วันพุธที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2567

ทาสแมว

On June 21, 2019

คอลัมน์ : ร้ายสาระ

ผู้เขียน : ศิลป์ อิศเรศ

(โลกวันนี้วันสุข ประจำวันที่ 21-28 มิถุนายน 2562 )

นักร้องโอเปร่าชื่อดังเก็บแมวจรจัดมาเลี้ยงในบ้านกว่า 35 ตัว สร้างความเดือดร้อนรำคาญให้กับเพื่อนบ้านจนมีเรื่องมีราวถึงโรงถึงศาล ส่งผลให้เขาตัดสินใจแก้ปัญหาด้วยการย้ายบ้านหนีไปสร้างอาณาจักรแมวแห่งใหม่

อัลเบอร์โต กาสตัน ดี บาสซินี เกิดที่เมืองฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี เมื่อปี 1847 เป็นบุตรของอคิลลี ดี บาสซินี นักร้องเสียงแบริโทน และริต้า กาบัตติ นักร้องเสียงโซปราโน แถมยังมีจูเซปเป แวร์ดี คีตกวีชื่อดังเป็นพ่ออุปถัมภ์ แต่เดิมนั้นพ่อแม่หมายมั่นปั้นมือตั้งใจให้ลูกชายเป็นทหารเรือ

อยู่มาวันหนึ่งนักร้องคนหนึ่งเกิดป่วยกะทันหันก่อนหน้าเปิดการแสดงที่โรงละครเล็กๆแห่งหนึ่งในเมืองเนเปิลส์ หัวหน้าคณะอุปรากรจึงดึงตัวอัลเบอร์โตไปแทนที่ อัลเบอร์โตโชว์พลังเสียงจนเป็นที่ประจักษ์ว่าเขามีพรสวรรค์ไม่ต่างไปจากพ่อและแม่

นับตั้งแต่นั้นมาอัลเบอร์โตก็ได้เป็นหนึ่งในคณะอุปรากรแสดงถวายต่อหน้าพระพักตร์กษัตริย์หลุยส์ที่ 1 แห่งโปรตุเกส พระองค์ทรงพอพระทัยอัลเบอร์โตเป็นอย่างมาก จึงพระราชทานบรรดาศักดิ์แต่งตั้งเป็นอัศวิน ซึ่งต่อมาคนนิยมเรียกเขาด้วยตำแหน่งอัศวินมากกว่าเรียกชื่อของเขา

ปี 1878 อัลเบอร์โตแต่งงานกับเอมม่า หญิงสาวชาวอเมริกัน มีลูกสาวด้วยกันหนึ่งคนชื่อวีร่า ต่อมาในปี 1896 อัลเบอร์โตก็พาครอบครัวมาอาศัยอยู่ในเมืองนิวยอร์ก ประเทศอเมริกา เช่าอพาร์ตเมนต์ 3 ชั้น บนถนนสายที่ 91 เปิดเป็นโรงเรียนสอนเปียโนและร้องเพลงให้กับชนชั้นสูง

ไม่ได้หลับได้นอน

เดือนมิถุนายน 1902 เจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุขปรากฏตัวขึ้นที่บ้านของอัลเบอร์โต แจ้งว่าได้รับการร้องเรียนว่าในบ้านของเขามีแมวจำนวนมากไม่ต่ำกว่า 35 ตัว สร้างความเดือดร้อนรำคาญให้กับเพื่อนบ้าน เมื่อเข้าไปในเขตบ้านก็พบเอมม่ากำลังให้อาหารแมว 17 ตัวที่สนามหญ้าหลังบ้าน และมีแมวอีก 11 ตัวอยู่ในห้องนั่งเล่นและห้องครัว

