วันพฤหัสที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2567

คสช. ต้องพึ่งจมูก กปปส. หายใจ! / โดย ประชาธิปไตย เจริญสุข

On July 24, 2017

คอลัมน์ : ฟังจากปาก

ผู้เขียน : ประชาธิปไตย เจริญสุข

ถ้าเป็นรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง 3 ปีที่มีสภาพอย่างนี้ กระแสเรียกร้องต่างๆคงจะมีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ ยิ่ง คสช. เข้ามาพร้อมกับความคาดหวังของผู้คนจำนวนมากเพื่อปฏิรูปในหลายๆเรื่อง ถามว่า 3 ปีที่ผ่านมามีอะไรจับต้องได้บ้าง มาตรการที่ช็อกประชาชนที่สุดเรื่องหนึ่งคือ พ.ร.ก.เดินเรือในน่านน้ำไทย ซึ่งมีปัญหาสิ่งล่วงล้ำลำน้ำ แต่กลับกระทบต่อท่าเรือของชาวบ้าน กระชังปลา และการทำมาหากินอย่างมาก หรือ พ.ร.ก.แรงงานต่างด้าว ทั้ง 2 เรื่องเป็นคำสั่งมาตรา 44 ที่ส่งผลต่อแรงเสียดทานกับ คสช. อย่างมากขณะนี้

วันนี้ทุกคนคิดว่าบ้านเมืองพร้อมจะเดินไปข้างหน้า ไม่ได้มีเหตุการณ์วุ่นวายเรื่องม็อบชนม็อบ ประเด็นความมั่นคงเฉพาะหน้ามันผ่านไปแล้ว วันนี้ทุกคนต้องการเรื่องความเป็นอยู่ เรื่องปากท้อง ซึ่งจะเป็นแรงกดดัน คสช. เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เราจะเห็นว่ามีการท้วงติง ตำหนิติเตียน วิพากษ์วิจารณ์ชนิดไม่เกรงใจกัน ไม่ใช่แค่ปฏิรูปภาษี ปฏิรูปการค้า ปฏิรูปพลังงาน หรือปฏิรูปตำรวจ

ที่น่าสนใจคือ กลุ่มที่มีท่าทีแบบนี้ทั้งหมดเป็นคนที่เคยสนับสนุน คสช. มาเมื่อ 3 ปีก่อนทั้งสิ้น เราเห็นท่าทีของ กปปส. ที่ออกมาเปิดเกมเรื่องการซื้อขายตำแหน่ง จนกระทั่งเร่งรัดให้แต่งตั้งคณะกรรมการปฏิรูปตำรวจ แกนนำ กปปส. ออกมากดดันรัฐบาลประเด็นต่างๆ เรื่องราคายางพาราก็ถูกยกระดับโดยแกนนำ กปปส. ผมกำลังจะบอกว่าคนซึ่งรักสุดใจมาก่อน วันนี้สถานภาพเปลี่ยนไป เพราะคนรู้สึกผิดหวังมากกับ คสช. แรงกดดันวันนี้มีทั้งคนที่เคยรัก อีกปีกหนึ่งที่ไม่เห็นด้วยทั้งพรรคเพื่อไทย คนเสื้อแดง หรือผู้เรียกร้องประชาธิปไตยต่างๆที่ถูกคดีความ ถูกเรียกไปปรับทัศนคติ

ดังนั้น ช่วงเวลาที่เหลืออยู่ก่อนโรดแม็พเลือกตั้ง คสช. ต้องจัดการแกะประเด็นตรงนี้ให้หลุด เพราะถ้าแกะไม่หลุดการสืบทอดอำนาจที่วางไว้กี่รูปแบบก็มีปัญหาแน่นอน และจะนำไปสู่ความรุนแรงทางการเมืองในอนาคต เพราะกฎกติกาที่ คสช. วางไว้แก้ไขได้ยากมาก มันจะเกิดเดดล็อกแน่นอน

กปปส. เป็นหอกข้างแคร่ คสช.

