วันเสาร์ที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2567

ปีช้าง

On February 28, 2019

คอลัมน์ สันติธรรม
ปีช้าง
โดย บรรจง บินกาซัน
(โลกวันนี้วันสุข 1-8 มีนาคม 2562)

อาณาจักรไบแซนตินและอาณาจักรเปอร์เซียเป็น 2 มหาอาณาจักรใหญ่ที่ทำสงครามแย่งชิงความเป็นใหญ่กันมานาน โดยเฉพาะดินแดนเหนือคาบสมุทรอาหรับ ซึ่งประกอบด้วยซีเรีย ปาเลสไตน์ จอร์แดน และเลบานอน เป็นดินแดนที่ต่างฝ่ายต่างผลัดกันครอบครอง ชาวอาหรับเรียกดินแดนนี้ว่าอัชชาม

นอกจากนี้แล้ว 2 มหาอาณาจักรใหญ่ยังพยายามแผ่อิทธิพลเข้ามาใน 2 ข้างคาบสมุทรอาหรับอีกด้วย อาณาจักรไบแซนตินแผ่อิทธิพลลงมาทางฝั่งแอฟริกาตะวันออก และให้การอุปถัมภ์ชาวคริสเตียนที่อาศัยอยู่ในแคว้นนัจญ์รอนทางตอนใต้ของคาบสมุทรอาหรับ โดยผ่านทางอาณาจักรอักซุมที่มีอาณาเขตกินดินแดนในประเทศอบิสสิเนียและเอริเทรียในปัจจุบัน
abraha invasion
ส่วนอาณาจักรเปอร์เซียแผ่อิทธิพลทางด้านตะวันออกและเลยลึกเข้ามาทางใต้ของคาบสมุทรอาหรับ มีชาวอาหรับบางกลุ่มได้รับอิทธิพลทางความเชื่อของชาวเปอร์เซียที่นับถือศาสนาบูชาไฟ และคนกลุ่มนี้พยายามที่จะบีบบังคับให้ชาวคริสเตียนหันมานับถือศาสนาเหมือนพวกตน ใครที่ไม่ยอมละทิ้งความเชื่อของตนจะถูกกดขี่ข่มเหง

ด้วยเหตุนี้ชาวคริสเตียนจึงส่งตัวแทนข้ามทะเลแดงไปขอความช่วยเหลือต่อกษัตริย์เนกุสผู้ปกครองอาณาจักรอักซุมซึ่งเป็นชาวคริสเตียน หลังจากฟังเรื่องราวร้องทุกข์ของชาวคริสเตียนที่ถูกกดขี่ข่มเหงและประเมินกำลังของตนเองแล้ว กษัตริย์เนกุสได้ขอความช่วยเหลือไปยังจักรพรรดิไบแซนติน และได้รับความช่วยเหลือทางทหารในรูปของกองเรือจำนวนหนึ่ง

เมื่อได้รับเรือมาแล้วกษัตริย์เนกุสได้ให้นายทหาร 2 คน คุมกองเรือข้ามทะเลแดงมาปราบปรามผู้กดขี่ข่มเหงชาวคริสเตียนจนราบคาบ

เสร็จภารกิจช่วยเหลือแล้ว อารยาตแม่ทัพคนหนึ่งต้องการนำกองทัพกลับไปยังอาณาจักรอักซุม แต่อับรอฮะแม่ทัพอีกคนหนึ่งไม่เห็นด้วย ทั้งสองเกิดความขัดแย้งกันจนอารยาตถูกสังหาร อับรอฮะจึงตั้งตัวเป็นกษัตริย์ปกครองดินแดนที่เป็นประเทศเยเมนในปัจจุบัน

ขณะที่เป็นผู้ปกครองดินแดนทางใต้ของคาบสมุทรอาหรับ อับรอฮะสังเกตเห็นว่าทุกปีจะมีกองคาราวานขนาดใหญ่เดินทางขึ้นเหนือไปยังมักก๊ะฮฺ อับรอฮะถามเสนาบดีของตนว่าที่มักก๊ะฮฺมีอะไรสำคัญที่ทำให้ผู้คนต้องไปที่นั่นทุกปี