เอมม่าและวีร่าไม่ได้รักแมวเหมือนกับอัลเบอร์โต แต่เมื่อต้องอยู่ด้วยกันก็จำเป็นต้องไปตามน้ำ อัลเบอร์โตถูกเชิญตัวไปให้ปากคำที่สถานีตำรวจยอร์กวิลล์ เจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุขบอกกับอัลเบอร์โตว่าหากยอมเอาแมวทั้งหมดไปปล่อยเขาจะยอมถอนแจ้งความ

อัลเบอร์โตพยายามสอบถามชื่อผู้ร้องเรียนว่าเป็นใคร แต่เจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุขไม่ยอมบอก อัลเบอร์โตตอบว่าถ้าอย่างนั้นก็แจ้งความไปเลย เพราะเขาอยากรู้ว่าใครกันที่ร้องเรียน และการเลี้ยงแมวมันผิดกฎหมายตรงไหน

“แม้ผมจะอายุมากแล้ว แต่ก็ยังไม่แก่เกินกว่าจะต่อสู้ ผมอยากเจอหน้าคนไร้หัวใจที่ต่อต้าน ห้ามไม่ให้ผมเลี้ยงดูแมวที่น่าสงสารเหล่านี้” อัลเบอร์โตให้การว่าเขามีแมว 6-7 ตัว ทุกครั้งที่คนขายเนื้อสัตว์เอาของมาส่งก็จะมีแมวจรจัดแอบมาด้อมๆมองๆ พวกมันดูหิวโหย แล้วเขาจะใจจืดใจดำไม่แบ่งปันอาหารให้กับพวกมันได้อย่างไร แมวจรจัดเหล่านี้รู้สึกปลอดภัยและอิ่มท้องจึงไม่ยอมไปไหนอีก

จำใจจาก

อัลเบอร์โตยืนยันกับศาลว่าเขาจะไม่ล้มเลิกความตั้งใจที่จะเลี้ยงดูแมวจรจัดและจะยังคงทำต่อไป แต่ถ้าหากศาลตัดสินว่าเขามีความผิดเขาก็จะย้ายบ้านหนีไปอยู่ที่อื่น เมื่อถูกยื่นคำขาดเช่นนี้ อัยการเฟรเดอริก สตีล ผู้ทำหน้าที่โจทก์ตัวแทนผู้ร้องเรียนก็ไม่สบายใจ เพราะอัลเบอร์โตเป็นบุคคลมีชื่อเสียง แถมยังมียศถาบรรดาศักดิ์เป็นถึงอัศวิน จึงต่อรองกับศาลขอให้เลื่อนการพิจารณาคดีออกไปสัก 2-3 สัปดาห์ รอให้อัลเบอร์โตใจเย็นลงก่อน

อัลเบอร์โตรู้สึกหงุดหงิดมากที่ผู้ร้องเรียนไม่ยอมเปิดเผยตัวตน แต่ลึกๆแล้วในใจเขาสงสัยหญิงเพื่อนบ้านคนหนึ่งซึ่งก่อนหน้านี้ไม่นานมีแมวจรจัดตัวหนึ่งนอนป่วยอยู่ที่สนามหญ้าที่บ้านของหญิงคนนี้ เขาจึงมุดรั้วเข้าไปช่วยแมวตัวนั้น เมื่อหญิงเจ้าของบ้านเห็นก็ร้องบอกว่าปล่อยให้แมวมันตายไป อัลเบอร์โตโกรธมากจึงตอบกลับไปว่า “ปล่อยให้คุณตายเหมือนกัน”

ศาลพิพากษาให้อัลเบอร์โตเอาแมวไปปล่อย อัลเบอร์โตจึงลงประกาศในหน้าหนังสือพิมพ์หาคนใจบุญมารับแมวไปเลี้ยง ปรากฏว่ามีคนมากกว่า 100 คนมาขอรับแมวไปเลี้ยง ทำให้อัลเบอร์โตจำหน่ายแมวทั้งหมดไปได้ภายในวันเดียว ยกเว้นตัวที่อารมณ์ร้ายกับลูกแมวเล็กๆ 2 ตัว อัลเบอร์โตบอกกับผู้สื่อข่าวว่า “แมวไปหมดแล้ว และผมก็จะไปด้วยเหมือนกัน”

