วันอังคารที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2567

บทเรียนราคาแพง

On February 12, 2020

คอลัมน์ : สำนักข่าวพระพยอม

ผู้เขียน : พระพยอม กัลยาโณ

(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 12 ก.พ. 63)

การที่รัฐจ่ายเงินทำศพให้กับผู้ที่เป็นเหยื่อกระสุนของทหารโหดคนละหมื่นคนละแสนบาท และเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เสียชีวิตได้เลื่อนยศ เลื่อนชั้นเป็นที่ชัดเจน คนก็เห็นด้วย แต่ก็ตั้งข้อสังเกตว่า คนที่ตายในเหตุการณ์ เช่น นายทหารยศพันเอกที่เป็นผู้บังคับบัญชาของคนที่ยิงคนตาย เป็นต้นเหตุชัดเจนเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน เรื่องนี้ต้องยกย่องคนที่ขุดคุ้ยออกมา

ไม่ว่าจะเป็นคุณวีระ สมความคิด หรือคนอื่นๆที่กำลังทำเรื่องนี้กันอย่างจริงจัง บอกมาว่ามีการกินเบี้ยเลี้ยงอะไรต่างๆ สร้างความคับแค้นให้กับผู้ก่อเหตุเป็นอย่างมาก กดดัน บีบคั้น ทำให้ความอดทนของเขามีขีดจำกัด ท.ทหารอดทน เขาก็อดทนได้ระดับหนึ่ง พอระดับที่เหลือทนคือทนไม่ไหวเลยต้องระบายออกมาอย่างนั้น ผลที่สุดแล้วก็คือคนตาย ญาติคนตายก็ทุกข์กันไป

คนที่น่าจะทุกข์มากที่สุดตอนนี้น่าจะเป็นแม่ทัพภาค 2 หรือผู้ใหญ่ในกองทัพภาค 2 ที่ตกเป็นเป้าวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักว่า เรือนจำยังมีการล็อกประตู ล็อกกลอนทีละชั้น เปิดทีละช่วง แล้วคลังอาวุธที่คนวิพากษ์วิจารณ์กันมากว่าสงครามก็ไม่มีแล้ว ทำไมปล่อยให้มีอาวุธร้ายแรง และยังมีกระสุนอีก ทำให้ผู้บัญชาการทหารบกต้องออกบัญญัติ 4 ประการขึ้นมา

งานนี้ส่วนที่เสียอย่าไปพูดมากมาย ควรพูดส่วนได้บ้างคือ ได้บทเรียนเรื่องการแก้ไข การป้องกัน รู้เท่ารู้ทันมากขึ้น ไม่ใช่เกิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า ไม่ได้ป้องกันแก้ไขอะไรเลย การที่มีผู้เสียชีวิตถึง 30 ศพนี่ มันเป็นบทเรียนราคาแพง ต้องมีการสังคายนาปรับยุทธวิธีกันอย่างเต็มที่

ฝ่ายค้านคงจะหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมาซักฟอกรัฐบาล เรียกว่าเข้าทางพรรคอนาคตใหม่ เพราะเขาก็ต้องหยิบประเด็นนี้ขึ้นมาว่าต้องปฏิรูปกองทัพ อย่าให้กองทัพเป็นแดนสนธยา ไม่มีอะไรที่มันยิ่งใหญ่เท่ากับอำนาจ ตำแหน่ง ผลประโยชน์ ยิ่งเป็นผลประโยชน์ทับซ้อนอย่างเรื่องที่เกิดขึ้น ถ้าเป็นความจริงว่ามีการจัดสรรแบ่งปันกันในวงการทหาร เป็นผลประโยชน์บวกกับอำนาจและตำแหน่ง มันเลยกลายเป็นเรื่องที่เสียหาย

สุดท้ายขอรายงานให้กับประชาชน สาธุชนที่สนใจสอบถามมาว่างานสวนธรรมที่วัดสวนแก้วเป็นยังไง วันแรกคนยังไม่ค่อยมา มามากวันสุดท้ายจนที่นั่งไม่พอ โดยอาจารย์ ว.วชิรเมธี มีแฟนคลับตามมาเยอะมาก และต้องบอกว่าท่านมีน้ำใจมากมาย อาตมาบอกว่าใครจะทำบุญกับท่านให้ท่านไปพัฒนาวัดก็แยกเป็นขันหนึ่ง ใครจะทำบุญกับอาตมาก็อีกขันหนึ่ง ปรากฏว่าคนไปทำบุญกับท่านเจ้าคุณ ว.วชิรเมธีได้ 3 หมื่นกว่าบาท ทำบุญกับอาตมาแค่หมื่นกว่าๆ แต่ท่านก็ไม่เอา ก็ต้องเรียกว่าดีมากๆ เป็นพระที่เห็นแก่พระศาสนาเป็นหลัก ทำประโยชน์มาก และยังมีน้ำใจ ไม่เห็นแก่ได้ ต้องขอชื่นชมท่านว่าเป็นเพชรน้ำหนึ่งของพระพุทธศาสนาอีกรูปหนึ่ง

ญาติโยมที่มาวัดสวนแก้วมาเห็นแล้วไม่นึกว่าจะมีสวนธรรมอันงดงาม มีน้ำตก มีประติมากรรม เป็นที่พออกพอใจของคนเป็นอันมาก เรียกว่าหายเหนื่อยเลยงานนี้ เอาเป็นว่าถ้าญาติโยมมีเวลาก็มาดูมาชมกัน สวนโมกข์เป็นต้นตอก่อให้เกิดสวนธรรม ขอเชิญญาติโยมมาดู มาชม มาศึกษาเรียนรู้ เป็นอุทยานแห่งการเรียนรู้ต่อไป

เจริญพร


You must be logged in to post a comment Login