทำไม่ต่างกับอีกฝ่าย ทั้งบางคดีมีความรุนแรงมากมายอย่างกรณีสลายการชุมนุมคนเสื้อแดงปี 2553 ที่ทำให้มีคนตายเกือบร้อยและบาดเจ็บกว่า 2,000 คน ปัญหา“สองมาตรฐาน” หรือ “เลือกปฏิบัติ” ไม่ได้อยู่แค่กระบวนการยุติธรรมปรกติ แต่ยังรวมถึง “องค์กรอิสระ” ที่ถูกมองว่าเป็นเครื่องมือสำคัญทางการเมืองเพื่อกำจัดฝ่ายตรงข้าม ซึ่งเห็นชัดเจนว่ามีความยุติธรรมและเป็นธรรมจริงหรือไม่? “ทั่นผู้นำ” ย้ำมาตลอดว่า “กฎหมายคือกฎหมาย” และล่าสุดยังย้ำว่า...

คอลัมน์ : สำนักข่าวพระพยอม ผู้เขียน : พระพยอม กัลยาโณ สิ่งที่หลวงพ่อพุทธทาสพูดไว้ก็เริ่มเห็นจริงแล้วสำหรับพวก “อมนุษย์ภัย” คือ คนที่เป็นภัยที่ชอบหลอกลวงต้มตุ๋น  อย่างผู้หญิงที่ชื่อ “น้ำมนต์”หรือ “ภรณ์” เป็นข่าวโด่งดังกรณีหลอกลวงผู้ชายมาแต่งงานถึง 13 คน แล้วเชิดเงินสินสอดหนี ผู้ชายแต่ละรายที่โดนหลอกเสียเงินเป็นแสน เท่ากับว่าผู้หญิงคนนี้หาเงินจากเรื่องนี้ได้เป็นล้าน การหลอกลวงยังใช้วิธีชวนลงทุนให้ค้าขายผลไม้ต่างๆ โดยอ้างเป็นผู้ค้าผลไม้ เหยื่อแต่ละคนก็มารำพึงรำพันว่า ตัวเองก็ไม่นึกว่าจะเจอคนแบบนี้ ซึ่งพวกอมนุษย์ภัยคือภัยที่เกิดจากมนุษย์ เป็นมนุษย์แต่เหมือนไม่เป็นมนุษย์ เป็นมนุษย์สเปโต มนุษย์เปรตๆที่หากินด้วยการหลอกลวงต้มตุ๋นไปเรื่อยๆ เพราะฉะนั้นถ้าคนเราจะคิดปีติสุขกับเรื่องเนื้อหนังจนเกินไปก็อาจไม่มีความสุข ไม่เหมือนการแนบแน่นในพระรัตนตรัย ไม่ปลื้มในคำสอนของพระพุทธเจ้าด้วยความฉลาด ไม่มีปีติสุขในพระธรรมที่ประทานด้วยความประเสริฐประณีต ทำให้กำจัดความหลง ไม่มีปลื้มปีติในพระสงฆ์ที่ทรงมรรคทรงผล เป็นเนื้อนาบุญ นำคำสอนอันประเสริฐของพระพุทธเจ้ามาเผยแพร่ให้ประชาชนสุขสวัสดิมงคล ไม่มีถูกหลอกถูกล่อด้วยอมนุษย์ภัย...