ยุคผีบุญ / โดย พระพยอม กัลยาโณ

• Tweet
• 

คอลัมน์ : สำนักข่าวพระพยอม

ผู้เขียน : พระพยอม กัลยาโณ

เรื่องความเชื่อในลักษณะปาฏิหาริย์ อำนาจวิเศษที่เราชอบใช้คำว่า “พวกพลัดหลักแล้วคลำหาฤทธิ์” คงจะยังไม่หมดไป อย่างวัดงิ้วลาย วัดท่าไม้ ที่มีข่าววิพากษ์วิจารณ์ว่ามีกิจกรรมพิธีกรรมอย่างนั้นอย่างนี้ พระหมอ พระทำนายต่างๆนานา เรื่องแบบนี้มีมานานแล้ว

จำได้มั้ยเมื่อก่อนมีการประโคมข่าวว่าใครเกิดปีมะต้องไปสะเดาะห์อย่างนั้นอย่างนี้ ไม่เลือกปีอื่นอย่างปีจอปีกุน ปีฉลู ฯลฯ ที่มันได้จอเดียว แต่ปีมะมี 4 มะทั้งมะแม มะโรง มะเมีย มะเส็ง คนตกเป็นเหยื่อมากมาย ทั้งที่เป็นเรื่อง “กฎแห่งกรรม” แต่ให้ขอ “ขมากรรม”

แปลกมั้ยขมากรรมด้วยการทำพิธีปลดทุกข์ เปลื้องทุกข์ให้คนอื่น แต่เจ้าพิธีกลับทำกรรมเสียเอง โดนชาวบ้านขับไสไล่ส่ง ชาวบ้านไม่ได้งมงายทุกคน บางคนเจ็บป่วยแต่ไปรักษาที่ไหนก็ไม่หาย ทำให้เชื่อว่าเป็นโรคเวรโรคกรรม พอมีคนบอกให้ทำพิธีขอขมากรรมแก้เวรกรรมชาติก่อนๆ คนพวกนี้จะหลอกลวงเพราะรู้ว่าจริงๆพระก็ไม่ได้มีญาณวิเศษล่วงรู้ชะตากรรมชาติในอดีต แต่อุปโลกน์ผู้หญิงคนหนึ่งมาเป็นผู้รู้แจ้งเห็นจริง เป็นอภิญญาหรือไม่ ก็ไม่ได้ปรักปรำ แต่ส่วนใหญ่เป็นพวกอวดอุตริมนุสธรรม

พวกต้มตุ๋นที่เอาศรัทธามาหากิน เดี๋ยวนี้จึงมีมากมาย ไม่จบไม่สิ้น ห้ามขายพระเครื่อง ห้ามปลุกเสกในโบสถ์  ก็ไปขายตามห้าง  เดี๋ยวนี้พัฒนาเหรียญหลวงปู่ หลวงพ่อ หลวงตาสารพัด แม้แต่แม่นาค พี่นวลยังขายกัน 6-7 หมื่น เมืองไทยจึงกลายเป็นพุทธพลัดหลักเที่ยวคลำหาฤทธิ์กันไปทั่ว ทั้งภูตผีปิศาจ ปลุกเสกเป่าสารพัด จนพวกวิญญาณคงไม่ได้หลับได้นอน รบกวนวิญญาณกันเหลือเกิน บางคนเป็นนักร้องยังผันตัวมาเป็นผู้รู้เรื่องภูตผีปิศาจ ไม่รู้ว่าเมืองไทยจะย้อนยุคไปยุค “ผีบุญ” หรือไม่

ยุค “ผีบุญ” ต้องปราบปรามถึงขั้นเอามาประหารชีวิตกันเลย เพราะเหิมเกริมถึงกับเป็นกบฏจะยึดประเทศ เรื่องที่คนยุ่งกับผีจึงมีมานานแล้ว คนเป็นๆที่มีทุกข์จึงไปพึ่งพวกนี้ เพราะไม่มีใครช่วยเหลือช่วยดูแล เอาคำสอนดีๆไปให้บรรเทาทุกข์ อย่างการควบคุมผัสสะ ไม่ต้องไปห่วงเรื่องกรรม ถ้าควบคุมผัสสะได้ กรรมมันก็ไม่ไปต่อยอดให้มีทุกข์มีคดีอะไร

ก็หวังว่าเมืองไทยจะหูตาสว่าง ไม่มืดบอดมืดมนไปกับภูติผีปิศาจ เกิดกลุ่ม “ผีบุญ” ออกมาขายความงมงายกันไปจบไม่สิ้น ญาติโยมอย่าเอาตัวไปพึ่งหมอดู หมอไสยศาสตร์เลย  เราดูตัวเองยังรู้ดีกว่าหมอดูอีก รู้ว่าร่างกายเราเจ็บป่วยก็ดูแลรักษาให้ดี ถ้าอาการหนักก็ต้องไปโรงพยาบาลให้หมอจริงๆดู ไม่ใช่หอบสังคารไปหาหมอดู หมอไสยศาสตร์ คนเราต้องดูแลตัวเองก่อน อย่างคำสอนว่า “อัตตาหิ อัตโนนาโถ” ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน

พี่นวล ปั้นเหน่ง แม่นาค แก่ตายไปนานแล้ว จะเอาอะไรกับแกอีก อย่าให้แกเหนื่อยหลายภพหลายชาติอีกเลย หากสติปัญญาคนไทยยึดติดกับภูตผีปิศาจก็คงยากที่จะหลุดพ้นจากความงมงาย แทนจะเชื่อ “กฎแห่งกรรม” เชื่อในความเพียร อยู่บนพื้นฐานความถูกต้อง ความชอบธรรม

เจริญพร

You must be logged in to post a comment Login