วันพฤหัสที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2567

ยุคที่คาดไม่ถึง

On February 18, 2020

คอลัมน์ : สำนักข่าวพระพยอม

ผู้เขียน : พระพยอม กัลยาโณ

(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 18 ก.พ. 63)

ความคิด คาดการณ์ คาดคะเนว่าจะเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ บางทีมันก็ไม่ได้เป็นไปตามที่เราคาดหวัง โดยเฉพาะความคาดไม่ถึงนี่สำคัญมาก อาตมาดูข่าวเมื่อไม่นานมานี้ คำว่าคาดไม่ถึงมี 2 เรื่องใหญ่ๆคือ คาดไม่ถึงว่านักท่องเที่ยวที่เคยมาเที่ยววัดพระแก้ว วัดโพธิ์ จะหายหดไป แม่ค้าเคยขายของได้วันละ 10,000 บาท เหลือแค่วันละ 1,000 บาท นักท่องเที่ยวที่เคยมาเยอะแยะเหลือแค่นิดเดียว

ทัวร์จีนหายหมด 100% หลังจากประธานาธิบดีของจีนสั่งปิดประเทศ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำเอาแม่ค้าแทบจะหัวใจวาย ไม่นึกว่าพิษเศรษฐกิจจากเชื้อไวรัสโคโรนาที่แพร่ระบาดครั้งนี้จะทำให้ข้าวยากหมากแพง กินอยู่แสนสาหัส ลำบากลำบนทนทุกข์ทรมานชนิดที่เรียกว่าคาดไม่ถึงเลย

ตอนนี้เริ่มฉายประกายแห่งความยุ่งยากลำบากของมนุษย์มากขึ้นเรื่อยๆ ความเป็นอยู่ที่ฝืดเคือง โจรผู้ร้ายระบาดมากขึ้น ทำให้นึกได้ว่ายุคใดที่มนุษย์ไร้ศีลธรรม ไม่ประกอบด้วยศีลธรรม เมื่อนั้นหายนธรรม ลามกธรรมต่างๆก็จะเกิดขึ้นอย่างดาษดื่น ตรงกับที่หลวงพ่อพุทธทาสว่า “ศีลธรรมไม่กลับมา โลกาวินาศ” ความวิปริต วิปลาสในยุคนี้มีมากเพราะอะไร ก็เพราะความไร้ศีล ไร้ธรรม ไม่อยู่ในศีล ในธรรมของคน ไปทำลายอะไรต่ออะไรในธรรมชาติ จนธรรมชาติวิปริต วิปลาส ฝนฟ้าไม่ตกต้องตามฤดูกาล ความแห้งแล้งอะไรต่างๆนานาถาโถมเข้ามาชนิดที่ไม่เคยมีมาก่อน คิดไม่ถึงว่ามันจะมาถึงจุดนี้ได้

คำว่าคิดไม่ถึง คาดไม่ถึง เป็นเรื่องสำคัญ ถ้าเรายังไม่คิดตระหนัก ไม่คิดระวัง ความคิดไม่ถึงต่างๆนานาก็จะเกิดบ่อย เกิดถี่ และเรื่องที่คิดไม่ถึง คาดไม่ถึงอีกเรื่องหนึ่งได้แก่ ทหารคลั่งที่ไปไล่ยิงคนในห้างที่ จ.นครราชสีมา ทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 30 ราย และบาดเจ็บจำนวนมาก อันนี้ก็คาดไม่ถึงว่าอยู่ดีๆจะวิปลาส วิปริตอะไรกันมากมายถึงขนาดนี้ “สมคิด พุ่มพวง” หรือ “ไอซ์หีบเหล็ก” ก็ไม่เท่ากับทหารคลั่งคนนี้คนเดียวที่ทำให้คนตายหลายสิบคน ที่สำคัญทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจหน่วยอรินทราช 26 เสียชีวิต 2 คน และบาดเจ็บอีกจำนวนหนึ่ง

