วันศุกร์ที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2567

“สุทิน” เตรียมขออภิปราย 19 ก.พ. ห่วงรัฐบาลยื้อเวลา

On February 4, 2020

วันนี้ (4 ก.พ. 2563) นายสุทิน คลังแสง ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวถึงกรณีที่วิปรัฐบาลยื่นเรื่องขอให้ประธานสภาผู้แทนราษฎรแก้ญัตติของฝ่ายค้านที่ขออภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลโดยอ้างว่ามีการใช้ถ้อยคำอันเป็นเท็จว่า เรื่องดังกล่าวเป็นการวินิจฉัยของฝ่ายรัฐบาลเองว่าเป็นเท็จ ถือว่าไม่ชอบ ทั้งที่เรื่องนี้เป็นอำนาจการวินิจฉัยของประธานสภา ส่วนตัวไม่เห็นว่าญัตติดังกล่าวเป็นเท็จได้อย่างไร เพราะถ้าคิดว่าเรื่องที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ฉีกรัฐธรรมนูญเป็นเรื่องเท็จ ฝ่ายรัฐบาลต้องเป็นคนบอกมาว่าใครเป็นคนฉีกรัฐธรรมนูญ จะเป็น พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี หรือ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย หรือใคร ซึ่งตนเห็นว่าเป็นความจริง แต่รัฐบาลไม่ยอมรับความจริง

“ผมคิดว่าเป็นเรื่องหยุมหยิม ควรเอาความจริงมาเป็นที่ตั้ง ถ้าเราไม่บอกว่า พล.อ.ประยุทธ์เป็นคนล้มล้างรัฐธรรมนูญก็ไม่รู้จะไปกล่าวหาใคร หรือจะเอานายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ แทน ผมจึงคิดว่าเรื่องนี้ไม่น่าจะเป็นสาระ และเราต้องฟังประธานสภาวินิจฉัยมากกว่ารัฐบาล”

เมื่อถามว่าการใช้คำว่าล้มล้างกับคำว่าฉีกรัฐธรรมนูญคำไหนแรงกว่ากัน นายสุทินกล่าวว่า ที่จริงคำว่าล้มล้างกับฉีกไม่ต่างกัน เพียงแต่คำว่าการฉีกรัฐธรรมนูญเป็นภาษาพูด แต่ล้มล้างเป็นภาษาเขียน ซึ่งความรุนแรงเท่ากัน แต่รัฐบาลไม่ยอมรับความจริง ทั้งนี้ ส่วนตัวไม่อยากคิดว่าเป็นการตีรวน และไม่ต้องการให้เรื่องนี้มาเป็นประเด็น

ต่อข้อถามว่าวิปรัฐบาลระบุว่ายอมไม่ได้หากมีการอภิปรายย้อนหลังไปรัฐบาล คสช. อาจจะมีการป่วนตั้งแต่เริ่มต้น นายสุทินกล่าวว่า คิดว่ารัฐบาลตั้งใจใช้ประเด็นนี้อยู่แล้วเพื่อขัดจังหวะการทำงานของฝ่ายค้าน ซึ่งอยู่ที่การวินิจฉัยของประธานสภาที่นัดประชุมวันที่ 5 กุมภาพันธ์ว่าจะสามารถเท้าความไปได้แค่ไหน ยืนยันว่าเราจะทำตามข้อบังคับและกฎหมาย อย่างไรก็ตาม ต้องดูที่ความผิดพลาดที่เกิดขึ้นว่าเกิดขึ้นจากจุดไหน แล้วต้องมาพิจารณาดูว่าอภิปรายย้อนหลังหรือไปข้างหน้า แต่ถ้าจะให้อภิปรายแต่ข้างหน้าก็เป็นไปไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องของอนาคต ทำให้ต้องมีการอภิปรายย้อนหลังไปถึงช่วง คสช. บ้าง เพราะหลายเรื่องเกิดจากรัฐธรรมนูญ ซึ่งต้องโยงไปถึงจุดตั้งต้นของปัญหา

ส่วนการกำหนดวันอภิปรายที่ฝ่ายรัฐบาลเสนอให้อภิปรายตั้งแต่วันที่ 25-27 กุมภาพันธ์ และลงมติวันที่ 28 กุมภาพันธ์ นายสุทินกล่าวว่า เห็นว่าเป็นความพยายามของฝ่ายรัฐบาลที่จะบล็อกวันอภิปรายให้ชนกับวันปิดสมัยประชุมสภาในวันที่ 28 กุมภาพันธ์นี้ เป็นการบังคับทางอ้อม ถ้าเป็นเช่นนั้นก็จะกดดันทำให้ผิดข้อบังคับและเจตนารมณ์ของการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เพราะตามรัฐธรรมนูญต้องให้ฝ่ายค้านอภิปรายจนครบถ้วน หากอภิปรายตามที่ฝ่ายรัฐบาลกำหนด แล้ววันที่ 28 กุมภาพันธ์อภิปรายไม่จบจะทำอย่างไร ต้องเปิดการประชุมวิสามัญหรือไม่ เพราะถ้าอภิปรายไม่จบก็ปิดไม่ได้ ซึ่งไม่น่าจะต้องใช้วิธีนี้ ดังนั้น ส่วนตัวยังเห็นว่าวันที่เหมาะสมควรจะเริ่มต้นเป็นวันที่ 19 กุมภาพันธ์เรื่อยไป จบเมื่อไรก็เมื่อนั้น หรือจะเร็วกว่านั้นก็ได้ฝ่ายค้านพร้อมตลอด จะเอาวันที่ 10 กุมภาพันธ์ก็ได้ ไม่มีปัญหา


You must be logged in to post a comment Login