วันศุกร์ที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2567

“ประชาชนไม่กลัวแล้ว!” สัมภาษณ์- วีระ สมความคิด โดย ประชาธิปไตย เจริญสุข

On January 1, 2018

คอลัมน์ : ฟังจากปาก

สัมภาษณ์โดย  : ประชาธิปไตย เจริญสุข

วีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชัน เตือนหาก “พล.อ.ประยุทธ์” ไม่ปลด “พล.อ.ประวิตร” และ ป.ป.ช. จะฟอกขาวให้อีก ประชาชนไม่เอาแน่ ความชอบธรรมของรัฐบาล คสช. จะหมดไป จะถูกประชาชนออกมาขับไล่ ประชาชนต้องเป็นฝ่ายตรวจสอบ ไม่ใช่มาตรวจสอบและข่มขู่คุกคามประชาชน

+++++

สถานการณ์วันนี้รัฐบาลคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พยายามรักษาอาการว่าไม่สะทกสะท้าน ไม่หวั่นไหว ไม่สนใจ ทั้งที่อยู่ในสภาพกระอักเลือดมากแล้ว ผมเชื่อว่าถ้ามีการเปิดเผยความไม่ชอบมาพากลรัฐบาลไปเรื่อยๆคงเก็บอาการไม่อยู่ ถ้า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ไม่ตัดใจปลด พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ออก ความชอบธรรมของรัฐบาล คสช. จะหมดไปไม่มีเหลือเลย จะถูกประชาชนออกมาขับไล่ เพราะประชาชนคงรับไม่ได้แล้ว เมื่อรัฐบาล คสช. ไม่แสดงความรับผิดชอบ ไม่มีความโปร่งใสก็อยู่ต่อไปไม่ได้ ถ้าประชาชนไม่เชื่อมั่น คุณจะไปอ้อนวอน ไปร้องขอ หรือเอาปืนไปขู่เขา ประชาชนก็ไม่เอาด้วย ผมเชื่อว่านาทีนี้ประชาชนที่รับไม่ได้มีมากขึ้นเรื่อยๆ และขอฟันธงเลยว่า พล.อ.ประวิตรไม่รอด ซึ่งยังพบว่ามีนาฬิกาอีกหลายเรือนที่ไม่ได้แจ้งกับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีการประเมินราคาว่าไม่ต่ำกว่า 20 ล้านบาท ซึ่งเข้าข่ายร่ำรวยผิดปรกติแล้ว นี่เฉพาะนาฬิกาหรูราคาแพงระยับเท่านั้น ยังไม่นับเครื่องประดับราคาแพงอีกมากมาย เช่น แหวนเพชรที่เคยใส่โชว์สาธารณะ หรือพระเครื่อง พระบูชาที่ไม่เปิดเผย ทราบมาว่ามีอยู่ไม่น้อยทีเดียว

ทรัพย์สินที่ พล.อ.ประวิตรไม่แจ้งต่อ ป.ป.ช. ตามกฎหมาย เข้าข่ายจงใจปกปิดบัญชีทรัพย์สิน เฉพาะนาฬิกา 9 เรือนที่เป็นข่าวจะอ้างว่าเพื่อนให้ยืมมาคงรับฟังไม่ได้แล้ว ถ้า ป.ป.ช. เชื่อก็แสดงว่า ป.ป.ช. เองก็พร้อมติดคุก นอกจากความผิดฐานปกปิดทรัพย์สินแล้ว ยังมีความผิดฐานร่ำรวยผิดปรกติอีกด้วย หลักฐานและพฤติกรรมประจักษ์ชัดขนาดนี้ และประชาชนจับตามองแทบไม่กะพริบ หากมีเจ้าหน้าที่รัฐผู้ใดเข้าไปช่วยเหลือผู้กระทำความผิด เจ้าหน้าที่รัฐผู้นั้นก็ต้องมีความผิดด้วย เรื่องนี้ไม่มีใครไปกลั่นแกล้งใส่ความ ซึ่งสวนทางกับสิ่งที่ พล.อ.ประยุทธ์พูด