หรือกรณีล่าสุดที่มีคนยิงปืน 40 กว่านัดที่จุฬาฯ ซอย 10 ช่วงเวลาเช้ามืด จนประชาชนที่อยู่ละแวกที่เกิดเหตุเกิดความแตกตื่น หวั่นเกรงว่าจะเหมือนโศกนาฏกรรมที่ จ.นครราชสีมา เดชะบุญที่ไม่มีผู้เสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บ พบผู้ก่อเหตุคือ นายเอกชัย จารึกศิลป์ หรือเสี่ยยอด อายุ 48 ปี เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ปทุมวัน และชุดอรินทราช 26 ใช้เวลาเกลี้ยกล่อมนานกว่า 5 ชั่วโมง จนทำให้นายเอกชัยลงมาจากชั้นบนอาคารที่พักเปิดประตูให้ตำรวจเข้าไป และถูกควบคุมตัวไปสอบปากคำที่ สน.ปทุมวันอย่างสงบ โดยไม่มีการใส่กุญแจมือ ตรวจสอบพบว่านายเอกชัยมีอาวุธปืนอยู่ในครอบครองหลายกระบอก แถมมียาไอซ์บรรจุในถุงพลาสติกใสประมาณ 0.39 กรัม และอุปกรณ์การเสพยาไอซ์อยู่ภายในห้องพัก

ในชั้นจับกุมและชั้นสอบสวนผู้ต้องหาให้การปฏิเสธข้อหาพยายามฆ่า ส่วนข้อหาอื่นๆรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา พนักงานสอบสวนได้คัดค้านการขอปล่อยตัวชั่วคราวเนื่องจากคดีมีอัตราโทษสูง แต่ภายหลังฝากขังได้มีญาติผู้ต้องหามายื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เป็นเงินสดจำนวน 350,000 บาท ขอปล่อยตัวชั่วคราว ศาลพิจารณาแล้วอนุญาตปล่อยชั่วคราวได้ แต่มีเงื่อนไขห้ามผู้ต้องหาไปยุ่งเกี่ยวกับอาวุธปืนหรืออาวุธใดๆ รวมทั้งไม่ไปแสดงพฤติการณ์ใดๆที่อาจเป็นอันตรายแก่บุคคลอื่น มิฉะนั้นศาลจะยกเลิกการปล่อยชั่วคราวทันที

ช่วงนี้เกิดเหตุการณ์คาดไม่ถึง คิดไม่ถึงมากมาย เรียกว่าประเทศไทยเกิดวิปริต วิปลาสอย่างต่อเนื่อง อาตมาหวังว่าความวิปริตคงไม่ลามปามจนทำให้มีคนตายไปเรื่อยๆ คนไทยคงได้สำนึกกันแล้วว่า เพราะห่างศีล ห่างธรรม จิตใจก็ตกต่ำ ว้าวุ่น วิปริต จนกลายเป็นจริตวิตก และก็บ้าคลั่งเสียสติ จนทำให้ตัวเองโดนเจ้าหน้าที่ตำรวจวิสามัญเพราะฆ่าคนตายเป็นจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ตำรวจคงไม่ปล่อยให้นักล่าฆ่าลอยนวลอยู่ได้ กลายเป็นว่ายุคนี้เป็นยุคที่เกิดเรื่องคาดไม่ถึงหลายเรื่อง

นึกไม่ถึงว่าคนจะไม่มาเที่ยวแล้วเศรษฐกิจจะห่อเหี่ยวถึงขนาดนี้ได้ และคิดไม่ถึงว่าคนจะคลั่งฆ่าคนได้หลายสิบคนในวันเดียว

อาตมาหวังว่าสังคมไทยคงจะช่วยกันดึงให้ศีลธรรมกลับมา ไม่ปล่อยให้ความวิปริต คิดต่ำ คิดทรามเหล่านี้อยู่ไปได้ยาวนาน ต้องจัดการกันให้อยู่มือโดยเร็ว

เจริญพร


You must be logged in to post a comment Login