วันศุกร์ที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2567

ระวังน้ำผึ้งหลายหยด

On July 15, 2020

คอลัมน์ : สำนักข่าวพระพยอม

ผู้เขียน : พระพยอม กัลยาโณ

(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 15 ก.ค. 63)

คอยเตือน คอยบอกเขาเสมอว่า อย่าการ์ดตกๆ แต่แล้ว ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ก็การ์ดตกเสียเอง โดยการปล่อยให้ทหารอียิปต์ที่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เข้ามากับคณะอีก 30 คน ผ่านท่าอากาศยานอู่ตะเภา และซึ่งทหารรายดังกล่าวเข้าประเทศไทยในฐานะลูกเรือเครื่องบินทหาร ที่อยู่ในเกณฑ์ยกเว้นการกักตัวเพื่อตรวจโรค ตามที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น

ได้ไปเที่ยวจ.ระยองตามสถานที่ต่างๆ แล้วลำบากตรงที่ว่า ไปพักตามโรงแรม พาเพื่อนไปเดินเล่นตามห้างสรรพสินค้า เล่นเอาชาวระยอง เรียกว่า ขวัญผวากันไป อันนี้เป็นสิ่งที่ต้องบอกว่า ศบค.การ์ดตกเสียเอง เตือนคนไทยอย่าให้การ์ดตก แต่กลับไปปล่อยให้เขาไปโน้น ไปนี่ ไม่กักตัว 14 วัน อันนี้กลายเป็นเรื่องที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ ถูกตำหนิเอามาทีเดียว แล้วเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น คนรับผิดชอบ คือ ใครละ ถ้าเกิดคนที่นั่น จังหวัดนั้น เกิดติดขึ้นเชื้อไวรัสโควิดเยอะแยะ ยังไม่รวมถึงกรณีลูกทูตซูดานที่ติดโควิดก่อนมาพักคอนโดมิเนียมในกทม.

แม้ว่า นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะออกมาขอโทษคนไทยแล้วก็ตาม แต่สถานการณ์หลังจากนี้เราจะอยู่กันยาก อยู่กันลำบาก ทำกับพวกหนึ่ง ส่วนหนึ่ง แต่ไม่ทำอีกส่วนหนึ่ง มันก็ถึงทางจุดเรียกว่า หันเห แล้วมีถ้าคนไทยส่วนหนึ่งที่ไปอยู่ต่างประเทศมา แต่พอกลับมาถึงเมืองไทย เอาบ้าง ไม่ยอมให้กักตัว อันนี้จะกันใหญ่แล้ว เอาละ เรื่องโรคภัยไข้เจ็บ เรื่องการบริหารควบคุมการทำอะไรที่มันค่อนข้างจะลักลั่น หมิ่นเหม่ เสี่ยงๆ

มันกลายเป็นเรื่องที่ทำให้ลูบหน้าปะจมูกอะไรกันหรืเปล่า ต้องดูกัน เรื่องแบบนี้อย่าว่าเขา อิเหนาเป็นเอง มันลำบาก เรื่องนี้คิดว่า คงจะเป็นบทเรียนที่ให้เกิดการแก้ไขปรับปรุง อย่าให้เป็นเรื่องบานปลายต่อไปอีกเป็นเด็ดขาด เราต้องจัดการให้อยู่หมัด อยู่มือ อย่าปล่อยปละละเลย เพิกเฉย ดูดาย จนกลายเป็นน้ำผึ้งหยดเดียวแล้วไหลเป็นหลายๆหยดตามกันขึ้นมาอีกหลายหยด แล้วจะทำอย่างไรกัน เรื่องปัญหาเศรษฐกิจโควิดมันก็สาหัส สากรรจ์