พล.อ.ประยุทธ์พยายามทำให้สังคมเชื่อว่าจะเข้ามาปราบโกง จะปฏิรูปประเทศ แต่ที่ผ่านมาไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลย ชูรัฐธรรมนูญฉบับปราบโกงจนประชาชนลงประชามติรับร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ แต่ตลอดเวลาที่ผ่านมาก็มีเรื่องฉาวโฉ่ของรัฐมนตรีและคนใกล้ชิดตลอดเวลา ทั้งยังออกมาปกป้องช่วยเหลืออีก พล.อ.ประยุทธ์พูดตลอดในรายการคืนวันศุกร์ว่าจะจัดการคนโกง จะไม่ยอมให้มีการโกงกันอีกต่อไป ถ้าใครโกงก็ให้ออกไป จะหนีออกนอกประเทศก็หนีไป

เมื่อวันที่ 9 ธันวาคมที่ผ่านมาซึ่งเป็นวันต่อต้านคอร์รัปชันสากล พล.อ.ประยุทธ์ก็ออกมาประกาศว่าจะไม่อยู่ร่วมกับคนโกงอีกต่อไป เรียกร้องให้ช่วยกันจัดการกับคนโกง แต่พอมีข่าว พล.อ.ประวิตร พล.อ.ประยุทธ์กลับออกมาปรามตั้งแต่นาฬิกาเรือนแรกว่า “จะเอาเป็นเอาตายอะไรกันนักกันหนา ลดราวาศอกกันบ้าง”

พล.อ.ประวิตรก็นิ่งเงียบ แทนที่จะรีบเอาหลักฐานออกมาแสดงว่าตัวเองบริสุทธิ์ ซึ่งคนทั่วไปหากโดนแบบนี้ต้องรีบแสดงความบริสุทธิ์ ไม่ใช่นิ่งเงียบ หรือปล่อยข่าวผ่านคนใกล้ชิดว่าแหวนแม่ นาฬิกาเพื่อน แต่ทำไมแหวนรูปทรงเหมือนแหวนผู้ชาย หรือนาฬิกาเรือนที่บอกว่ายืมเพื่อน ตอนแรกสังคมก็อาจลังเล แต่ตอนนี้มันโผล่มาตั้ง 9 เรือน ตกลงไปยืมเพื่อนคนไหน หรือมีเพื่อน 9 คน เพื่อนของ พล.อ.ประวิตรคงใจดีมากที่ให้ยืมนาฬิการาคาสุดแพง ไม่ใส่เองแต่ให้ พล.อ.ประวิตรยืมใส่ มีมั้ยในโลกนี้

ประชาชนไม่ไว้ใจรัฐบาล

ถ้าเป็นอย่างนี้ไม่ไหวแล้ว มีข่าวเรื่องการทุจริตคอร์รัปชันเกิดขึ้นตลอดแต่ไม่เคยจัดการอย่างจริงจังจริงใจเลย ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นที่ประชาชนมีต่อรัฐบาล คสช. แน่นอน ประชาชนที่มีการศึกษาเขาคิดเป็น วันนี้เขาคงรับไม่ได้แล้ว ไม่ไว้ใจที่จะให้บริหารต่อแล้ว แต่คุณอยากจะอยู่ต่อเพื่อปฏิรูปประเทศไปอีก 20 ปี ถามว่าถ้าเปรียบเทียบระหว่างรัฐบาล คสช. กับรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ปัญหาทุจริตคอร์รัปชันต่างกันหรือไม่ ปริมาณการโกงมันวัดกันยากว่ารัฐบาลไหนโกงมากกว่ากัน แต่การโกงยังมีอยู่มาก ต่างกันเพียงรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งไม่สามารถใช้อำนาจอิทธิพลคุกคามข่มขู่ประชาชนเท่ากับรัฐบาลเผด็จการทหาร