เมื่อทราบว่าที่มักก๊ะฮฺมีก๊ะอฺบ๊ะฮฺที่ชาวอาหรับไปเวียนรอบในเทศกาลทำฮัจญ์ อับรอฮะจึงได้ความคิดว่าถ้าเขาสร้างวิหารศักดิ์สิทธิ์ที่สวยงามและใหญ่กว่าก๊ะอฺบ๊ะฮฺ และส่งตัวแทนไปเรียกร้องให้ชาวอาหรับมาทำฮัจญ์ที่วิหารของเขา อาณาจักรของเขาต้องมั่งคั่งและมีชื่อเสียงอย่างแน่นอน

เขาได้สั่งให้สร้างวิหารที่ใหญ่กว่าและสวยงามกว่าก๊ะอฺบ๊ะฮฺ และถึงแม้เขาจะเชิญชวนชาวอาหรับให้มาทำฮัจญ์ที่วิหารของเขา แต่ไม่มีใครมา เพราะชาวอาหรับรู้ว่าสถานที่ทำฮัจญ์อยู่ที่มักก๊ะฮฺเท่านั้น

เมื่อใช้วิธีการเชิญชวนไม่สำเร็จ อับรอฮะจึงคิดทำลายก๊ะอฺบ๊ะฮฺที่เป็นคู่แข่งกับวิหารศักดิ์สิทธิ์ของเขา เขากรีธาทัพขึ้นเหนือมายังมักก๊ะฮฺโดยมีช้างศึกนำหน้ากองทัพมา

เมื่อกองทัพของอับรอฮะเข้าใกล้มักก๊ะฮฺจนมองเห็นก๊ะอฺบ๊ะฮฺ ชาวเมืองมักก๊ะฮฺต่างตกใจเพราะไม่เคยเห็นช้างมาก่อน จึงพากันวิ่งหนีขึ้นภูเขาเพื่อเฝ้าดูเหตุการณ์ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับบ้านเมืองของตน

อับรอฮะสั่งควาญช้างของเขาให้เดินหน้าไปยังก๊ะอฺบ๊ะฮฺ แต่ช้างทุกตัวไม่ยอมทำตามคำสั่งไม่ว่าควาญช้างจะใช้วิธีการอย่างไรก็ตาม เมื่อช้างไม่ยอมทำตามคำสั่ง อับรอฮะจึงสั่งให้ทหารของตนเดินเท้าเข้าไปเพื่อทำลายก๊ะอฺบ๊ะฮฺ แต่ยังไม่ทันจะถึงจุดหมาย ชาวมักก๊ะฮฺต่างพากันประหลาดใจเมื่อได้เห็นฝูงนกขนาดใหญ่ซึ่งไม่มีใครเคยเห็นมาก่อนบินอยู่เหนือท้องฟ้า

คัมภีร์กุรอานเล่าว่านกฝูงนั้นได้โปรยหินลงมาใส่กองทัพของอับรอฮะ ทหารคนใดโดนก้อนหินที่นกโปรยมา ผิวหนังของคนนั้นจะมีสภาพเหมือนใบไม้ที่ถูกหนอนกัดกิน เมื่อตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้กองทัพของอับรอฮะจึงต้องถอยทัพกลับไปด้วยความพ่ายแพ้อย่างยับเยิน

หลังจากกองทัพของอับรอฮะพ่ายแพ้กลับไปได้ไม่นาน นบีมุฮัมมัดได้ถือกำเนิดขึ้นในปีนั้น ด้วยเหตุนี้เมื่อมีใครถามว่านบีมุฮัมมัดเกิดในปีอะไร ชาวอาหรับจะตอบว่าปีช้าง เพราะในเวลานั้นชาวอาหรับยังไม่มีปฏิทินของตนเอง


You must be logged in to post a comment Login