วันเสาร์ที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2567

“ธนาธร” แถลง 4 ประเด็นปิดคดีหุ้นวี-ลัค

On November 15, 2019

วันนี้ (15 พ.ย.) ที่พรรคอนาคตใหม่ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ เปิดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนเพื่ออ่านคำแถลงปิดคดีความเป็น ส.ส. สิ้นสุดลงหรือไม่จากกรณีการถือหุ้นบริษัท วี-ลัค มีเดีย จำกัด ซึ่งเป็นเอกสารที่ได้ส่งไปยังศาลรัฐธรรมนูญก่อนที่ศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยชี้ขาดในวันที่ 20 พฤศจิกายน โดยสาระสำคัญของการแถลงข่าวมีด้วยกัน 4 ประเด็นดังนี้

1.บริษัทวี-ลัค มีเดีย เป็นสื่อหรือไม่ โดยนายธนาธรระบุว่า การถือหุ้นที่เป็นประเด็นขึ้นมาเริ่มต้นที่สกลนคร หลังจาก กกต. ส่งเรื่องไปศาลฎีกาให้วินิจฉัยคุณสมบัติความเป็นผู้สมัคร ส.ส.สกลนครของพรรคอนาคตใหม่ โดยคดีนั้นศาลฎีกาพิจารณาที่หนังสือบริคณห์สนธิเป็นหลักว่ากิจการใดเป็นกิจการสื่อมวลชน ถ้ามีวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวกับกิจการสื่อมวลชนถือว่าผิด ตัดสิทธิทันที แต่ในคดีอื่นทำนองเดียวกัน เช่น คดีการถือหุ้นของ ส.ส. ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาเห็นต่างจากศาลฎีกา โดยศาลรัฐธรรมนูญได้พิจารณาจากงบการเงินด้วย

สำหรับบริษัทวี-ลัค ได้ผลิตนิตยสาร WHO ฉบับสุดท้ายเดือนตุลาคม 2559 โดยเป็นผลิตภัณฑ์ของบริษัทวี-ลัค ส่วนหนังสือจิ๊บจิ๊บบริษัทวี-ลัคเป็นแค่ผู้ผลิต ผู้ที่เป็นเจ้าของหนังสือดังกล่าวคือบริษัทนกแอร์ และหนังสือ Wealth บริษัทวี-ลัคเป็นผู้ผลิต ธนาคารไทยพาณิชย์เป็นเจ้าของ บริษัทวี-ลัคปิดกิจการตั้งแต่วันที่ 25 พฤศจิกายน 2561 ยุติการดำเนินการ ไม่มีพนักงาน และไม่มีรายได้ตั้งแต่วันที่ 26 พฤศจิกายน 2561  ดังนั้น บริษัทยุติกิจการไปแล้วและไม่มีผลิตภัณฑ์แล้ว เช่นนี้จะเป็นสื่อมวลชนได้อย่างไร เป็นบริษัทที่ไม่มีการปฏิบัติการใดๆแต่รอการชำระบัญชีเท่านั้น

2.นายธนาธรยังเป็นผู้ถือหุ้นหรือไม่ โดยในคำร้องของ กกต. ระบุว่าตนยังเป็นผู้ถือหุ้นเมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2562 โดยอ้างอิงเอกสารสำเนาบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น หรือแบบ บอจ.5 ที่บริษัทได้แจ้งไว้กับกระทรวงพาณิชย์ แต่การจะดูว่าการเปลี่ยนแปลงหุ้นสำเร็จหรือไม่ต้องพิจารณาตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1129 และ 1141 ดังนั้น ถ้าไม่มีหลักฐานเป็นอื่นหรือมีน้ำหนักพอ ต้องถือว่าธุรกรรมโอนหุ้นสำเร็จตั้งแต่วันที่มีการทำธุรกรรมไปแล้ว คือวันที่ 8 มกราคม 2562

3.การถือหุ้นผิดเจตนารมณ์รัฐธรรมนูญหรือไม่ ซึ่งรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 มาตรา 98 (3) เริ่มมีตั้งแต่รัฐธรรมนูญ 2550 โดยรายงานการพิจารณาของสภาร่างรัฐธรรมนูญในเวลานั้นมีการอภิปรายว่ามาตรานี้มีขึ้นเพราะผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้เข้าแทรกแซงสื่อทั้งทางตรงและทางอ้อม และการที่เป็นเจ้าของสื่อทำให้กลไกการตรวจสอบพิการ ที่สำคัญไปกระทบเสรีภาพของประชาชน