รัฐบาลทหารมีมาตรา 44 สามารถเอาคนไปปรับทัศนคติและข่มขู่ อย่างที่ พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก พูดชัดเจนเลยว่า สื่อโซเชียลมีเดียที่มีลักษณะยุยงปลุกปั่นอะไรต่างๆอาจต้องตัดไฟแต่ต้นลมด้วยการเชิญมาปรับทัศนคติ ผมอยากให้ทหารบอกมาเลยว่า ข้อความใดที่เรียกว่ายุยง คนที่ออกมาตรวจสอบ พล.อ.ประวิตรตอนนี้ ช่วยกันหาข้อมูลอะไรอย่างนี้ คุณไปขู่อะไรเขา นาทีนี้เขาไม่กลัวแล้ว มีแต่จะเดินหน้าแฉต่อไป สำหรับผมไม่กลัวมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว ทหารไม่อยู่ในสายตาผม คุณเข้ามาก็ผิดกฎหมาย คุณทำรัฐประหารแล้วมาออกกฎหมายนิรโทษกรรมตัวเองล่วงหน้าอีก ตรงนี้ต่างหากที่บ่งบอกอยู่แล้วว่าเป็นกบฏ ซึ่งมีโทษถึงประหารชีวิต ประมวลกฎหมายอาญาก็ยังมีอยู่

การปกครองระบอบประชาธิปไตยมีทั้งกฎหมายรัฐธรรมนูญและกฎหมายอาญา คุณได้อำนาจมาก็ผิดแล้ว ผมถึงบอกว่าผมไม่กลัวหรอกพวกที่ได้อำนาจมาโดยผิดกฎหมาย ผมไม่ก้มหัวให้หรอก ประชาชนต้องเป็นฝ่ายตรวจสอบ ไม่ใช่มาตรวจสอบประชาชน จะมาข่มขู่คุกคามประชาชน ที่จริงคุณมาผิดนะ ถ้าจำเป็นจริงๆจะทำเพื่อบ้านเมืองจนยอมทำผิดกฎหมาย ยอมเสี่ยงตาย แล้วคุณเข้ามาทำแต่สิ่งที่ดี ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงแบบพลิกโฉมเลย อย่างนั้นคนเขายังพอรับได้ บอกได้ทั้งโลกว่าคุณเสี่ยงตายเพื่อรักษาประเทศ รักษาระบอบการปกครอง รักษาความถูกต้องชอบธรรม จัดการกับนักการเมืองที่ทุจริตคดโกงจนบ้านเมืองเสียหาย จัดการแม้กระทั่งพวกพ้องที่คอร์รัปชัน

ถ้าทำได้อย่างนี้ใครจะไปรังเกียจคุณ แต่ทุกวันนี้คุณไล่จับไล่ดำเนินคดีกับทุกสีทุกฝ่าย อ้างว่าใครทำผิดต้องลงโทษเฉียบขาด ผมขอบอกว่าคุณก็ต้องเข้ากระบวนการ เพราะคุณเข้ามาโดยผิดกฎหมาย พ้นจากอำนาจเมื่อไรคุณโดนแน่ เขาล่อคุณแน่ เพราะอายุความยังไม่หมด

สภาพของรัฐบาลทหาร

การแสดงออกของ พล.อ.ประยุทธ์และผู้บัญชาการทหารบก ผมคิดว่าเป็นอาการกลัว ถ้าคุณไม่หวั่นไหวจริงคุณจะมาแสดงอาการเหล่านี้ทำไม คุณเริ่มหวั่นไหว กลัวพลังประชาชน กลัวประชาชนจะลุกขึ้นมาขับไล่ถึงต้องใช้ไม้นี้ ผมขอบอกว่าประชาชนไม่กลัวแล้ว ถ้าฟางเส้นสุดท้ายขาดเมื่อไร แม้องค์กรตรวจสอบอย่าง ป.ป.ช. จะฟอกขาวให้อีกคราวนี้จบแน่ ตอนนี้รอเพียงว่าใครจะเป็นคนนำประชาชนออกมาเคลื่อนไหว ปัญหาอยู่แค่นี้ หากมีผู้นำที่เขาเชื่อเขาก็จะออกมา ผมก็รออยู่ว่าถึงเวลานั้นใครจะเป็นคนนำคนแรก