ผมใช้คำว่าวางบิลดีกว่า ต้องยอมรับความจริงว่าในการรับรู้ของแกนนำและมวลชน กปปส. คสช. จะไม่มีถ้าคนกลุ่มนี้ไม่เป็นบันไดให้ วันนี้เขากำลังมาวางบิลว่า 3 ปีที่ผ่านมา สิ่งที่พวกเขาเรียกร้องให้คุณเข้ามาปฏิรูป คุณปฏิรูปอะไรได้บ้าง เพราะฉะนั้นเราจะเห็นอาการ “จิ๊กโก๋อกหัก” อย่างเข้มข้นมากขึ้นจากคนที่เคยรักนี่แหละ ผมจำได้ว่าตอนที่ชุมนุมที่สวนหลวงมีทั้งเอ็นจีโอ สารพัดภาคประชาสังคม ขึ้นเวทีสนับสนุนให้เกิดการเปลี่ยนแปลง เกิดการปฏิรูป คำถามคือวันนี้คนกลุ่มนั้น เครือข่ายปฏิรูปที่ดิน เครือข่ายบัตรทอง เครือข่ายสุขภาพ เครือข่ายปฏิรูปพลังงาน และอีกหลายเครือข่าย รู้สึกผิดหวังมากๆที่ข้อเสนอของแต่ละกลุ่มไม่ได้รับการตอบสนองจาก คสช. เลย ผมคิดว่านี่จะเป็นแรงกดดันมากกว่ากรณีพรรคเพื่อไทยและคนเสื้อแดงด้วยซ้ำไป

เปิดช่องให้สืบทอดอำนาจ

เป้าหมาย คสช. ต้องการจะสืบทอดอำนาจต่อแน่นอนอยู่แล้ว แต่ปัญหาคือ คสช. กำลังจะหมดเวลาตามโรดแม็พ ถ้าต้องการสืบทอดอำนาจต่อก็ต้องเปลี่ยนรูปแบบ ต้องสืบทอดอำนาจผ่านกระบวนการเลือกตั้ง แม้ว่าท่านจะแต่งตั้ง ส.ว. 250 เสียง ก็ไม่เพียงพอที่จะบริหารประเทศไปอีก 20 ปี ตามกรอบยุทธศาสตร์ที่วางไว้ เพราะฉะนั้น คสช. จำเป็นต้องพึ่งจมูก กปสส. หายใจ ปฏิเสธไม่ได้ว่า กปปส. มีคะแนนเสียงสนับสนุนเป็นกลุ่มเป็นก้อน จะผ่านในนามพรรคการเมืองไหนก็แล้วแต่ ดังนั้น รูปแบบความสัมพันธ์ตรงนี้ผมคิดว่าช่วงเวลาที่เหลืออยู่จะนำความยุ่งยากมาให้ คสช. เป็นอย่างมาก ยิ่งใกล้วันเลือกตั้งมากเท่าไร เรื่องกระบวนการจัดสรรอำนาจหลังการเลือกตั้งถ้าไม่ชัดเจนก็จะนำไปสู่ความคับข้องใจของมวลชนซึ่งเคยให้การสนับสนุน คสช.

ปี 2561 จะมีเลือกตั้งหรือไม่

โรดแม็พการเลือกตั้งยังเป็นเป้าหมายที่ คสช. ต้องวางเอาไว้ ไม่อย่างนั้นแรงเสียดทานจะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะจากต่างประเทศ เช่น กรณีองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ หรือกรณีประมงผิดกฎหมาย เราปฏิเสธไม่ได้ว่าเกิดจากแรงกดดันของนานาชาติ ผู้ประกอบการซึ่งเป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจจะมีปัญหารุนแรงมากขึ้น เพราะฉะนั้นผมคิดว่าวันนี้ คสช. ยังคงเป้าหมายตามโรดแม็พ แต่ปัญหาวันนี้ความศักดิ์สิทธิ์ของ คสช. ไม่เหมือนเมื่อ 3 ปีก่อน จะเห็นได้ว่าแม่น้ำอีก 4 สายหรือ 3 สายที่เหลืออยู่ก็ไม่ฟัง คสช. มีพฤติกรรมแปลกๆในทำนองไม่ฟังกันหรือสมรู้ร่วมคิดกัน จะมองมุมไหนก็ไม่เป็นผลดีต่อ คสช. เลย เพราะชีวิตในสังคมต้องคิดถึงความอิ่มท้อง ความอยู่รอดปลอดภัยของตัวเองและครอบครัวก่อน วันนี้ด้วยเศรษฐกิจเป็นแบบนี้ มาตรการอัดฉีดของรัฐบาลซึ่งมีหลายมาตรการตลอด 3 ปี ทุกคนส่ายหน้าหมด ถ้าเนิ่นนานต่อไปจำนวนแฟนคลับของ คสช. จะกลับกดดัน คสช. มากขึ้น