เกินพอดี

หลังจากเกิดเหตุการณ์อัลเบอร์โตย้ายหนีขึ้นเหนือห่างจากที่อยู่เดิมไป 5 ช่วงตึก แต่ไม่มีบันทึกแน่ชัดว่าเขาย้ายไปเมื่อปีใด อัลเบอร์โตเก็บแมวจรจัดมาเลี้ยงอีกเหมือนที่เคยทำ เมื่อถึงปี 1908 เขาก็มีแมวทั้งหมด 27 ตัว

วันหนึ่งในเดือนตุลาคม 1908 อัลเบอร์โตเดินไปที่ร้านตัดผมของโทนี่ ซาวาเรโต ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านของเขาไปเพียงหนึ่งช่วงตึก พลันก็เห็นลูกแมวสีดำตัวหนึ่งหมกตัวอยู่ในกองเศษผม เขาจึงก้มลงอุ้มลูกแมวขึ้นมาแล้วเปลี่ยนใจไม่ตัดผมเดินกลับบ้านพร้อมลูกแมวทันที

อัลเบอร์โตนำลูกแมวตัวที่ 28 ไปไว้ในห้องใต้ดินรวมกับแมวที่มีอยู่เดิม 27 ตัว วันนั้นนักเรียนร้องเพลงคนหนึ่งกำลังฝึกซ้อมเพื่อเตรียมตัวแสดงอุปรากรรอบสำคัญ เจ้าแมว 27 ตัวเห็นสมาชิกใหม่ที่ไม่คุ้นหน้าก็ขู่คำรามส่งเสียงกลบการซ้อมร้องเพลงของนักเรียน อัลเบอร์โตจึงรู้ตัวว่าเขามีแมวมากเกินพอดีเสียแล้ว อัลเบอร์โตตัดสินใจจำกัดจำนวนแมวให้น้อยลง

อัลเบอร์โตโทรศัพท์ไปยังสำนักหนังสือพิมพ์ แจ้งความลงประกาศหาผู้รับอุปถัมภ์แมว คราวนี้มีคนใจบุญรับแมวไปเลี้ยง 17 ตัว ส่วนที่เหลืออัลเบอร์โตก็เลี้ยงเองต่อไป และดูเหมือนว่าเขาจะนำน้องแมวเหล่านี้กลับอิตาลีไปกับเขาในปี 1915 ปล่อยให้เอมม่าและวีร่าอยู่ในเมืองนิวยอร์กตามลำพังสองแม่ลูก

หลังจากนั้นก็ไม่มีข่าวคราวของอัลเบอร์โตอีกเลย ไม่มีใครรู้ว่าเขาเสียชีวิตในปีใด เหลือไว้แต่เพียงวีรกรรมการช่วยเหลือแมวจรจัดเมื่อครั้งที่ใช้ชีวิตอยู่ในกรุงนิวยอร์ก

 

1

1.อัลเบอร์โต กาสตัน ดี บาสซินี

2

2.อคิลลี ดี บาสซินี

3

3.ถนนสายที่ 91 ตัดกับฟิฟท์อเวนิว ย่านคนชั้นสูง

4

4.โรงนาบนถนนสายที่ 96 ตัดกับเมดิสันเมื่อปี 1891

5

5.สถานีตำรวจยอร์กวิลล์

6

6.พาดหัวข่าวอัศวินกับแมวจรจัด

7

7.วีร่า ดี บาสซินี

8

8.หนึ่งในแมวของอัลเบอร์โต

9

9.ประกาศหาคนอุปถัมภ์แมวปี 1908

10

10.พาดหัวข่าวอัลเบอร์โตกำจัดแมวตามคำสั่งศาลปี 1902


You must be logged in to post a comment Login