เรื่องความชอบธรรมอยู่ที่รัฐบาลทำตัวเอง ไม่มีใครไปแกล้ง สะดุดขาตัวเอง ประชาชนจะออกมาขับไล่ ออกมาเต็มถนน แม้รัฐบาล คสช. จะมีมาตรา 44 ก็ไม่เป็นไร คุณอย่าลืมว่าประชาคมโลกก็จับตาดูอยู่ คุณจะฆ่าประชาชนที่ออกมาขับไล่หรือ ไม่ใช่เขาออกมาขับไล่เพราะคุณเป็นคนดี ทำถูกกฎหมาย แต่เขาออกมาเพราะเรื่องการทุจริตคอร์รัปชันที่เขารับไม่ได้ อำนาจที่คุณยึดไปจากประชาชน ประชาชนก็ไม่ได้ให้ ยิ่งถ้าคุณฆ่าประชาชนศพแรก คุณก็จบแล้ว พังทันทีเลย บทเรียนในอดีตมีมาไม่รู้เท่าไรแล้ว ปี 2561 ต้องจับตาสถานการณ์นี้อย่างใกล้ชิด

ถ้า พล.อ.ประวิตรยังอยู่ต่อ

ก็บอกแล้วไง ก็จะไปเร็ว ไปกันทั้งหมด ถ้า พล.อ.ประยุทธ์ให้ พล.อ.ประวิตรออกตอนนี้ รัฐบาล คสช. ก็คงจะอยู่ต่อได้อีกสักพักหนึ่ง แต่แค่พักเดียวนะ เพราะต้องขึ้นอยู่กับปัจจัยอีกหลายอย่าง คือคุณจะต้องกลับเนื้อกลับตัว ต้องเดินหน้าทำสิ่งที่ถูกต้องชอบธรรม ทำสิ่งที่เป็นประโยชน์จริงๆ คุณก็อาจอยู่ต่อได้ แม้ไม่มี พล.อ.ประวิตร แต่ถ้ายังมีการทุจริตคอร์รัปชันอีกคุณก็จอดอยู่ดี การปราบคอร์รัปชันของรัฐบาล คสช. ล้มเหลวโดยสิ้นเชิง ทั้งที่ตัวเองมายึดอำนาจก็อาศัยเงื่อนไขเรื่องการทุจริตคอร์รัปชัน อ้างปราบโกง แต่ปราบแต่อดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เต็มที่เลย ซึ่งเราก็เห็นด้วย ใครโกงก็ต้องปราบให้สิ้นซาก แต่คุณไม่มีสิทธิโกง

ปี 2561 จะมีเลือกตั้งหรือไม่

ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง สิ่งที่เขากำลังทำอยู่ก็เป็นปัจจัยสำคัญอันหนึ่ง อย่างที่บอกถ้าอยากอยู่ต่อคือต้องมีการเลือกตั้งตามโรดแม็พที่รับปากไว้กับประชาคมโลก นอกจากนี้เขาต้องตัดสินใจว่าหากจะอยู่ต่ออยู่นานก็จะต้องถูกเปิดโปงต่อไป ความชอบธรรมยังมีอยู่หรือไม่ คะแนนจะเหลือแค่ไหน ผมเชื่อว่าถ้าสถานการณ์ยังเป็นอย่างนี้ เขาจะต้องรีบให้มีการเลือกตั้งเมื่อยังได้เปรียบอยู่ อย่างที่ใช้มาตรา 44 แก้กฎหมายพรรคการเมือง ตรงนี้สะท้อนให้เห็นว่าเขาต้องรีบให้มีการเลือกตั้ง เพราะรู้ว่ายิ่งนานยิ่งพัง ต้องเผชิญกับวิกฤตศรัทธามากขึ้นเรื่อยๆ แต่หากการเลือกตั้งเลื่อนออกไปอีกก็ต้องดูว่ารัฐบาล คสช. จะเอาอะไรมาอ้าง ถ้ารับไม่ได้ก็เจอแน่ เรียกว่าสถานการณ์ขณะนี้โดนทั้งขึ้นทั้งล่อง