ในประเด็นนี้อยากจะชี้ให้เห็นว่านิตยสารที่ผลิตโดยบริษัทวี-ลัคไม่เคยให้คุณให้โทษในทางการเมืองแม้แต่นิดเดียว นอกจากนี้วันที่นิตยสารปิดตัวลงและไม่มีรายได้แล้วเกิดขึ้นก่อนที่จะมีใครรู้ว่าการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นเมื่อใด โดยพระราชกฤษฎีกาการเลือกตั้ง พ.ศ. 2562 ประกาศใช้เมื่อวันที่ 23 มกราคม  2562 แต่บริษัทปิดไปก่อนหน้านี้แล้ว เราไม่มีเจตนาจะคงบริษัทอยู่ เราปิดก่อนจะมีพระราชกฤษฎีกาการเลือกตั้งด้วยซ้ำ

4.กระบวนการพิจารณาคดีเป็นธรรมหรือไม่ ทั้งนี้ คณะกรรมการสอบสวนของ กกต. กำลังดำเนินการและเรียกพยานมาในวันที่ 22 พฤษภาคม 2562 แต่ปรากฏว่า กกต.ชุดใหญ่ได้ส่งฟ้องศาลรัฐธรรมนูญในวันที่ 16 พฤษภาคม 2562  ทั้งๆที่คณะกรรมการสอบสวนยังพิจารณาไม่เสร็จสิ้น กระบวนการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญเป็นศาลชั้นเดียว แค่เรื่องนี้ก็มีน้ำหนักพอให้ศาลรัฐธรรมนูญยกคำร้องแล้ว

นายธนาธรกล่าวต่อว่า จากทั้ง 4 ข้อ ถ้าถามว่าตนผิดอะไร คำตอบมันไม่ใช่เรื่องหุ้นสื่อ แต่ความผิดของตนคือ การต่อต้านการสืบทอดอำนาจของ คสช. ตนฝันเห็นว่าทุกคนเท่าเทียมกัน มีนิติรัฐ นิติธรรม เราฝันเห็นประเทศไทยที่มีความก้าวหน้า และประเทศไทยที่ไม่มีรัฐประหาร ความฝันเช่นนี้มันเป็นผิดบาปมากนักหรือในประเทศนี้

“เพื่อให้ได้ความฝันนี้เราจึงตั้งพรรคการเมืองขึ้นมาเพื่อมาต่อสู้เรียกร้องความฝันของเราตามระบบ รณรงค์หาเสียงเลือกตั้งตามกฎหมาย ฝันอะไรก็บอกประชาชนอย่างนั้น เมื่อเสร็จสิ้นการเลือกตั้งและผลการเลือกตั้งออกมา เราก็ทำงานการเมืองอย่างสร้างสรรค์ เราสู้ในสภาอย่างภาคภูมิใจ เพื่อให้ประชาชนเห็นถึงความตั้งใจของพรรคในการต่อสู้ในสภา เราต้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญก็รณรงค์อย่างสันติ การตั้งพรรคการเมืองเพื่อสร้างความฝันของเราให้เป็นจริง มันเป็นความผิดบาปมากขนาดนั้นเลยหรือในประเทศนี้

ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญมีอายุเกิน 70 ปี หลายคนผ่านเหตุการณ์รัฐประหารมาแล้วหลายครั้ง ผมเกิดปี 2521 ผ่านเหตุการณ์รัฐประหาร 4 ครั้ง เราจะอยู่ในสังคมอย่างนี้ต่อไปหรือครับ ตอนนี้เป็นเวลาที่ควรจะมาทบทวนประวัติศาสตร์ว่าเกิดอะไรมาบ้างในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา บุคคลต่างๆมีส่วนทำให้สังคมเดินมาถึงจุดนี้ ถึงเวลาที่เราต้องส่งเสียงกันและพาสังคมออกจากจุดนี้ วันนี้สังคมมีความแตกต่างทางความคิด 2 ส่วน ระหว่างการพาประเทศเดินหน้าไปด้วยประชาธิปไตย กับการพาประเทศเดินหน้าไปด้วยระบบอำนาจนิยม คนที่จะตัดสินได้ดีที่สุดควรจะเป็นประชาชนผู้ทรงสิทธิและเสรีภาพในการเลือกอนาคตของประเทศไทยด้วยตัวเอง” นายธนาธรกล่าว

ส่วนผลการตัดสินในวันที่ 20 พฤศจิกายน จะออกมาอย่างไรนั้น นายธนาธรกล่าวว่า ไม่ว่าผลจะเป็นอย่างไรก็พร้อมยอมรับ และไม่มีแผนสำรองใดๆ การลงเล่นการเมืองของตนเองถือว่าไม่มีจุดที่จะกลับตัวแล้ว ที่ผ่านมาตนยอมเล่นตามกติกามาโดยตลอด ทั้งรณรงค์หาเสียง การเลือกตั้ง หากจะแพ้ก็ขอแพ้ตามกติกา พร้อมย้ำว่าคดีนี้ไม่เกี่ยวกับการยุบพรรค เพราะเป็นเรื่องของตนเองคนเดียว ส่วนคนที่กำลังโยงไปสู่การยุบพรรคหมายความว่าไม่เข้าใจเรื่องนี้อย่างชัดเจน


You must be logged in to post a comment Login