วันอังคารที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2567

มหัศจรรย์ประเทศไทย

On May 25, 2020

คอลัมน์ : สำนักข่าวพระพยอม

ผู้เขียน : พระพยอม กัลยาโณ

(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 25 พ.ค. 63)

ประเทศไทยกำลังลุ้นผลิตวัคซีนรักษาโรคโควิด-19 หลังจากได้เริ่มทำการทดลองจนได้ผลเป็นที่พอใจ โดยเมื่อเร็วๆนี้ นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ลงพื้นที่ๆศูนย์วิจัยไพรเมทแห่งชาติ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย อ.แก่งคอย จ.สระบุรี เพื่อติดตามความคืบหน้างานวิจัย “วัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 ชนิด mRNA” ที่ศูนย์วัคซีนจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมกับสถาบันวัคซีนแห่งชาติ และกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ซึ่งกระทรวงการอุดมศึกษาฯ ให้ทุนสนับสนุน ประสบความสำเร็จในระดับดี หลังทดสอบในหนูทดลองสำเร็จ และกำลังเตรียมจะทดสอบในลิง

นายสุวิทย์ บอกว่า วัคซีนที่ทดลองในลิง จะฉีด 3 ครั้ง ใช้เทคโนโลยีใหม่ของการวิจัยวัคซีน คือ ใช้สารพันธุกรรมของเชื้อ ชนิด mRNA โดยครั้งที่ 1 ฉีดเมื่อวันที่ 23 พ.ค. ครั้งที่ 2 นับไปอีก 4 สัปดาห์ ครั้ง 3 นับไปอีก 8 สัปดาห์ ซึ่งหลังการทดสอบในเข็มที่ 2 จะทำให้เห็นผลการป้องกันโรคโควิด-19 ได้แล้ว โดยขั้นตอนการทดสอบในลิง ถือเป็นสัตว์ที่ตอบสนองกับไวรัสได้ใกล้เคียงกับมนุษย์มากที่สุด ดูเรื่องความปลอดภัย ไม่เกิดโรคแทรกซ้อนเมื่อได้รับวัคซีน และการตอบสนอง คือ สามารถสร้างภูมิคุ้มกันได้จริง ก่อนที่จะทดสอบในมนุษย์ คาดว่าอีก 2-3 เดือนจะเริ่มทดสอบได้

ทั้งนี้ กระบวนการทดสอบในมนุษย์มี 3 ระยะ พิจารณาใน 4 ประเด็น ได้แก่ ความเป็นพิษ, ความปลอดภัยต่อร่างกาย, การกระตุ้นภูมิคุ้มกัน และประสิทธิผลของวัคซีน คาดว่าจะเริ่มผลิตวัคซีนเพื่อทดสอบในคน ได้ในเดือน ส.ค. ปีนี้ สำหรับเฟสที่ 1 ทดสอบในคน จะเริ่มจากหลักสิบคน เพื่อดูว่าวัคซีนมีความปลอดภัยหรือไม่ จากนั้นเฟสที่ 2 เพิ่มเป็นหลักร้อยถึงพันคน เพื่อดูว่าสร้างภูมิคุ้มกันได้จริง และเฟสที่ 3 จะทดสอบในหลักหลายพันคน เพื่อดูว่าใช้ได้กับประชากรจำนวนมาก โดยวัคซีนชนิด mRNA ที่ประเทศไทยใช้ เป็นเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด มีข้อดีคือสามารถใช้ได้ผลโดยการใช้ปริมาณวัคซีนที่ไม่มากนัก

นายสุวิทย์ บอกว่า ขณะเดียวกันยังได้มีการสั่งจองการผลิตวัคซีนกับโรงงานผลิต ซึ่งไม่เพียงแก้ปัญหาสำหรับประเทศไทยเท่านั้น แต่เป็นการแก้ปัญหาโรคระบาดในระดับมนุษยชาติ โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ให้นโยบายการพัฒนาวัคซีนของไทย คือ ให้คนไทยมีวัคซีนใช้ในเวลาที่ใกล้เคียงกับประเทศชั้นนำทั่วโลก ซึ่งขณะนี้การทดลองวัคซีนส่วนใหญ่ในโลกนี้อยู่ในขั้นตอนที่ไล่เลี่ยกันกับประเทศไทย คือ การทดสอบในสัตว์ทดลอง มีเพียง 6-7 แบบที่ทดลองในคนในระยะที่ 1 แล้ว เช่น ของจีนและสหรัฐอเมริกา เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เราดำเนินการยังมีมากกว่า 1 วิธีการ โดยดำเนินยุทธศาสตร์ 3 แนวทางคู่ขนานกันคือ 1. การวิจัยและทดลองในประเทศไทย สร้างวัคซีนใช้เอง เพื่อยืนบนขาของตัวเอง 2. การร่วมมือกับนานาชาติ และ 3. การเตรียมความพร้อมในการผลิตวัคซีนที่ผ่านการทดลองและพิสูจน์ว่าใช้ได้ผลให้คนไทยได้ใช้อย่างทั่วถึง คาดว่ากระบวนการทั้งหมดจะเสร็จสิ้นภายใน 6 เดือน ที่สำคัญขณะนี้ ศูนย์ไพรเมท วางแผนในระยะยาว คือ การสร้างอาคารวิจัยวัคซีนโรคติดเชื้อทางอากาศ จะทำให้การวิจัยพัฒนาและการทดสอบวัคซีนมีประสิทธิภาพและรวดเร็วยิ่งขึ้น ครอบคลุมโรคอุบัติใหม่อุบัติซ้ำ เหมือนอย่างในกรณีโรคโควิด-19

ปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้น อาตมาก็ต้องเรียกว่า เป็นโอกาสของประเทศไทยที่จะดังสนั่นโลกคงไม่มีอะไรเกินกับคำว่า ได้วิจัยทำเรื่องวัคซีนรักษาโรคไวรัสโควิด-19 ถ้าไทยทำสำเร็จแน่นอน ก็จะประกาศให้ดังก้องโลกว่า ประเทศเล็กๆอย่างนี้ นักวิทยาศาสตร์ก็ไม่ได้เป็นคนสำคัญๆที่ติดอันดับนักวิทยาศาสตร์ของโลก แต่ถ้าเราเกิดวิจัยและทำได้สำเร็จ ตอนนี้กำลังทดลองกับลิง หลังจากที่ประสบความสำเร็จในการทดลองกับหนูมาแล้ว

ถ้าทดลองกับลิงสำเร็จอีกก็ลองกับคน ถ้าลองกับคนสำเร็จได้ผลฉับพลันเต็มที่ร้อยเปอร์เซ็นต์ นั่นแหละชื่อเสียงวงการแพทย์ วงการวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีอะไรต่างๆ วิจัยของประเทศไทยดังระเบิดแน่นอน ความดังในด้านไหนก็ไม่ได้ดีเท่ากับดังรักษาคนให้หายป่วย หายเจ็บ เรียกว่า ให้ลาภอันประเสริฐแก่คนที่เกิดเป็นโรคโควิด-19 ได้สำเร็จ ต้องเรียกว่า ประเทศไทยได้ลาภ ได้โชค ได้ชื่อเสียง ได้ผลงานอันล้ำเลิศ ถูกยุค ถูกสมัย ถูกจังหวะ

เราไม่เคยได้ดีอะไรที่สุดในโลกกับเขาก็ช่างเถอะผ่านมาแล้วไม่เป็นไร แต่ของตัวนี้สักเที่ยวหนึ่งเถอะให้กับประเทศไทยสักครั้งหนึ่งก็ทำให้ประเทศไทยนี้ได้ชื่อเสียงมาครองแชมป์ติดอันดับโลกกับเขาสักทีหนึ่ง มันก็น่าจะเป็นเรื่องที่ว่า คำว่า “ภูมิใจ” ที่ได้เกิดเป็นคนไทย แล้วได้มีเหตุการณ์อย่างนี้เกิดขึ้นในยุคนี้ เรียกว่า ร่วมยุค ร่วมสมัยกับการเกิดมาเป็นคนไทยที่ชื่อ ได้เสียง ได้ความนิยมชมชอบ และสิ่งที่น่าจะได้ตามมาก็คือ เงินทองก็จะไหลมาเทมา

ความมั่งคั่ง ยั่งยืน ร่ำรวย อย่างที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พูดบ่อยๆว่า มั่งคั่ง ยั่งยืน คิดว่า เราน่าจะได้จำหน่ายไปทั่วโลก ประเทศอื่นก็คงจะสั่งซื้อ สั่งจองกันอย่างชนิดที่เรียกว่า ล้นเหลือ เรียกว่า ผลิตแทบไม่ทัน ทำอะไรทำไม่ทันแน่นอน ถ้าเราสามารถผลิตวัคซีนรักษาไวรัสโควิด-19 ได้สำเร็จ ถ้าเราสำเร็จก่อนชาติอื่น เมืองอื่น ซึ่งประเทศมหาอำนาจของโลกอย่างอังกฤษ สหรัฐ หรือจีน ยังไม่ได้ทำวัคซีนสำเร็จอย่างร้อยเปอร์เซ็นต์

ถ้าเราสำเร็จแซงหน้าไป ต้องเรียกว่า โชคดีของประเทศไทยมาถึงบ้างแล้ว คำว่า จะจนและมีคนตกงาน หรือว่า จะสิ้นไร้ไม้ตอก ประเทศชาติจะด้อยพัฒนาไปอีกหลายปี ถ้ายังไม่ค้นพบ ยังไม่เจอะเจอตัวนี้ เรายังจมปลักยังหาไม่เจอ ซึ่งตอนนี้เชื่อว่า หลายประเทศคงกำลังคิดค้นวัคซีนอย่างชนิดที่เรียกว่า ตัวเป็นเกลียว หัวเป็นน็อต อะไรทำนองนั้น และถ้าประเทศไทยได้แซงเขาได้ น่าจะมหัศจรรย์ประเทศไทย ประเทศเล็กๆ แต่ว่า มาแรงแซงเขาได้ ก็ต้องเรียกว่า เราไปได้ไกล เราไปได้มากถึงขนาด ต้องเรียกว่า มาแรง มาดี มาเด่น มาดัง ก็ครั้งนี้แหละ

 

เจริญพร


You must be logged in to post a comment Login