- ฝึกต้อนรับให้ดีจะมีสิ่งที่ดีPosted 1 day ago
- ต้องกวาดล้างสิ่งสกปรกPosted 2 days ago
- อย่าเอายศไปทำความอัปยศPosted 6 days ago
- แนะพระอย่าลืม 4 รักPosted 1 week ago
- ยิ้มไว้ไม่ทุกข์สนุกดีPosted 1 week ago
- กวาดล้างพวกขี้เหล้า-เมายาPosted 1 week ago
- ฟังกันบ้างPosted 2 weeks ago
- เป้าหมาย “สงกรานต์”Posted 2 weeks ago
- ตำรวจน้ำดียังมีPosted 2 weeks ago
- อุทาหรณ์ลูกเนรคุณPosted 2 weeks ago
รอเวลารุกฆาต
คอลัมน์ : โลกวันนี้มีประเด็น
(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 19 มิ.ย.62)
ความพิสดารของกติกาเป็นตัวเร่งอย่างหนึ่งให้เกิดการต่อต้านกลุ่มอำนาจในปัจจุบันที่นับวันจะมีเรื่องพิลึกที่เกิดจากกติกาอันบิดเบี้ยวเกิดขึ้นให้เห็นเรื่อยๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้อำนาจของ “ลุงตู่” ในฐานะนายกฯคนใหม่ที่ยังไม่มีอำนาจประชุมสั่งการใดๆ เพราะยังไม่ได้เข้าเฝ้าฯถวายสัตย์ ยังไม่ได้นำคณะรัฐมนตรีชุดใหม่แถลงนโยบายต่อสภา แต่กลับทำงานร่วมกับคณะรัฐมนตรีชุดเก่าตามปกติ อย่างไรก็ตาม เชื่อว่ามีหลายฝ่ายจองกฐินเอาไว้แล้ว แต่ยังต้องรอจังหวะที่เหมาะสมในการเดินเกมรุกฆาต
จำได้ว่าเมื่อไม่นานมานี้เคยเขียนถึงความพิลึกของรัฐธรรมนูญที่เขียนปูทางหวังให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) สืบทอดอำนาจอย่างไร้รอยต่อ
ประเด็นที่เคยติงเอาไว้คือกรณีที่ “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. ได้รับการโหวตเลือกจากที่ประชุมรัฐสภาให้เป็นนายกรัฐมนตรีต่อสมัยที่สอง
หลังจากนั้นไม่นานก็มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯแต่งตั้งให้ “ลุงตู่” เป็นนายกรัฐมนตรีตามมติของที่ประชุมรัฐสภา ซึ่งก็เป็นไปตามขั้นตอนกฎหมายปกติ
ที่ท้วงติงคือกรณีเมื่อ “ลุงตู่” ได้รับการโปรดเกล้าฯเป็นนายกฯใหม่แล้ว แสดงว่า “ลุงตู่” ในฐานะนายกฯคนเก่ามีอันหมดวาระลง
แต่คณะรัฐมนตรีที่สังกัดรัฐบาล “ลุงตู่” เก่า ไม่หมดสภาพตามไปด้วย กติกาพิสดารยังให้ปฏิบัติหน้าที่ได้ตามปกติต่อไป
เมื่อเป็นอย่างนี้ความพิลึกพิลั่นทางกฎหมายก็บังเกิดอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
“ลุงตู่” ในฐานะนายกฯใหม่ ร่วมประชุมสั่งงานกับคณะรัฐมนตรีชุดเก่าที่ควรจะพ้นวาระไปแล้ว
เท่านั้นยังไม่พอ แม้ “ลุงตู่” จะได้รับการโปรดเกล้าฯแต่งตั้งเป็นนายกฯรอบสองแล้ว แต่ตามหลักปฏิบัติยังไม่สามารถเรียกประชุมหรือสั่งงานอะไรได้ เพราะยังไม่ได้เข้าเฝ้าฯถวายสัตย์ปฏิญาณ และยังไม่ได้นำคณะรัฐมนตรีใหม่แถลงนโยบายต่อสภา
แต่ “ลุงตู่” ในฐานะนายกฯใหม่ยังใช้อำนาจประชุมสั่งการกับคณะรัฐมนตรีชุดเก่าตามปกติ
จึงถือเป็นความพิสดารของการใช้อำนาจที่ไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ปกติที่เคยปฏิบัติกันมา
นี่ถ้าคนใช้อำนาจไม่ได้ชื่อ “ลุงตู่” คงมีคนไปร้องเรียนองค์กรต่างๆให้ตรวจสอบการใช้อำนาจแล้วว่าถูกต้อง ทำได้ หรือไม่
แต่เมื่อคนใช้อำนาจชื่อ “ลุงตู่” ก็ดูเหมือนว่าไม่มีใครอยากตรวจสอบความถูกต้อง ทั้งนี้ อาจเป็นเพราะรู้คำตอบดีอยู่แล้วว่าจะออกมาอย่างไรจึงไม่อยากร้องเรียนให้เสียเวลา เพราะฝ่ายคุมอำนาจมีเนติบริกรเก่งๆหลายคนช่วยแถเรื่องกฎหมายให้เกิดความถูกต้องได้
ที่สำคัญหากจนแต้มจริงๆก็ยังงัดอำนาจมาตรา 44 มาช่วยไม่ให้ถูกน็อกคาเวทีได้
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าฝ่ายที่ไม่เอา คสช. ตอนนี้ล้วนแต่รอจังหวะที่เหมาะสมในการเดินเกมรุกฆาตต้อน คสช. ให้ตกจากกระดานอำนาจ ซึ่งก็น่าจะเกิดขึ้นในไม่ช้าไม่นานนับจากนี้
You must be logged in to post a comment Login