ยิ่งถ้าไม่มีเลือกตั้ง คสช. จะอยู่ยากขึ้นแน่นอน แรงกดดันทั้งต่างประเทศและในประเทศจะเข้ามาบีบพร้อมๆกัน พอถึงตรงนั้นทุกฝ่ายเห็นพ้องต้องกันหมดว่ามันจะนำไปสู่เดดล็อกทางการเมือง เลือกตั้งก็เดินต่อไปไม่ได้ ผมไม่อยากจะใช้คำนี้คือโอกาสที่จะเกิดเหตุการณ์ปะทะกันมีแนวโน้มจะเกิดขึ้น เพราะไม่รู้ว่าจะหาทางออกกันยังไง ส่วนหนึ่งเกรงกลัวอำนาจของ คสช. จะลดน้อยลงตามกาลเวลา เราจะเห็นว่าพี่น้องเกษตรกรหลายภาคส่วนหรือเครือข่ายต่างๆมีการนัดชุมนุมกัน ซึ่งผิดคำสั่งของ คสช. แต่คำสั่งนี้ไม่สามารถบังคับได้จริงอีกแล้ว เพราะไม่มีความชอบธรรม เนื่องจากเป็นปัญหาปากท้องของประชาชน เพราะฉะนั้นถ้าปี 2561 ไม่มีการเลือกตั้งจะยิ่งถูกกดดัน ถ้ายังรวมศูนย์อำนาจอยู่อย่างนี้โดยไม่มีคำตอบที่ชัดเจนว่าจะมีการเลือกตั้งเมื่อไร ผมคิดว่ามีแนวโน้มที่จะนำไปสู่การปะทะกัน ซึ่งไม่มีใครอยากให้ไปถึงจุดนั้น

ทหารจะยึดอำนาจอีกหรือไม่

เงื่อนไขตรงนั้นคงไม่ใช่สิ่งที่กองทัพจะเข้ามาจัดระเบียบได้โดยลำพังอีกแล้ว โอกาสที่กองทัพจะเข้ามาจัดระเบียบแล้วอยู่กันไป 10 ปี ผมคิดว่ามวลชนที่เคยสนับสนุนจะอดทนไหวหรือไม่ อย่างที่บอกพอถึงสุดท้ายทุกฝ่ายจะออกมาแสดงพลัง ตรงนี้ฉันไม่ชอบนะ ตรงนี้ฉันขอความชัดเจนนะ ตรงนี้ฉันอยากจะเข้าไปมีส่วนกำหนดนะ จะเกิดสภาพเดดล็อกที่มีผลต่อการขับเคลื่อนประเทศ มันเดินไปไม่ได้แน่ๆ การใช้อำนาจทหารเข้ามาแก้ไขปัญหาจะไม่ง่ายเหมือน 3 ปีก่อนที่ คสช. เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในความขัดแย้งด้วย แล้ววันนี้ท่านจะใช้กำลังอาวุธเหนือคนอื่นเข้ามาจัดการใหม่อีกรอบหนึ่งนั้นจะเกิดปัญหาเรื่องความชอบธรรมและการยอมรับอย่างมาก

วันนี้ต้องหยุดได้แล้วและผลักดันโรดแม็พการเลือกตั้งให้เป็นไปตามกำหนด แล้วปล่อยให้การเมืองเขาแข่งขันกัน ต่อรองกันตามระบบปรกติ มีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ มีการตรวจสอบผ่านองค์กรอิสระ สังคมจะมีทางออก แต่วันนี้ถูกมาตรการทางกฎหมายของ คสช. จัดการหมด แม้แต่ฝ่ายที่เคยรัก คสช. ยังมีความอึดอัดคับข้องใจอย่างมาก มันไม่มีรูระบาย ทำได้มากที่สุดคือไปยื่นหนังสือที่ศาลากลางจังหวัด หรือยื่นหนังสือข้างทำเนียบรัฐบาล ซึ่งไม่เพียงพอ หลายปัญหาต้องมีการปฏิรูปในเชิงโครงสร้าง แต่ คสช. ยังไม่ได้ทำ เพราะฉะนั้นเผือกร้อนแบบนี้มีวิธีเดียวคือต้องรีบผ่องถ่ายให้รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง

ผมคิดว่าการประเมินสถานการณ์ของฝ่ายที่เป็นลูกหาบของ คสช. ท่านต้องคิดใหม่เหมือนกัน อะไรก็ตามที่พยายามจะเอาใจผู้มีอำนาจโดยที่ไม่คำนึงถึงบ้านเมืองในอนาคตต้องทบทวน หรือบางส่วนใน คสช. อาจส่งซิกให้ทำ ท่านก็ต้องหยุดพฤติกรรมเช่นนี้ ไม่อย่างนั้นจะสร้างภาระใหญ่หลวงให้กับคนรุ่นหน้าแน่ๆ

ส่วนมีโอกาสจะเกิดการปฏิวัติโดยประชาชนหรือไม่ ผมยังนึกไม่ออก แต่หากเราลองนึกถึงสภาพของคนจำนวนมากที่ไม่มีทางออกจะเกิดอะไรขึ้น ถามว่าสถานการณ์ขณะนี้ คสช. กำลังแพ้ภัยตัวเองหรือไม่ ผมคิดว่า คสช. แพ้ด้วยกาลเวลา เพราะ 3 ปีที่ผ่านมา ประชาชนคาดหวังและให้โอกาส คสช. ใช้อำนาจพิเศษสูงมาก แต่ไม่ได้ตอบความต้องการของคนที่สนับสนุน คสช. เลย

ทหารจะเปลี่ยนรัฐบาลหรือไม่

จะแต่งตั้งรัฐบาลชุดใหม่หรือไม่ก็แล้วแต่ ถ้าไม่เป็นไปตามกระบวนการประชาธิปไตยมันก็แก้เดดล็อกไม่ได้ เผลอๆจะสร้างเดดล็อกขึ้นมาอีกชั้นหนึ่งด้วยซ้ำไป ผมขอย้ำว่ามีอยู่ทางเดียวที่จะไม่นำไปสู่จุดตรงนั้นได้คือ เลือกตั้งตามโรดแม็พ หรือเลือกตั้งให้เร็วที่สุด เพราะ คสช. แต่งตั้งแม่น้ำทั้ง 4 สายทั้งหมด

ผมมีข้อเสนอเดียวคือเลือกตั้งให้เร็วโดยเร่งออกกฎหมายลูก ส่วน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะมาเป็นนายกรัฐมนตรีคนนอกหรือไม่ ผมเชื่อว่าหลังการเลือกตั้งจะเต็มไปด้วยการต่อรองแบบ 30 ปีที่แล้ว แม้ ส.ว. จะเป็นพรรครัฐบาลที่มาจากการแต่งตั้ง แต่กิจกรรมบางอย่าง ส.ว. เกี่ยวข้องไม่ได้ อย่างการลงมติอภิปรายไม่ไว้วางใจ นอกจากนี้ยังผูกว่าต้องทำตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีอีก แล้วท่านจะรู้ว่าท่านอยู่ในฐานะที่ทำอะไรไม่ได้เลยเพราะรัฐธรรมนูญที่ท่านเขียนเอง

ทิศทางอนาคตประชาธิปไตย

กฎกติกาต่างๆที่ยกร่างในวันนี้ แม้จะแก้ไขยากแต่ยังมีช่องที่จะแก้ไขได้ แต่ถ้าไม่มีการเลือกตั้ง นโยบายต่างๆจะไม่มีใครเข้ามามีส่วนร่วมเลย มันจะสร้างแรงกดดันให้สังคม ผมอยากบอกประชาชนที่มีใจรักประชาธิปไตยว่า วันนี้เราต้องหันมามองและติดตามการทำงานของ คสช. ว่าจะให้เป็นไปตามโรดแม็พอย่างไร ถ้าเราชอบ คสช. ก็สามารถไปเลือกพรรคการเมืองที่สนับสนุน คสช. และถ้าชนะการเลือกตั้งก็จะเกิดความชอบธรรมมากขึ้น แต่ถ้ากลัวบรรยากาศประชาธิปไตยแล้วบอกว่าอยู่กันไปอย่างนี้ บังเอิญ คสช. เชื่อก็จะยิ่งทำให้เกิดเดดล็อกที่แก้ได้ยากมากยิ่งขึ้น เอาบ้านเมืองมาเสี่ยงแบบนี้ไม่ได้ เพราะทุกคนในแผ่นดินนี้ล้วนเป็นหนึ่งในหุ้นส่วนของแผ่นดินเท่ากัน


You must be logged in to post a comment Login