พล.อ.ประยุทธ์จะเป็นนายกฯคนนอก

ก็ต้องดูว่าถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆแสดงว่าโรดแม็พไม่ใช่โรดแม็พเพื่อให้เกิดการโปร่งใส การปฏิรูปประเทศก็เพื่อสืบทอดอำนาจต่อ เพื่อจะแสวงหาผลประโยชน์ให้กับตัวเองและพวกพ้องหรือไม่ จะเร่งให้เกิดวงจรอุบาทว์เร็วขึ้น ซึ่งผมพยากรณ์ไว้เลยว่าการรัฐประหารจะเกิดขึ้นอีก การฉีกรัฐธรรมนูญต้องเกิดขึ้นอีก ผมฟันธงว่าภายในไม่กี่ปีหรอก ตรงนี้อาจเป็นเงื่อนไขที่เขาวางหมากไว้เองก็ได้ อนาคตของประเทศจะยังมืดมนอย่างนี้ต่อไป ไม่มีความหวัง แต่แสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ยังมี ขึ้นอยู่กับประชาชนนั่นแหละที่จะเป็นคนถือคบไฟเอง

ผมขอย้ำว่าจะมีการปฏิวัติรัฐประหารขึ้นอีกแน่นอนถ้าหากยังพยายามจะสืบทอดอำนาจโดยผู้มีอำนาจชุดนี้ พูดกันชัดๆตรงๆไปเลย ไม่ต้องอ้อมค้อม ผมอยากฝากประชาชนว่า อำนาจเป็นของเรา อำนาจจริงๆไม่มีใครมาแย่งจากเราไปได้ เรายังมีสิทธิมีเสียงอยู่ทุกคน ตรงนี้ไม่มีใครมาทำอะไรเราได้หรอก เพียงแต่วันนี้เรากลัวว่าจะได้รับผลกระทบต่างๆ มันเป็นเรื่องปรกติของมนุษย์ทุกคนที่ต้องกลัวอำนาจเถื่อน อิทธิพลเถื่อน เพราะอำนาจทุกวันนี้มันเถื่อนทั้งนั้น ไม่ถูกกฎหมาย เพราะอำนาจที่ยึดไปจากเรา เอาอาวุธที่มาจากภาษีอากรของเรามาข่มขู่ มาทำให้เรากลัว ถ้าประชาชนลุกขึ้นมาพร้อมๆกัน มือเปล่าเดินออกจากบ้านมากันเป็นแสนเป็นล้านคน อยู่ไม่ได้หรอก เมื่อถึงวันนั้นวันที่เขาหมดความชอบธรรมแล้ว ประชาชนออกมาแน่ เผด็จการต้องพ่ายแพ้ในที่สุด

อำนาจอยู่กับประชาชน แย่งไปไม่ได้หรอก ที่แย่งไปคือความรู้สึกของเราเท่านั้นเอง จิตวิญญาณยังเป็นของเราอยู่ อำนาจก็ยังเป็นของเรา ถ้าเราไม่ยอมให้เขามาบงการจิตวิญญาณเราได้ เมื่อรัฐบาลหมดความชอบธรรมและมีคนที่ประชาชนเชื่อมั่นออกมา คิดดูว่าประชาชนจะออกมาขนาดไหน อำนาจใดในโลกหล้าก็มิอาจต้านทานพลังประชาชนได้ ประวัติศาสตร์การเมืองจะซ้ำรอยในอดีตหรือไม่ ผมถามว่าใครเป็นคนเขียนประวัติศาสตร์ เหล่าทรราชทั้งหลายเขียนเองทั้งสิ้น


You must be logged in to post a comment Login