เรียกว่า มีคนจำนวนไม่น้อย หมดเนื้อ หมดตัว หมดกระเป๋า นั่งเศร้า นั่งอดกันไปอย่างสาหัสสากรรจ์ และถ้าหากยังไม่ทำให้ดีต่อไป มันก็จะกลายเป็นเรื่องสิ้นเปลืองงบประมาณในการเริ่มต้นระวังกันใหม่ เรียกว่า จัดทัพกันใหม่ มันไม่ใช่เรื่องง่ายซะแล้ว ต้องขอบอกว่า ใครเป็นเรื่องคนผ่อนผัน ใครเป็นเรื่องไม่ระวังกันแน่ ใครปล่อยให้แย่มาถึงจุดนี้ได้อย่างไรกัน ก็ต้องบอกว่า ปรับปรุงกันใหม่ให้ดีกว่าเก่า อย่าให้เน่าเละเทะไปกว่าเก่า

เดี๋ยวจะนั่งเศร้า นั่งทุกข์กันไปอีกยาวนาน ก็ควรที่จะเรียกว่า ลืมหู ลืมตา มาดูกันว่า มันมีปัญหาตรงจุดไหน มีจุดที่ผิดพลาดยังไงก็แก้ไขกันต่อไป ทีนี้เรื่องเศรษฐกิจ ถ้าหากว่า เจ้าโรคนี้มันยังไม่สูญหายไปจากเมืองไทย มันก็ต้องทำให้เศรษฐกิจในเมืองไทยทรุดหนัก เรียกว่า ตกสะเก็ดกันแล้ว คราวนี้ไม่รู้อีกกี่ปีจะฟื้นได้ ถ้าฟื้นไม่ได้ ก็อดอยากปากแห้ง ท้องหิวกันอีกยาวนาน แต่ว่า เอาละ อย่างที่เคยบอกไว้ว่า คนไทยถึงแม้จะมีอดอยากบ้าง แต่ก็มีอิ่มอยู่เยอะ

คนที่อดอยาก ขาดแคลน ขัดสน ก็ต้องตามตนเองว่า เกิดอะไร คนอื่นทำไมเขายังพออยู่ได้ ทำไมเราถึงอยู่ยาก อยู่ลำบาก อดๆอยากๆ มีๆ หมดๆ มันยังไงกันแน่ ก็หวังว่า เราจะได้ทำให้เรื่องนี้มันกระจ่างแจ้งภายในใจ ให้รู้เท่า รู้ทัน รู้แก้ รู้กันๆต่อไป เพราะว่า เรื่องพอปล่อยให้คนนั้น คนนี้มา เอาล่ะ แม้ว่า เราจะไม่ได้อยู่ในจ.ระยอง เราก็ไม่ปล่อยตัวให้ไปคลุกคลีใกล้เคียง แต่ความจนเนี่ย ถ้าหากว่า เราไม่เอาจริง เอาจริง มันก็จนเรื้อรัง จนถาวรแน่นอน

แต่ถ้าเอาจริง เอาจริง ปากกัดตีนถีบว่า อย่างนั้นเถอะ ตัวเป็นเกลียว หัวเป็นน็อต สู้ให้มันถึงที่สุด อาตมาตอนนี้รู้สึกอะไรได้อย่างว่า เราเนี่ยมันเกิดรอดตัวแล้ว เพราะเรารวมตัวกัน ปลุกระดมกันให้สู้ ให้ขยัน วันพระที่วัดสวนแก้วนี่ เอาคนไปทำประโยชน์ครึ่งชั่วโมง สามารถปลูกนั่น ปลูกนี่ สามารถทำให้ต้นไม้ กล้วย อ้อย งดงาม รวมตัวกันสู้ แล้วก็ปลุกระดมว่า รวมกันกิน รวมหัวกันกินเนี่ย มันจะล้ม แต่รวมหัวกันทำ มันจะรุ่ง เพราะฉะนั้น มันจะล้ม จะรุ่งอยู่ที่ว่า ทำกันจริงไหม ถ้าทำจริงๆมันก็รุ่ง แต่ทำหละหลวม เหลาะแหละ มันก็ล่ม ยิ่งรุมกันกิน ยิ่งล้มง่ายขึ้น แต่ถ้ารุมกันทำ มีหวังรุ่งได้ไปอีกนาน

 

เจริญพร


You must be logged in to post a comment Login